ครูวัดมาตรฐานเด็กไทย แล้วอะไร? วัดมาตรฐานครูไทย
เรียกได้ว่าเป็นปัญหาระดับชาติที่เรื้อรังมายาวนาน สำหรับระบบการศึกษาไทย ที่อาจไม่ตอบโจทย์สังคมและตลาดแรงงานของโลกยุคใหม่แล้ว เด็กไทยถูกวัดผลด้วยกระบวนการ “สอบ” ที่มีการแข่งขันสูง และ “การบ้าน” ในระบบท่องจำ ซึ่งเป็นระบบที่ประเทศเพื่อนบ้านได้ทยอยเดินหน้ายกเลิกกันแล้ว ล่าสุด กระทรวงศึกษาธิการของสิงคโปร์ ได้ออกมาแถลงว่า จะยกเลิกการสอบกลางภาคในชั้นประถมและมัธยม เพื่อให้นักเรียนเน้นกระบวนการเรียนรู้และผลลัพธ์จากการเรียนมากกว่าสนใจคะแนนสอบและการแข่งขัน
นอกจากประเด็นเรื่องการวัดมาตรฐานของนักเรียนแล้ว เรื่องที่อาจจะสำคัญกว่าที่สังคมกำลังตั้งคำถาม คือ การวัดมาตรฐานวิชาชีพครูในฐานะผู้ปลุกปั้นอนาคตของชาติ ประเทศไทยเราใช้มาตรฐานอะไรกันอยู่บ้าง และอนาคตจะรักษามาตรฐานแม่พิมพ์ของชาติต่อไปในทิศทางใด
ปัจจุบันคุรุสภาได้กำหนดมาตรฐานวิชาชีพครู เป็น 11 มาตรฐาน ตามข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556 ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2556 โดยมาตรฐานทั้ง 11 ด้าน ประกอบด้วย ความเป็นครู ปรัชญาการศึกษา ภาษาและวัฒนธรรม จิตวิทยาสำหรับครู หลักสูตร การจัดการเรียนรู้และการจัดการชั้นเรียน การวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ นวัตกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศทางการศึกษา การวัดและการประเมินผลการเรียนรู้ และสุดท้ายคือ การประกันคุณภาพการศึกษา คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ
แม้ว่าทั้ง 11 เรื่องจะดูครอบคลุมกับการรักษามาตรฐานวิชาชีพครู แต่หากมาตรฐานที่บังคับใช้อยู่นี้ ไม่ได้แปรผลเป็นคุณภาพการศึกษาและคุณลักษณะของเด็กไทยโดยรวมที่ได้รับการปลุกปั้นให้สามารถดึงศักยภาพมาใช้เท่าทันโลกยุคใหม่ แนวทางของมาตรฐานวิชาชีพครู อาจจะเป็นสิ่งที่ภาครัฐต้องขบคิดอย่างหนัก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 2-3 สิงหาคม 2561 ดร. สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา กล่าวว่า สำนักงานเลขาธิกาคุรุสภาได้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุง แก้ไข กฎระเบียบ ข้อบังคับของคุรุสภา และประกาศของคุรุสภา เนื่องจากบางฉบับไม่ได้บังคับในปัจจุบัน หรือบางฉบับใช้บังคับมาเป็นระยะเวลานาน ทำให้เกิดความไม่เหมาะสมในการใช้บังคับและไม่สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของสังคมในปัจจุบัน ซึ่งหนึ่งในนั้นมีข้อบังคับคุรุสภาว่าด้วยมาตรฐานวิชาชีพ พ.ศ. 2556 รวมอยู่ด้วย
*ทั้งนี้การวัดมาตรฐานวิชาชีพครู อาจไม่ใช่เพียงแค่การที่ครูคนนั้นมีความสามารถครบตามข้อกำหนดของคุรุสภา หากแต่มันคือการดูคุณภาพของนักเรียน นักศึกษา ที่จบการศึกษาออกมาแล้วหรือเปล่า ว่าสามารถทำงานได้จริงมั้ย นำสิ่งที่เรียนมาปรับใช้ได้กับชีวิตจริง สามารถทำงานได้ตรงกับสายที่ร่ำเรียนศึกษามา และเป็นบุคลากรที่มีประโยชน์ต่อสังคมได้มากน้อยเพียงไร ให้สมกับที่เสียเวลาร่ำเรียนมาตลอดถึง หนึ่งในสี่ของชีวิต *
คำกล่าวว่าครูคือแม่พิมพ์ของชาติ ดังนั้นแล้วชิ้นงานจะออกมาได้สวยงามเพียงใด ก็น่าจะขึ้นอยู่กับแม่พิมพ์นั้นว่าสมบูรณ์เพียงไหน ใช่หรือไม่?
แหล่งข้อมูล :
https://brandinside.asia/singapore-cut-mid-year-exams/
http://www.moe.go.th/moe/th/news/detail.php?NewsID=52245&Key=news18
ความเห็น 81
k.chatree
มาตรฐานครูไทย..วัดยาก.เพราะคนที่เป็นครู ส่วนมากมา
จากราชภัชฯ.ซึ่งคนที่เรียนราชภัชฯ เป็นกลุ่มมันสมองระดับล่างๆ.เมื่อจบแล้วมาเป็นครู.นึกภาพเอา.ส่วนหัวดีๆ ไปเรียน มหาลัย หลักๆของรัฐ.ไม่สามารถมาสอบครูได้ เพราะมีกำแพงใบประกอบวิชาชีพกั้น เลยไปทำงานอื่นแทน.งานที่พวกเขาทำจึงก้าวหน้า.แต่งานที่ครูทำถอยหลัง คุณภาพต่างกัน...ขั้นตอนการคัดเลือกครูดี แต่เอื้อสำหรับราชภัชฯ.สิ่งที่วัดมาตรฐานครูไทย คิดว่า คงเป็นสหกรณ์ออมทรัพย์ครู
08 ต.ค. 2561 เวลา 02.00 น.
นักวิชาการดีๆส่วนมากจะแก่ตายไม่ก็เกษียณไปหมดแล้ว ถามว่านักวิชาการดีๆปัจจุบันไปไหนหมด ยังไม่หมดแต่เกือบจะหมดแต่ไร้น้ำยาเติบโตมาแบบด๊อกเตอร์ซื้อกระดาษเป็นส่วนใหญ่ความรู้น้อยนิด(พูดผิดก็ขออภัยครับผม)
06 ต.ค. 2561 เวลา 11.05 น.
เป็นกระทรวงเดียวที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณมากที่สุดในแต่ละปีงบประมาณ แถมยังไปตั้งหน่วยงานทุกจังหวัด ทั้ง ศธจ. ศธภ. สพป. สพม. สช. บลาๆๆๆๆ และแถมไปด้วยการตั้งกระทรวงศึกษาส่วนหน้าที่ 3 จังหวัดภาคใต้ ก็คงต่องรอติดตามดูว่าผลการเรียนของเด็กๆ จะดีขึ้นไหม โดยเฉพาะที่ 3 จังหวัดใต้ ที่รั้งอันดับ 1-3 จากท้ายมาตลอดกาล หวังว่าจะเห็นพัฒนาการที่ดีขึ้นน่ะค่ะ มิใช่เพียงแค่ของบประมาณแผ่นดินมาละเลงกันเอง โดย นร ไม่ได้รับเต็มร้อย# รอติดตามผลงานท่านค่ะ ศธ.
05 ต.ค. 2561 เวลา 16.11 น.
yiew
ครูมีเงินเดือนเหมือนข้าราชการอื่นแหละและมีเงินวิชาชีพอีกอย่าอ้างสวัสดิการ ต้องวัดด้วยความรอบรู้คือรู้ทุกเรื่องที่อยู่ใกล้ตัวและทำเป็น ถ้าตรวจการบ้านเด็กป.1 ยังผิดแล้วจะรู้อะไรจริง
05 ต.ค. 2561 เวลา 11.10 น.
ครูยุคนี้แตกต่างกับยุคก่อนๆมากยุคก่อนสอนได้หมดทุกวิชาและเก่งจริงแล้วจบครํมาโดยตรงแต่ยุคหลังๆนี้บางคนก็จบด้านอื่นมา(กฏ หมาย)แต่มาสอนเด็กหรือจบอื่นๆอีกมากมายและมีเส้นสายดีก็เข้าสอนได้แถวต่างจังหวัดมีเยอะและอีกอย่างพอเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ก็จะมีนโยบายใหม่ๆออกมามันเลยไม่ค่อยต่อเนื่องเช่นห้ามใช้ไม้เรียวเป็นต้นเด็กก็เริ่มโง่ขี้เกียจครูทำโทษไม่ได้เดี๋ยวพ่อแม่ออกมาด่าครูการบ้านไม่ทำก็ได้เพราะครูไม่ตีมีจริงๆยุคฉันเรียนครูดุมากๆแต่ทุกคนอ่านออกเขียนได้หมดเพราะกลัวครูตี
05 ต.ค. 2561 เวลา 10.30 น.
ดูทั้งหมด