โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

เร่งกฎหมาย ปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป “พีระพันธุ์” หวังช่วยเลิกใช้ไฟแพง

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 29 ธ.ค. 2567 เวลา 00.52 น. • เผยแพร่ 29 ธ.ค. 2567 เวลา 00.52 น.

“พีระพันธุ์” เร่งทำผลงานส่งท้ายปี ดันร่างกฏหมายปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป สนพ.เผยความต้องการใช้ไฟฟ้าปี’68 ใกล้เคียงปีนี้ คาดขยายตัวเพียง 2.5% ขณะที่สถิติ 9 เดือนแรกปี’67 ใช้ไฟเพิ่มพรวด 6.1% พิษอากาศร้อน แถมท่องเที่ยวคึกคัก

นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กำลังเตรียมนำเสนอร่างกฎหมายสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานจากแสงอาทิตย์ (ระบบโซลาร์รูฟท็อป) เนื่องจากปัจจุบันการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปมีความยุ่งยาก ซับซ้อน และมีราคาแพง รวมถึงมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องถึง 5 แห่ง เช่น ที่ทำการท้องถิ่น (เขต), คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.), การไฟฟ้านครหลวง/การไฟฟ้าภูมิภาค

ทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้นำเสนอร่างกฎหมายต่อคณะรัฐมนตรีให้ยกเว้นการผลิตพลังงานไฟฟ้าจากโซลาร์รูฟท็อปทุกกำลังการผลิตที่ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงาน ไม่ต้องขอใบอนุญาตอีก ในขณะที่ กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ก็เร่งรัดการออกกฎหมายเพื่อปลดล็อคเรื่องการขออนุญาตติดตั้งเช่นกัน ส่วนปัญหาราคาในการติดตั้งอุปกรณ์โซลาร์ที่มีราคาแพงนั้น กระทรวงพลังงานได้มีการวิจัยและพัฒนาอุปกรณ์อินเวอร์เตอร์ในราคาที่ต่ำกว่าท้องตลาดอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง ซึ่งผ่านการทดสอบคุณภาพจาก สวทช. ในขั้นตอนแรกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีการวิจัยการประดิษฐ์แบตเตอรี่สำหรับกักเก็บพลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติม ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานจะนำร่างกฎหมายดังกล่าวเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 25 ธันวาคม 2567

“ผลของกฎหมายนี้จะช่วยให้ประชาชนหลุดพ้นจากภาระค่าไฟแพง ช่วยสร้างอาชีพใหม่ คือ อาชีพติดตั้งโซลาร์เซลล์-รูฟท็อป ได้เตรียมเสริมสร้างทักษะอาชีพที่ผ่านการอบรมจากกระทรวงพลังงาน รวมถึงการปรับปรุงเงื่อนไขของกองทุนสนับสนุนให้กับพี่น้องประชาชนที่ต้องการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปไว้แล้วด้วย” นายพีระพันธุ์กล่าว

คาดรัฐตรึงค่าไฟฟ้ายาวทั้งปี’68

นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) เปิดเผยว่า ความต้องการใช้พลังงานในปี 2568 คาดว่าจะมีแนวโน้มอยู่ในระดับเดียวกันหรือใกล้เคียงกับปี 2567 โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าในปี 2568 ยังคงเติบโตตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ ประกอบกับการผลิตไฟฟ้านอกระบบทยอยเพิ่มสัดส่วนมากขึ้น รวมถึงการปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป ไม่ต้องขออนุญาต ทำให้หันมาผลิตไฟฟ้าใช้เองในครัวเรือนมากขึ้น

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) คาดว่า การใช้ไฟฟ้าทั้งในและนอกระบบการไฟฟ้าจะขยายตัว 2.5% ในปี 2568 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และขยายตัว 3.0% ในปี 2569-2571 จากการส่งเสริม Direct PPA/IPS ที่มากขึ้น ขณะที่ค่าไฟฟ้าปี 2568 คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงปี 2567 ที่ 4.10-4.20 บาท/หน่วย จากนโยบายลดค่าพลังงานของรัฐบาล ที่คาดว่าจะตรึงค่าไฟฟ้าให้ใกล้เคียงกับปี 2567 และไม่เกิน 4.18 บาท/หน่วย ซึ่งในค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย. 2568 อยู่ที่ 4.15 บาท/หน่วย

ใช้ไฟฟ้า 9 เดือนปี’67 เพิ่ม 6.1%

สำหรับการใช้ไฟฟ้าช่วง 9 เดือนของปี 2567 รวมทั้งสิ้น 163,311 จิกะวัตต์ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 6.1% โดยการใช้ไฟฟ้าส่วนใหญ่ 41% อยู่ในภาคอุตสาหกรรม มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 2.8% ขณะที่การใช้ไฟฟ้าในภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้น 9.1% ส่วนหนึ่งเกิดจากสภาพอากาศร้อน ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าทั้งปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 216,087 ล้านหน่วย (GWh) เพิ่มขึ้น 5.8% เมื่อเทียบกับปี 2566

สอดคล้องกับการใช้ไฟฟ้าที่ขยายตัวจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดในช่วงต้นปีจากภาวะเอลนีโญ รวมทั้งการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว และการขยายตัวของภาคการส่งออก ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในทุกสาขาเศรษฐกิจโดยเฉพาะสาขาธุรกิจและการใช้ไฟฟ้าในบ้านอยู่อาศัยที่มีการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงมาก ซึ่งความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดในระบบ 3 การไฟฟ้า (System Peak) เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 เวลา 22.24 น. ที่ระดับ 36,792 เมกะวัตต์ เพิ่มขึ้น 5.6% ซึ่งเป็นไปตามที่ สนพ.คาดการณ์ไว้ว่าช่วงฤดูร้อนของปี 2567 อาจเกิดยอดการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (พีก) ของประเทศมากกว่า 35,000 เมกะวัตต์

อานิสงส์ท่องเที่ยว-ส่งออกฟื้น

ด้านการใช้ไฟฟ้าในโรงแรมที่เพิ่มขึ้น 12.2% สอดคล้องกับอัตราการเข้าพักแรมในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 71% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ (GDP) ของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ที่ได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจ ปี 2567 จะขยายตัวในช่วง 2.6% ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและภาคบริการที่เกี่ยวเนื่อง การขยายตัวของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาครัฐ รวมทั้งการขยายตัวของการส่งออกตามการฟื้นตัวของภาคการค้าระหว่างประเทศ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : เร่งกฎหมาย ปลดล็อกโซลาร์รูฟท็อป “พีระพันธุ์” หวังช่วยเลิกใช้ไฟแพง

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.prachachat.net

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...