12 เรื่องรู้จัก "The Standard" นามสกุลใหม่ของวงศ์ทนง
หลังจากที่มีมหากาพย์ดราม่าเรื่องการซื้อหุ้น"อะเดย์" หรือเดย์ โพเอ็ทตั้งแต่เมื่อต้นปีที่ผ่านมา จนได้มีการสืบสาวราวเรื่องกันไปต่างๆ นานา ทำให้มีกระแสด้านลบเกี่ยวกับ"วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์" จนถึงขั้นตัดสินใจลาออกจากบริษัทที่ตนเองปั้นขึ้นมากว่า17 ปีปิดฉากโหน่งอะเดย์เป็นที่เรียบร้อย
ไม่นานนักวงศ์ทนงได้ก่อตั้งบริษัทใหม่ บริษัท เดอะ แสตนดาร์ด จำกัด ปั้นสำนักข่าวออนไลน์ขึ้นมาใหม่หลังจากที่ออกจากอะเดย์ ได้ฟอร์มทีมจากลูกหม้ออะเดย์เก่าที่ร่วมงานกันมา มีคณะบรรณาธิการทั้งหมด7 คน ได้แก่ วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์(โหน่ง), นิติพัฒน์ สุขสวย(ปิงปอง), นครินทร์ วนกิจไพบูลย์(เคน), เจิมสิริ เหลืองศุภภรณ์(จิมมี่), ภูมิชาย บุญสินสุข(บิ๊กบุญ), วิไลรัตน์ เอมเอี่ยม(ตุ๊ก) และยศยอด คลังสมบัติ(โจ)
โปรเจ็คต์นี้ถือว่าสร้างขึ้นมาชนกับบริษัทเดิมเลยก็ว่าได้ เพราะครอบคลุมทั้งสื่อออนไลน์ สิ่งพิมพ์ ในอนาคตอาจจะมีอีเวนต์เพิ่มเติม
มาทำความรู้จักเดอะ แสตนดาร์ดให้มากขึ้น
1. บริษัท เดอะ แสตนดาร์ด จำกัด ใช้ทุนจดทะเบียน30 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนการถือหุ้นเป็น วินิจ เลิศรัตนชัย45% วงศ์ทนง(โหน่ง) 25% นิติพัฒน์ สุขสวย(ปิงปอง) 20% และกลุ่มบริษัท เดย์อาฟเตอร์เดย์(ผู้ร่วมลงขันอะเดย์เดิม80% ที่มีราว300 คน ขอขายหุ้นคืน10%) 10% ปัจจุบันได้ลงทุนสร้างออฟฟิศย่านซอยศูนย์วิจัย ถนนพระรามเก้าไปแล้ว10 ล้านบาท
2. วงศ์ทนงได้หานายทุนมาร่วมลงขันในโปรเจ็คต์นี้ ได้พูดคุยกับบริษัทใหญ่2-3 แห่ง และ"วินิจ เลิศรัตนชัย" อดีตนักจัดรายการวิทยุ ทางวงศ์ทนงได้รู้จักมา10 ปี ได้ใช้เวลาคุยราว15 นาที วินิจก็ร่วมโปรเจ็คต์ด้วย โดยที่มีเงื่อนไขว่าต้องวงศ์ทนง และนิติพัฒน์เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วย แต่ทางวินิจเป็นผู้ออกเงินส่วนใหญ่
3. วางจุดยืนเป็นสำนักข่าวออนไลน์เปิดตัวในวันนี้5 มิถุนายน60 จากนั้นในเดือนกรกฎาคมจะมีนิตยสารเดอะแสตนดาร์ด เป็นนิตยสารแจกฟรี เน้นตามรถไฟฟ้าบีทีเอส และจะมีPodcast สื่อรายการวิทยุออนไลน์เพิ่มเติมในเดือนสิงหาคมและพ็อกเก็ตบุ้คตามออกมา
4. สาเหตุที่ใช้ชื่อว่าเดอะแสตนดาร์ด เพราะต้องการตั้งมาตรฐานให้กับตัวเองในการทำสื่อ
5. มีทีมงานรวม80 คน เป็นพนักงานประจำทั้งหมด มีทีมงานที่ย้ายมาจากอะเดย์40-50 คน และหาใหม่เพิ่ม30 คน วงศ์ทนงบอกว่าเป็นขนาดที่พอเหมาะแล้ว ไม่อยากให้ใหญ่ไปเท่ากับอะเดย์ที่มี160 คน แต่จำชื่อกันไม่ได้หมด
6. ตอนนี้มีคอลัมนิสต์เขียนคอนเทนต์ให้40 คน แต่ได้เกิดดราม่าเพราะมี"อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" เป็นคอลัมนิสต์ในส่วนของไลฟ์สไตล์ กีฬา ทำให้หลายคนไม่พอใจ เพราะรู้สึกไม่เป็นกลาง ซึ่งทางวงศ์ทนงบอกว่าได้ระงับคอลัมน์นี้ไปแล้ว แต่ก็ยังมีการรับน้องเกิดขึ้นในเฟซบุ๊ก มีการเข้าไปรีวิวเพจ พร้อมให้1 ดาวกันกระหน่ำ
7. หลักการเลือกคอลัมนิสต์ในการเขียนคอนเทนต์ เริ่มจากมีคอนเน็คชั่นส่วนตัว และมองที่ทัศนคติของแต่ละคน ต้องการให้มีความหลากหลายมากที่สุด
8. สัดส่วนคอนเทนต์ แบ่งเป็น ข่าว50% เป็นทั้งข่าวในประเทศ ต่างประเทศ การเมือง อาชญากรรม เศรษฐกิจ เป็นต้น และ ไลฟ์สไตล์ วัฒนธรรม50%
9. ความแตกต่างของเดอะแสตนดาร์ด เมื่อเทียบกับเดอะโมเมนตั้มเว็บเดิมที่เคยปั้นขึ้นมา มีคอนเทนต์ข่าวมากขึ้น จากเดิมเน้นเรื่องไลฟ์สไตล์
10. วงศ์ทนงบอกว่าในอนาคตไม่มีการขายให้นายทุนใหญ่อีกแล้ว เพราะเข็ดจากเรื่องที่ผ่านมา บอกว่า"เป็นบทเรียนในการใช้ชีวิตว่าอย่าปล่อยปะในการทำธุรกิจที่ให้ฝ่ายอื่นดูแลมากไป พอมาทำเดอะแสตนดาร์ดจึงทำให้ซับซ้อนน้อยที่สุด
11. รูปแบบการหารายได้ตอนนี้ยังมาจากโฆษณา100% ในอนาคตอาจจะมีการทำอีเวนต์เพิ่ม
12. เป้าหมายของเดอะ แสตนดาร์ด วงศ์ทนงบอกว่าต้องการเป็น1 ใน3 ของสำนักข่าวที่คนเข้าไปอ่านทุกเช้า ต้องการเป็นNews Agency ขายข่าวให้กับต่างประเทศด้วย