“4ที่นั่งครับ”
ผมพูดพร้อมยกมือชูนิ้วเป็นการยืนยันกับพนักงานจัดคิวที่ยืนยิ้มจมูกมันอยู่หน้าร้านอาหารคิวยาวร้านนึงในห้างดัง
“เชิญที่โต๊ะในห้องด้านในเลยค่ะ”
เธอตอบพร้อมกับผายมือให้ผมเดินเข้าร้าน ผ่านหน้าคนอีกมากมายที่กำลังยืนรอคิวอยู่
“อะไรเนี่ย มาทีหลังแต่แซงคิวคนอื่น”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งลอยมาจากใบหน้าที่ลอยทั้งหน้าลอยทั้งตา แถมยังปากคว่ำใส่ประหนึ่งผมไปโกงมรดกต้นตระกูลของเธอมาก็ไม่ปาน
“ผมจองคิวไว้ก่อนหน้านี้แล้วครับ” ผมพยายามอธิบายผู้หญิงคนนั้นอย่างสุภาพทั้งที่ไม่จำเป็น
“เห็นผู้หญิงเค้ายืนรอกันไหม ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย”
เธอยังไม่หยุด แต่พนักงานซึ่งเห็นว่าท่าจะไม่ดี ได้เข้ามาพาผมแยกออกไปที่โต๊ะพร้อมๆกับเชิญเธอคนนั้นให้ไปนั่งรอคิวที่เก้าอี้ด้านข้าง แบบไม่ต้องยืนบังหน้าร้าน
เรื่องแซงคิวนั้นได้อธิบายไปแล้วก็สบายใจ แต่เรื่องไม่ให้ผู้หญิงได้โต๊ะก่อนนี้ บางทีผู้ชายคนนี้ก็สงสัยเหมือนกันว่ามันพอดีกันที่ตรงไหน ฉันต้องให้โต๊ะผู้หญิงก่อนไปเรื่อยๆกี่โต๊ะ ถึงจะดีพอจะเป็นสุภาพบุรุษ
แปลกดีที่ท่ามกลางการตามหาความเท่าเทียมกันทางเพศและสิทธิมนุษยชน
บ่อยครั้งที่ความพยายามเรียกร้องสิทธิสตรีของสตรีบางคนกลับแฝงด้วยการ Bully เพศชาย คล้ายกับว่าแค่เห็นหน้าผู้ชายก็ตั้งท่าไว้ก่อนเลยว่าจะต้องโดนหยามหรือถูกคุกคามเสมอ จนเหมือนรู้สึกไปล่วงหน้าว่าผู้ชายนั้นคือปัญหาและศัตรู
ผมก็ยอมรับว่าความเหลื่อมล้ำทางเพศนั้นมีอยู่จริง แต่หลายเรื่องผู้ชายดี ๆ ก็มีงงนะ
เจ้าชายฟิลิปแห่งราชวงศ์อังกฤษเคยกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า ท่ามกลางการเรียกร้องความเท่าเทียมกันของสตรีเพศ เคยมีใครสงสัยหรือตั้งคำถามสักครั้งไหมว่าทำไม เมื่อพระราชาองค์ใดในโลกก็ตามแต่งงานกับผู้หญิงที่รัก เธอคนนั้นจะกลายเป็นพระราชินีทันที
แต่ทำไมเมื่อผู้ชายอย่างข้าพเจ้าอภิเษกกับพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 เราถึงไม่ได้เป็นพระราชาบ้าง แต่กลับเป็นได้เพียงแค่เจ้าชายเท่านั้นเล่า
ผู้หญิงบางคนมองว่าการที่ผู้ชายชมว่าสวยหรือเซ็กซี่เป็นการคุกคามทางเพศแบบหนึ่ง
หลายครั้งที่การพยายามเสนอตัวเข้าไปช่วยเหลือเพราะผู้ชายมองว่าตัวเองเป็นเพศที่แข็งแรงกว่าโดยธรรมชาติ กลับถูกตีความว่าเราดูถูกว่าเธออ่อนแอ และพยายามจะพิสูจน์ให้เห็นอย่างสุดหัวใจว่าไม่เป็นไรฉันทำได้โดยไม่ต้องมีผู้ชายช่วยซักหน่อย แต่ถ้าผู้ชายไม่ช่วยก็สามารถซวยถูกมองได้อีกว่าทำไมไม่เป็นสุภาพบุรุษอีก
สาวประเภทสองบางคนก็รู้สึกว่าคำว่ากะเทยหรือเพศที่สามนั้นเป็นคำด่าที่ดูถูกเหยียดหยามจนผมเองยังแทบจะตามไม่ทันว่าแล้วเราควรจะเรียกกันว่าอะไร เมื่อต้องเรียกและมาตรฐานคือตรงไหน
ความชัดเจนนี้บางทีกลับยิ่งทำให้ความตั้งใจที่จะเข้าใจกันมากขึ้น กลับกลายเป็นยิ่งห่างไกลออกไปเพราะกลัวดราม่าจนพาลเป็นการพูดจาสื่อสารกันน้อยลงเพื่อป้องกันการผิดใจซะงั้น
แม้ผมจะมองตัวเองว่าน่าจะเป็นผู้ชายอันดับต้น ๆ ของโลกที่มีเจตนาอันยิ่งใหญ่ที่จะให้เกียรติกับสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในโลก แต่ก็ต้องยอมรับว่าก็คงไม่ถึงขนาดจะรู้สึกเสียใจหรือตั้งใจจะทำบุญกรวดน้ำให้กับมดหรือยุงลายทุกตัวที่ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต แต่กับมนุษย์นั้นมั่นใจนะว่าพยายามชั่งใจด้วยสติที่มีไว้เสมอว่าจะไม่เผลอไปแบ่งชั้นแบ่งเธอแบ่งขาวแบ่งดำ แบ่งชายแบ่งหญิงหรือสารพัดเพศ แล้วเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด
ถ้าคุณหิวจนตัวสั่น บอกกันดี ๆ เชื่อเถอะว่าจะมีคนยินดีสละโต๊ะให้คุณด้วยหัวใจที่ร่มเย็นเสมอ โดยไม่เห็นความจำเป็นว่าคุณจะต้องเหยียดกันว่าฉันเอาเปรียบเธอเพราะเพศที่ต่าง แต่เราสามารถให้กันได้เพราะเราเป็น”คนดี”ที่เห็นอกเห็นใจกัน โดยไม่สำคัญว่าฉันเป็นผู้หญิง ผู้ฉิง หรือผู้ชาย
มันเรียบง่ายแค่นั้นเอง
ผมเขียนบทความนี้บนเส้นบาง ๆ ของความเสี่ยงว่าจะถูกด่าและดราม่าแบบที่คาดไม่ถึงตามมามากมาย
แต่ยืนยันในเจตนาที่ดี เพราะโลกใบนี้จะยังคงเต็มไปด้วยความต่างตลอดไป แต่มันจะแตกต่างอย่างสวยงาม หรือแตกต่างอย่างแตกแยก ขึ้นอยู่กับหัวใจของคน ๆ นั้นว่าคุณมองโลกผ่านหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักหรือความเกลียดโดยไม่เกี่ยวอะไรสักนิดกับหน้าตาหรืออวัยวะที่ห้อยอยู่ระหว่างขาของใคร
หากคุณสุภาพสตรีท่านนั้นได้อ่านบทความนี้ ขอยืนยันอีกทีว่าผมไม่ได้มีเจตนาจะใช้พื้นที่นี้มาหลอกด่าแต่แค่ไม่อยากให้คุณเผลอตัดสินใครด้วยการอ้างสิทธิความเป็นสุภาพสตรี กับสุภาพบุรุษแบบนี้อีกต่อไป เพราะมันไม่น่าจะใช่วิถีที่น่าภูมิใจของสุภาพชนคนไทยที่รักในความเท่าเทียมกันแต่อย่างใด
--
ติดตามบทความใหม่ ๆ จาก อั๋น ภูวนาท ได้ทุกวันจันทร์ บน LINE TODAY
ความเห็น 19
𝓐^𝓸^𝔂_𝔃𝔃𝓩 🐬●ᴥ●🌈ʕ•ᴥ•ʔ
อุ๊ย ผิดผี
05 ก.พ. 2563 เวลา 04.18 น.
lek
อีอั๋น รายการอะไรที่มันจัดเลิกดูมานานแล้ว
04 ก.พ. 2563 เวลา 13.01 น.
คุณไนท์
คนที่ถามคุณอั๋นเค้าก็ไม่ได้ผิดนะ เค้าแค่สงสัยและถามออกไปด้วยความตรงไปตรงมาเท่านั้นเอง เป็นเราๆก็ถามนะ แต่คนที่ควรชี้แจงที่สุดคือพนักงานในร้านมากกว่าที่ควรแก้ไขสถานการณ์มิใช่มาทำให้คนที่ถามต้องเสียหน้าอีกด้วยการถูกเชิญไปนั่งรอคิวต่อไปเพราะบังหน้าร้าน
บางครั้งเราก็ไม่รู้หรอกว่าความจริงคืออะไร คนที่แรงจริงๆอาจจะขอดูข้อมูลการจองจากทางร้านด้วยซ้ำ แต่คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวกับการเรียกร้องสิทธิอะไรนะ สรุปไม่มีใครผิดใครถูก
04 ก.พ. 2563 เวลา 12.52 น.
I'm Itto🎌
หากผมถูกถาม,จะตอบว่าทำไม?ไม่โทรจอง,โทรจองคิวเป็นหรือเปล่า,หรือโทรศัพท์เอาไว้แค่เซลฟี่กับอัพเดทสเตตัส,ทุกคนเท่าเทียมกัน,แค่มันถามแบบนี้ก็ไม่สุภาพแล้วเป็นสตรีเฉยๆ,จะเก็บคำว่าสุภาพไว้ใช้กับคนที่สุภาพชนเท่านั้น..E here
04 ก.พ. 2563 เวลา 11.29 น.
Phongchart•Dik
ที่จริง กรณีแบบนี้ พนง.หน้าร้านควรเปนผู้รับผิดชอบ แถลงความจริงให้ ลค หญิงท่านนั้นทราบว่า เปนแขกที่จองทางโทรศัพท์ ไม่ควรให้มาถึงแขก หากร้านนั้น มีนโยบายรับจองทางโทรศัพท์
ตามปกติ พนง.หน้าร้าน ควรมีสกิลในการดีลกับสถานการณ์เช่นนี้ เพราะเปนธรรมดาที่คนรอนาน แถมมายืนก่อนจะหงุดหงิดง่าย ที่จู่ๆ ก็มีใครก็ไม่รู้ มาปาดหน้าไป
ขอเรียนแนะนำคุณอั๋นสักนิด หากคราวหน้า ยังใช้วิธีจองทางโทรศัพท์ เมื่อไปถึงหน้าร้าน บอกไปดังๆ ชัดๆ เลยว่า “ที่โทรมาจองไว้แล้ว 4 ที่ครับ” จะได้ไม่มีใครกล้าตำหนิ 😁
04 ก.พ. 2563 เวลา 09.00 น.
ดูทั้งหมด