โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

“กรุงเทพประกันภัย” ประกาศผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 2567 ทำกำไร 2,290.7 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 23,122.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2%

daradaily

อัพเดต 27 พ.ย. 2567 เวลา 11.33 น. • เผยแพร่ 27 พ.ย. 2567 เวลา 11.35 น.

“กรุงเทพประกันภัย” ประกาศผลการดำเนินงาน 9 เดือน ปี 2567 ทำกำไร 2,290.7 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยรับรวม 23,122.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.2%

“ดร.อภิสิทธิ์ อนันตนาถรัตน” ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BKI เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) บริษัทฯ มีเบี้ยประกันภัยรับรวม 23,122.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 5.2 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีผลกำไรสุทธิจากการรับประกันภัยหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานแล้ว 1,361.9 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 15.9 ส่วนกำไรจากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 1,304.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 14.4 ทำให้บริษัทฯ มีกำไรก่อนหักค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ 2,666.2 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3.4 และมีกำไรสุทธิ 2,290.7 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.0 คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 21.51 บาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงรักษาความแข็งแกร่งทางด้านการเงินด้วยการมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน (CAR) สูงกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด โดยอยู่ที่ร้อยละ 178.13 (ณ 30 ก.ย.67) และรักษาอันดับความน่าเชื่อถือทางการเงินในระดับสูงหรือ Credit Rating A- (Stable) (ณ ต.ค. 67) โดย Standard & Poor’s (S&P) สถาบันการจัดอันดับทางการเงินชั้นนำของโลก

อ่านข่าวต่อ:“กรุงเทพประกันภัย” ประกาศแผนปี 2567 ตั้งเป้าเบี้ยฯ 32,500 ล้านบาท มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าใจไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่

ปัจจุบันกรุงเทพประกันภัยเป็นบริษัทย่อยที่สร้างรายได้หลักให้แก่ บริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BKIH ซึ่งประกอบธุรกิจผ่านการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) โดยมุ่งลงทุนในธุรกิจหลักด้านการประกันภัยและธุรกิจอื่นที่หลากหลายและมีศักยภาพ สำหรับผลการดำเนินงานงวด 9เดือนของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.) มีรายได้รวม 17,344.4ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 12.0เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้จากการรับประกันภัย 15,917.3ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.5จากรายได้จากการรับประกันภัยยานยนต์ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และมีรายได้จากการลงทุน 1,427.1ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17.8ซึ่งส่วนใหญ่มาจากเงินปันผลรับและดอกเบี้ยรับ ด้านกำไรสุทธิเท่ากับ 2,277.9ล้านบาท ลดลงร้อยละ 10.5คิดเป็นกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน 21.39บาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท บีเคไอ โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ครั้งที่ 1สำหรับผลการดำเนินงาน 9เดือนแรกของปี 2567ตั้งแต่วันที่ 1มกราคม 2567ถึงวันที่ 30กันยายน 2567ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราหุ้นละ 11.25บาท ซึ่งได้จ่ายเงินปันผลแล้วเมื่อวันที่ 1พฤศจิกายน 2567ที่ผ่านมา

ตอบโจทย์ชีวิตยุคใหม่ สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการที่เข้าใจในทุกความต้องการ

ตลอดปี 2567บริษัทฯ มุ่งมั่นขยายธุรกิจด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย เข้าใจไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด พร้อมส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีผ่านการมอบความคุ้มครองที่ครอบคลุม สอดคล้องกับความเสี่ยงต่างๆ ในรูปแบบ Personalized Insurance โดยในช่วง 9เดือนแรกของปีนี้ กรุงเทพประกันภัยได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ที่เข้าถึงวิถีชีวิตของผู้บริโภคในปัจจุบัน ผ่าน 3เทรนด์ที่น่าสนใจ ได้แก่ เทรนด์ Pet Humanization ที่ผู้คนให้ความสำคัญกับสัตว์เลี้ยงและออกเดินทางร่วมกันมากขึ้น บริษัทฯ จึงเพิ่มความคุ้มครองการเสียชีวิตและค่ารักษาพยาบาลของสัตว์เลี้ยง (สุนัขและแมว) ที่อยู่ภายในรถยนต์เมื่อเกิดอุบัติเหตุจากการชน ให้แก่ผู้เอาประกันภัยรถยนต์ประเภท 1ทุกแผนประกันภัย ทั้งลูกค้าใหม่และลูกค้าต่ออายุประกันภัย ตั้งแต่วันที่ 15กรกฎาคม 2567โดยไม่ต้องเสียค่าเบี้ยประกันภัยเพิ่มเติมแต่อย่างใด

ตามมาด้วยประกันภัยรถยนต์ประเภท 1อุ่นใจวัยเก๋า เพื่อรองรับสังคมสูงวัย (Aging Society) ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนอายุ 55-75ปี ที่ชอบขับรถยนต์ด้วยตนเองในชีวิตประจำวัน ซึ่งเริ่มนำเสนอขายเมื่อเดือนสิงหาคม 2567รวมถึงประกันภัยสุขภาพ Telemedicine ที่พัฒนามาเพื่อรองรับบริการแพทย์ทางไกลให้ลูกค้าได้รับความสะดวกและเข้าถึงง่ายยิ่งขึ้น ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยเริ่มนำเสนอขายไปแล้วในช่วงเดือนกันยายน 2567ที่ผ่านมา

พร้อมยกระดับนวัตกรรมการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้าและคู่ค้าผ่านการให้บริการที่มีคุณภาพ เหนือความคาดหวัง สะดวก รวดเร็ว และดูแลเอาใจใส่ในทุกความต้องการของลูกค้า มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม ต่อยอดสู่ความเป็นเลิศในการให้บริการที่ไว้วางใจได้ ทุกที่ ทุกเวลา โดยที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้มีการพัฒนาด้านบริการสินไหมทดแทนยานยนต์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าให้ได้มากที่สุด อาทิ การพัฒนาระบบ i-Claim บริการเคลมรถยนต์ออนไลน์ บริการ Self Service Notification และการอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าประกันภัยรถยนต์ด้วยการไม่ต้องสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอก (OPD) เป็นต้น

ล่าสุดบริษัทฯ ได้เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าตามไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน ด้วยการพัฒนาต่อยอดการให้บริการลูกค้าผ่าน LINE @bangkokinsurance ที่ตอบโจทย์ด้านความสะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย ซึ่งได้ดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2ปี 2567โดยอัตราการแจ้งเคลมรถยนต์ผ่าน LINE เพิ่มขึ้นกว่า 61% (เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน) สะท้อนให้เห็นถึงพฤติกรรมของลูกค้าที่ต้องการเลือกใช้บริการที่สะดวกและรวดเร็วผ่านช่องทางออนไลน์ บริษัทฯ จึงได้ขยายการให้บริการฟังก์ชันแจ้งเคลมรถน้ำท่วม ให้ลูกค้าสามารถนำใบแจ้งเคลมผ่านช่องทาง LINE นำรถเข้าซ่อมอู่ได้ทันที ไม่เพียงเท่านี้ยังเพิ่มช่องทางการแจ้งเคลมประกันภัยประเภทอื่นๆ เช่น ประกันอัคคีภัย ประกันภัยไซเบอร์ และประกันภัยโดรน รวมถึงเปิดให้สามารถแจ้งขอเอกสารลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย พร้อมกันนั้น บริษัทฯ ยังได้พัฒนาการบริการที่อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้ามากยิ่งขึ้น ด้วยการส่งมอบใบแจ้งความเสียหายผ่านออนไลน์ โดยให้ลูกค้าสามารถเลือกรับเอกสารในรูปแบบไฟล์ดิจิทัล ผ่าน LINE และ Email ได้ทันทีจากเจ้าหน้าที่สำรวจอุบัติเหตุ ณ จุดเกิดเหตุ และสามารถส่งต่อไฟล์เอกสารดังกล่าวให้อู่ซ่อมได้อย่างรวดเร็ว เพื่อจองคิวซ่อมหรือจัดหาอะไหล่ไว้ล่วงหน้าก่อนเข้าซ่อมจริง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการสูญหาย อีกทั้งยังส่งเสริมการลดใช้กระดาษเพื่อสิ่งแวดล้อม โดยเริ่มดำเนินการต่อเนื่องมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการใส่ใจดูแลลูกค้า ด้วยการเพิ่มความอุ่นใจผ่านระบบติดตามสถานะการดำเนินงาน (Progress Tracking) โดยกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาเเละเริ่มเปิดให้ลูกค้าใช้บริการด้านสินไหมทดแทนยานยนต์บางส่วน คาดว่าจะให้บริการอย่างเต็มรูปแบบได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 1ปี 2568ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถตรวจสอบสถานะในขั้นตอนและกระบวนการต่างๆ ได้ด้วยตนเอง ผ่านช่องทาง LINE @bangkokinsurance ครอบคลุมทั้งงานด้านการรับประกันภัย การชำระเบี้ยประกันภัย และงานสินไหมทดแทน เช่น ตรวจสอบสถานะผลการตรวจสภาพรถยนต์ ขั้นตอนการจัดส่งกรมธรรม์ประกันภัย การชำระเบี้ยประกันภัย รวมถึงการตรวจสอบสถานะการเคลมสินไหมทดแทนว่าอยู่ในขั้นตอนใด เช่น การรับเอกสารการเคลม การตรวจสอบเอกสารการเคลม การประเมินราคา การจัดซ่อม การส่งมอบรถ การอนุมัติค่าสินไหมทดแทน และการโอนค่าสินไหมทดแทน เป็นต้น สำหรับตัวแทนและนายหน้าซึ่งเป็นคู่ค้าของบริษัทฯ จะสามารถตรวจสอบสถานะดังกล่าวได้อย่างรวดเร็วผ่านช่องทาง Web Partner และเตรียมขยายช่องทางให้บริการลูกค้าและคู่ค้าผ่านช่องทาง Mobile Application อีกด้วย

ด้านการยกระดับคุณภาพการบริการของอู่ซ่อมในสัญญา เพื่อให้บริการลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถสร้างความประทับใจนั้นเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง เพราะอู่ซ่อมในสัญญานับเป็นหนึ่งใน Supply Chain ที่สำคัญของธุรกิจประกันภัย อีกทั้งปัจจุบันกรุงเทพประกันภัยยังมีสัดส่วนเบี้ยประกันภัยรถยนต์สูงกว่า 44%บริษัทฯ จึงส่งเสริมการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยได้จัดส่งทีมวิศวกรสำรวจภัยที่มีความเชี่ยวชาญเข้าสำรวจความเสี่ยงภัยของอู่ซ่อมในสัญญา เพื่อให้ข้อเสนอแนะแก่อู่ซ่อมให้มีการปรับปรุงเพื่อลดความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้น พร้อมส่งเสริมให้มีการปรับปรุงมาตรฐานและลดการปฏิบัติงานที่อาจสร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนรอบข้าง เช่น การจัดการของเสียอย่างเหมาะสม การจัดทำแผนฉุกเฉินกรณีเกิดการรั่วไหลของสารเคมี การมีระบบบำบัดน้ำเสีย การควบคุมมลพิษทางเสียงและมลพิษทางอากาศที่อาจเกิดจากพ่นสีหรือซ่อมเครื่องยนต์ ตลอดจนให้ความรู้ผ่านกิจกรรม “ความปลอดภัยเริ่มที่ตัวเรา” โดยจัดอบรมให้ความรู้แก่ลูกค้า คู่ค้า รวมถึงอู่ซ่อมในสัญญาให้มีความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการจัดการความปลอดภัย การป้องกันอัคคีภัยในสถานประกอบการ รวมถึงการจัดการด้านมลพิษ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพัฒนาการให้บริการของอู่ซ่อมในสัญญาด้วยการจัดส่งคะแนนผลสำรวจความพึงพอใจและข้อเสนอแนะจากลูกค้าแก่อู่ซ่อมในสัญญาเป็นประจำทุกเดือน พร้อมกำหนดเกณฑ์และมาตรการที่จะนำไปปรับปรุงงานซ่อมรถยนต์ร่วมกัน โดยหลังจากได้เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567มีผลตอบรับที่ดีและอู่ซ่อมสามารถเพิ่มคะแนนความพึงพอใจจากลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง

จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เข้าใจไลฟ์สไตล์ยุคใหม่และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับการบริการที่มีประสิทธิภาพ สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงง่าย เเละสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้าเเละคู่ค้า ส่งผลให้บริษัทฯ เติบโตเเละมีผลการดำเนินงานที่ดี อย่างไรก็ตามธุรกิจประกันวินาศภัยยังต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน อาทิ การลงทุนภาครัฐที่ชะลอตัว ค่าเงินที่มีความผันผวนสูง กำลังซื้อของผู้บริโภคที่หดตัวจากภาวะหนี้สินครัวเรือน ปัญหาภัยธรรมชาติ รวมทั้งปัจจัยอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...