15 โรงเรียนแปลกที่สุดในโลก สถาบันไหนที่ว่าแน่ ยังต้องยอมแพ้โรงเรียนเหล่านี้

ใครรู้สึกว่าเรื่องของโรงเรียนเป็นเรื่องน่าเบื่อ คงต้องมาพิจารณาบรรดา 15 โรงเรียนแปลกที่สุดในโลกรวบรวมโดย brightside เผยให้เห็นเลยว่า สถาบันการศึกษาเจ๋งๆในโลกยังมีอีกเพียบ

โรงเรียนลอยน้ำ Makoko ตั้งในบริเวณชายฝั่งที่ลากอส ประเทศไนจีเรีย สร้างขึ้นเพื่อรองรับกับปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น ภายในโรงเรียนมีทั้งห้องเรียนและสนามเด็กเล่น สามารถรองรับเด็กๆได้มากถึง 100 คน และเผชิญคลื่นลมแรงได้สบายๆ (ขอบคุณภาพจาก nleworks)

โรงเรียนเปิดจินตนาการ ในโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก รองรับนักเรียน 1,100 คนในอาคารกระจกใส เปิดโล่งให้เห็นบรรยากาศภายนอก พื้นที่ห้องเรียนแยกกันส่วนๆด้วยห้องรูปทรงแปลกตา นั่งเรียน นอนเรียนกันบนพื้นนุ่มๆ เพื่อสร้างความผ่อนคลาย เพื่อหวังส่งเสริมการสร้างจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของเด็กๆ (ขอบคุณภาพจาก Ørestad Gymnasium)

โรงเรียนเน้นศักยภาพของปัจเจกที่ประเทศออสเตรเลีย นอกจากจะตกแต่งอาคารด้วยสีสันที่หลากหลาย ระบบการสอนยังให้นักเรียนแต่ละคนเลือกวางแผนได้ตามความเหมาะสมของตนโดยมีครูและผู้ปกครองปรึกษาร่วมกัน นักเรียนจะเลือกหัวข้อทำรายงานในสิ่งที่ตนสนใจ การเรียนจะจำกัดให้เป็นกลุ่มเล็กๆเพื่อให้ครูและนักเรียนมีปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างทั่วถึง (ขอบคุณภาพจาก wahroongaprep)

โรงเรียนเสริมสร้างประสบการณ์จริงที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งนักเรียนแต่ละคนจะได้เรียนในสิ่งที่ตนสนใจ เพื่อให้นักเรียนที่กำลังเป็นวัยรุ่นเหล่านี้ ค้นพบตัวตนและเป้าหมายของชีวิต แถมยังได้ลงไปฝึกงานจริงกับบรรดาเจ้าของกิจการต่างๆเพื่อเรียนรู้สายอาชีพที่ตนรักแบบเจาะลึก ซึ่งจะเป็นการปูทางไปสู่อาชีพในอนาคต (ขอบคุณภาพจาก bigpicture)

โรงเรียนจำลองออฟฟิศ ที่โอไฮโอ สหรัฐอเมริกา ไหนๆหลายคนออกมาก็ต้องทำงานออฟฟิศละนิ ทางโรงเรียนเลยจัดห้องเรียนเป็นออฟฟิศ แต่ละคนจะมีโต๊ะทำงานของตน มีคอมพิวเตอร์ให้เลือกศึกษาในสิ่งที่ตนสนใจ โดยมีครูคอยให้คำแนะนำ (ขอบคุณภาพจาก carpediemschools)

โรงเรียนท้าทายงานอันตรายที่ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา โรงเรียนผ่าเหล่าที่มีครูให้นักเรียนทำในสิ่งที่ผู้ปกครองมักจะสั่งห้ามทำอย่างเช่นพวกงานช่างต่างๆ ควบคู่ไปกับงานฝีมือและการเรียนการสอนปกติ เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกฝนทักษะที่ยากจะได้ลอง  (ขอบคุณภาพจาก sfbrightworks)

โรงเรียนแห่งความเสมอภาคที่สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โรงเรียนแห่งนี้ จะลบเส้นกั้นการแบ่งแยกทางเพศ คำนิยามที่สร้างความแตกต่างของผู้คน จะไม่มีการใช้คำว่า "เขา" หรือ "เธอ" มีแต่การเรียกชื่อ และใช้คำกลางๆเพื่อปลูกฝังให้เด็กๆรู้จักความเท่าเทียมกัน (ขอบคุณภาพจาก newsweek)

โรงเรียนแห่งการเรียนรู้ที่สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โรงเรียนแห่งนี้ จะลบการออกแบบอาคารเรียนแบบเดิมๆ เพราะทุกจุดจะมีสื่อการเรียนรู้ไปตลอดทาง แถมยังมีพื้นที่ส่วนตัวสำหรับค้นคว้าสิ่งที่สนใจ ไปจนถึงพื้นที่ทำงานกลุ่ม และในทุกจุดจะมีสัญญาณ Wi-Fi ให้ใช้สืบค้นข้อมูล (ขอบคุณภาพจาก archiscene)

โรงเรียนเทคโนโลยี ในสหรัฐอเมริกาและยุโรป โรงเรียนที่เน้นให้เด็กใช้เทคโนโลยีโลกโซเชียลในการหาความรู้ เพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นในวิธีการคิด การเรียนรู้ และช่วยเพิ่มทักษะการใช้เทคโนโลยี เด็กแต่ละคนจะมี iPad ที่บรรจุสารพัดโปรแกรมการสอน รวมไปถึงสื่อสามมิติเพื่อช่วยให้เห็นภาพ (ขอบคุณภาพจาก sfgate)

โรงเรียนสตีฟ จ็อบส์ ที่อัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โรงเรียนที่มุ่งให้เด็กๆได้ค้นหาสิ่งที่ตนถนัดและสนใจ โดยเด็ก พ่อแม่และครูจะช่วยกันวางแผนเลือกโปรแกรมการเรียนที่เหมาะสมกับตน (ขอบคุณภาพจาก stevejobsschool)

โรงเรียนที่คำนึงถึงเรื่องของจิตใจและความคิดสร้างสรรค์ ในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ตั้งตามแนวคิดของผู้ก่อตั้งที่ว่า โรงเรียนควรจะเป็นสนามเด็กเล่นที่เปิดโอกาสให้เด็กๆสนุกกับการเรียนรู้ แถมเนื้อหาการเรียนก็ล้ำสุดๆ เช่น การเรียนรู้การรีไซเคิล, การสร้างผังเมือง นับเป็นโรงเรียนที่เด่นเรื่องเล่นเพื่อการเรียนรู้อย่างแท้จริง (ขอบคุณภาพจาก washingtontimes)

โรงเรียนแห่งการผจญภัยที่สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน โดยห้องเรียนจะถูกออกแบบมาให้เป็นถ้ำ เป็นป่า ภูเขา เพื่อเสริมสร้างความเพลิดเพลิน และเด็กๆแต่ละคนจะมีคอมพิวเตอร์ในการค้นคว้าความรู้ รวมไปถึงการเน้นสอนศิลปะควบคู่ไปด้วย (ขอบคุณภาพจาก rosanbosch)

โรงเรียนไร้หลักสูตรที่โตรอนโต ประเทศแคนาดา ที่นี่นักเรียนกับนักการศึกษาจะอยู่ร่วมกันแบบที่ปรึกษา นักการศึกษาทำหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์ แต่ไม่ได้ออกกฎบังคับให้เด็กต้องทำอะไร ไม่มีวิชาเรียน ไม่มีการบ้าน เพราะเด็กๆจะเป็นคนเลือกเองว่าจะเรียนรู้อะไร จะทำอะไรในโรงเรียน (ขอบคุณภาพจาก billionnews)

โรงเรียนสีเขียวที่ฝรั่งเศศ หนึ่งเดียวในโลกที่เอาสนามหญ้ามาเป็นหลังคา ที่นี่เน้นการให้เด็กๆได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุด หากเป็นช่วงฤดูที่อบอุ่น นักเรียนจะออกมานั่งเรียนกันตรงสนามหญ้า ไม่ต้องนั่งในห้องเรียน (ขอบคุณภาพจาก archdaily)

โรงเรียนที่ไม่เอาความเครียดและความกดดันที่ประเทศฟินแลนด์ ที่แห่งนี้ นักเรียนจะมีอิสรภาพเต็มที่ จะนั่งเรียนตรงไหนก็ได้ แถมพูดคุยกันได้ด้วย เพื่อให้เกิดความผ่อนคลายที่สุดระหว่างเรียน (ขอบคุณภาพจาก finland)

ขอบคุณข้อมูลจาก brightside