โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ความเป็น ความตาย ห่างกันแค่เสี้ยวนาที - ดีเจพี่อ้อย

TOP PICK TODAY

เผยแพร่ 19 มี.ค. 2563 เวลา 17.00 น. • ดีเจพี่อ้อย

ความเป็น ความตาย ห่างกันแค่เสี้ยวนาที

   วันนี้โควิด-19 เปลี่ยนโลกใบนี้ไปอย่างสิ้นเชิง คนทั้งโลกตื่นกลัวเรื่องเดียวกัน ดูแลกัน หรือแม้แต่ต่อสู้ ด่าทอกัน ในวันที่ความกลัวล้ำไปถึงคำว่าตื่นตระหนกพร้อมๆกันทั้งโลก ได้แต่ส่งกำลังใจให้กันและกันไป พร้อมๆการดูแลตัวเองอย่างดี เพราะนี่คืออีก 1 วิธีที่เราจะช่วยดูแลคนอื่นรอบๆตัว ยิ่งละเอียดกับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อนี้มากเท่าไหร่ ยิ่งเท่ากับการไม่ไปเพิ่มภาระอันยิ่งใหญ่ให้กับบุคลากรด้านการแพทย์ด้วย

                       มัวแต่กลัวไวรัสจะทำให้วอดวาย แต่กลับไปเฉียดตายจากอุบัติเหตุค่ะ พาทั้งครอบครัวไปพักผ่อนที่พัทยา ด้วยการใช้เวลาทั้งวันทั้งคืนในโรงแรม เล่นบิงโกวนไป แค่อยากให้คุณพ่อคุณแม่ที่ดูแต่ข่าว เอาเวลาไปมองทะเลบ้าง ขับรถกลับจากพัทยา เดินหน้ามาจัดรายการวิทยุ พ่อแม่กลับไปกับน้อง เพราะตัวเองต้องมาทำงานต่อ เข้ามอเตอร์เวย์มาได้พักเดียว ขับๆอยู่มีเสียงดัง “ปัง” สนั่นหวั่นไหว แล้วมีเสียงแกร๊งๆๆ ตามมา ในใจคิดว่า “ ป้าเอ๊ย ไปลากอะไรติดล้อมาด้วยหรือเปล่าหว่า” ด้วยความที่ไม่ไช่คนขับรถเร็วเพราะคิดเสมอว่า ถ้ามีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้น เราต้องคุมรถให้ได้ ในหัวประมวลทุกอย่างที่เคยได้อ่านมา “อย่าแตะเบรกแรง” “อย่าเหยียบคันเร่ง” “ จับพวงมาลัยให้ดี” รถค่อยๆเบนมาทางขวาอย่างเดียว เปิดไฟเลี้ยวไว้ แล้วเปลี่ยนเป็นไฟฉุกเฉิน ปล่อยให้รถใช้แรงเฉื่อยจนมานิ่งสนิทติดแบริเออร์ขวาสุด จอดให้แนบจนประตูแทบเปิดไม่ได้ มองกระจกหลังแล้ว ไม่มีรถตามมา งั้นออกมาดูดีกว่าเพราะอยากรู้ว่า เสียงเมื่อกี๊คืออะไร วินาทีนั้นไม่ได้ตกใจ บอกให้ตัวเอง ช้าๆเข้าไว้ ค่อยๆคิด ภาพที่เห็นคือ ยางล้อหน้าด้านขวา แตกแหลกละเอียดมาก เสียงแกร๊งๆ นั่งคือรถเราวิ่งมาด้วยล้อแม็กซ์ล้วนๆ เมื่อรู้แล้ว กลับเข้าไปในรถก่อนดีกว่า เพราะเคยอ่านเจอว่า อยู่ในเส้นทางที่รถทุกคันใช้ความเร็ว ควรอยู่ในรถ และคาดเข็มขัดนิรภัยไว้แม้รถจะจอดนิ่งก็ตาม หาอะไรในรถที่พอจะเอาไปตั้งเป็นสัญญาณรถคันหลังให้เบี่ยงเส้นทางไป แล้วค่อยโทรฯแจ้งตำรวจ และประกัน สิ้นเสียงกดคาดเข็มข็ด “กริ๊ก” ได้ยินเสียงเบรกมาแต่ไกล มั่นใจว่าโดนชนแน่แล้ว โครมมมม!!! ในรถสะเทิอนมากๆ อย่างที่คาด ยาวแน่วันนี้ ลารายการหาคนจัดแทนก่อนเลย ลงมาดูรถที่พุ่งมาชน น้องที่ขับมา ไม่มีใบขับขี่ ไม่มีประกัน บอกว่าหลบไม่ทันจริงๆ ไม่เป็นไรค่ะ เราทุกคนล้วนปลอดภัยน่ะดีแล้ว ถ้าพี่เลือกได้ พี่ก็ไม่อยากจอดอยู่ตรงนี้ แต่รถที่ยางแตกไป 1 ล้อ เคลื่อนไปไกลกว่านี้ไม่ได้ โลกสอนความไม่แน่นอนให้ได้เรียนรู้ในวินาทีนั้นอีกครั้ง

ความโชคดีคือ ขับรถมาคนเดียว พ่อแม่ไปอยู่ในรถอีกคัน   

ความโชคดีคือ เรามีพี่น้องสามคน น้องคนหนึ่งพาพ่อแม่ไปส่งบ้าน น้องอีกคนมาอยู่ข้างๆจนจบเรื่อง

ความโชคดีคือ พี่ตำรวจทางหลวงผ่านมาพอดี ช่วยถ่ายรูปประสานทุกอย่างให้เสร็จ แถมเป็นคุณผู้ฟังที่น่ารักติดตามรายการมาตลอดด้วย   

ความโชคดีคือ รถมาสิ้นฤทธิ์จอดตรงทางขึ้นสะพานพอดี รถที่ขับมาด้านหลังจะเห็นรถเราค่อนข้างเด่นชัด ไม่อย่างนั้นอาจโดนชนหลายทอดกว่านี้ 

ความโชคดีคือ เพื่อนที่น่ารักให้เอารถที่บ้านไปใช้จนกว่าจะซ่อมรถเสร็จ ด้วยประโยคที่ว่า “ช่วยได้ช่วยกัน ไม่งั้นจะมีเพื่อนไว้ทำไม” ขอบคุณจากหัวใจเลย ใน 1 ความโชคร้าย ยังมีอีกหลายความโชคดี    

                     จบกระบวนการทางกฎหมายเรียบร้อย ฝากค่าใช้จ่ายเล็กๆน้อยๆให้น้องที่ขับมาชน ช่วยน้องเสียค่าปรับ และบอกให้น้องไปหาหมอ เพราะตอนลงมาจากรถน้องบอกว่าเจ็บบริเวณหน้าอกตรงที่คาดเข็มขัดนิรภัย อุบัติเหตุไม่มีใครอยากให้เกิดทั้งนั้น   

พี่ตำรวจคนหนึ่งเดินมาถามว่า ห้อยพระอะไรเนี่ย ? น่าจะ

  พระสติค่ะ วินาทีนั้น ไม่ได้ตื่นเต้น ค่อยๆคิด ตั้งแต่ขับรถมาในชีวิตไม่เคยอยู่ในภาวะเสี่ยงซักครั้ง เพราะจะตั้งสติด้วยการสวดมนต์ชินบัญชรเสมอ เพื่อให้ใจนิ่ง แต่ก็เคยแอบมโนไว้ว่า ถ้ามีเหตุการณ์น่าตกใจจริงๆ จะต้องทำอะไรบ้าง จดไว้ด้วยลายมือตัวเองตัวใหญ่ ๆ ว่า 1. โทรที่เบอร์ไหน 2.แจ้งเลขกรรมธรรม์ 3. หมายเลขตัวถังซึ่งยาว และตัวเล็ก ถ้าตกใจแล้วมองไม่เห็นอีกจะหายนะ เขียนทิ้งไว้นานมาก เพิ่งได้ใช้ก็วัยนี้  

พระคุณ พระคุณของคนที่เคยเจอเหตุการณ์อุบัติเหตุแบบนี้ แชร์ความรู้ วิธีการรับมือ การแก้ปัญหาต่างๆ ในโซเชียลฯ เอาไว้แบ่งปัน จนกลายเป็นขั้นตอนความรู้ที่เอาไว้ปกป้องตัวเองในวันนี้ 

               ที่โพสเรื่องนี้ไว้หวังแค่ว่า จะเป็นวิธีการที่คนอื่นเอาไปใช้ต่อได้เช่นกันในวันที่เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น วันนี้เห็นสภาพรถที่เขายกมาที่ศูนย์เต็มๆแล้วน้ำตาไหล สภาพเปิดเปิงมาก ไม่ได้ยึดติดกับวัตถุใดๆ แค่รู้สึกว่า ถ้ารถมีความรู้สึก แผลขนาดนี้เขาคงจะเจ็บมากมายที่ต้องปกป้องคนที่อยู่ข้างในไม่ให้มีอาการเจ็บปวดใดแม้แต่นิดเดียว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0