ฮอตเบอร์แรงจริงๆ สำหรับพระเอกหนุ่มหล่อสุดอบอุ่นขวัญใจสาวๆ"โป๊ป-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ" หรือ หมื่นสุนทรเทวา (เดช) จากละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส หลังจากละครเรื่องนี้ได้ออนแอร์ไปเพียงไม่กี่ตอนเท่านั้น ก็ได้รับกระแสตอบรับจากผู้ชมอย่างมากมาย และผู้คนในโลกออนไลน์ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่ทำออกได้มาน่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างมาก
เพราะนอกจากละครเรื่องบุพเพสันนิวาสจะมีเนื้อเรื่องที่สนุกน่าติดตามแล้ว ยังอิงประวัติศาสตร์ของไทยเข้าไปด้วย ทำให้เป็นละครอีกหนึ่งเรื่องที่เราไม่ควรพลาดเลย และในบทความนี้ แคมปัส-สตาร์ ก็จะขอพาทุกคนไปรู้จักกับพระเอกของเรื่อง "หมื่นสุนทรเทวา" ซึ่งรับบทโดย "โป๊ป-ธนวรรธน์" กันให้มากยิ่งขึ้น ผ่าน 18 เรื่องน่ารู้ของผู้ชายที่ชื่อว่าโป๊ป-ธนวรรธน์ บอกได้ประโยคเดียวเลยว่า ยิ่งเราได้รู้จักผู้ชายคนนี้ ยิ่งทำให้เราหลงรักเขามากขึ้นเรื่อยๆ
1. พระเอกหนุ่มหล่อคนนี้มีชื่อจริงว่า "ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ" และมีชื่อเล่นว่า "โป๊ป" โดยที่ชื่อเล่นของหนุ่มโป๊ปคุณพ่อเป็นคนตั้งให้ เพราะในตอนที่หนุ่มโป๊ปเกิดนั้น Pope John Paul II ได้มาเมืองไทยนั่นเอง
2. หนุ่มโป๊ป เกิดเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2525
3. ครอบครัวของหนุ่มโป๊ปมีใครกันบ้าง คำตอบคือ 4 คนด้วยกัน ได้แก่ คุณพ่อพันพร คุณแม่ปราณี และพี่สาวอีก 1 คน คือ คุณเติ้ง-วรรณิภา ส่วนหนุ่มโป๊ปเป็นน้องชายคนเล็กของบ้าน
4. ส่วนชีวิตทางด้านการเรียนของพระเอกหนุ่มคนนี้ก็คือ เขาจบการศึกษาในระดับประถมศึกษาจากโรงเรียนไผทอุดมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนหอวัง ระดับ ปวช. หนุ่มโป๊ปจบการศึกษาจาก วิทยาลัยช่างศิลป และในระดับปริญญาตรีหนุ่มโป๊ป ได้สำเร็จการศึกษาจาก สาขานิเทศศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (รุ่นที่ 19)
5. ในช่วงเฟรชชี่ ตอนเข้าไปศึกษาในมหาวิทยาลัยปีแรก หนุ่มโป๊ปได้ถูกเพื่อนๆ เลือกให้เป็นตัวแทนเข้าประกวดดาว-เดือนคณะ ซึ่งในตอนถูกคัดเลือกให้ไปประกวดนั้นหนุ่มโป๊ปเล่นมุดหน้าอย่างเดียวเลย แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่รอดอยู่ดี เพราะก็ถูกส่งให้เป็นตัวแทนไปประกวด
6. ในตอนที่หนุ่มโป๊ปศึกษาอยู่ในชั้นปีที่ 3 เขาได้ร่วมแสดงในละครเวทีเรื่อง "he Hunchback of Notre Dame" อีกด้วย และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาชอบในงานแสดงมากยิ่งขึ้น
7. เมื่อหนุ่มโป๊ปเรียนจบในระดับปริญญาตรี เขาก็ได้เข้าทำงานประจำที่บริษัทโมเดิร์นฟอร์ม ในตำแหน่งคอมพิวเตอร์กราฟิก เป็นเวลา 5 เดือน เมื่อเขาได้ชนะการประกวด "โครงการตามล่าหาจะเด็ด" เพื่อมาร่วมแสดงในละครผู้ชนะสิบทิศ เขาจึงได้ลาออกมาเพื่อเตรียมตัวรับบทดังกล่าว แต่สุดท้ายแล้วโปรเจกต์ละครเรื่องนี้ก็ได้ถูกยกเลิกไป หลังจากที่หนุ่มโป๊ปได้ใช้เวลาในการเรียนขี่ม้า ฟันดาบ และเรียนการแสดงนานถึง 2 ปีด้วยกัน
8. โดยในช่วงเวลาว่างเขาเคยเป็นคุณครูสอนศิลปะในโครงการ To Be Number One และโค้ชสอนฟุตบอลให้กับเด็กๆ อีกด้วย
9. ในระหว่างที่หนุ่มโป๊ปกำลังผิดหวังในเส้นทางบันเทิงอยู่นั้น เขาก็ยังจะต้องเจอพายุใหญ่อีกลูกหนึ่งก็คือ เมื่อคุณพ่อของเขาได้ล้มป่วยเป็นโรคมะเร็งและได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งหนุ่มโป๊ปและพี่สาวช่วยกันดูแลคุณพ่อที่อาศัยอยู่ที่จังหวัดนครปฐม โดยในตอนที่คุณพ่อของเขาเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเขากับคุณแม่ก็ต้องผลัดเปลี่ยนเวรกันมาดูแลคุณพ่อหลังเลิกงาน
10. หลังจากที่เขาได้ผิดหวังในเส้นทางบันเทิงมานั้น ทำให้เขาได้มาเป็นลูกศิษย์ของท่านมุ้ย (หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล) และนี่ก็ทำให้หนุ่มโป๊ปได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์ของท่านมุ้ยด้วยคือ ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 ยุทธนาวี โดยรับบทเป็น "ขุนรามเดชะ" แต่ด้วยระยะเวลาในการถ่ายทำค่อนข้างนาน ทำให้ภาพยนตร์เรื่องที่ 2 ที่เขาได้รับบทเป็นพระเอกเต็มตัวคือเรื่อง October Sonata รักที่รอคอย ประกบคู่กับนางเอกสาวตัวเล็ก "ก้อย-รัชวิน" ได้ออกมาฉายในปี 2552 เสียก่อน
11. เมื่อภาพยนตร์ October Sonata รักที่รอคอย ได้ออกฉายไปนั้น ทำให้ทีมงานของทางช่อง 3 เห็นแววในความสามารถทางการแสดงของเขา จึงได้ทำการทาบทามให้เป็นนักแสดงในสังกัด โดยละครเรื่องแรกที่เขาได้ถูกวางตัวให้ไปเล่นก็คือเรื่อง เคหาสน์สีแดง ในบทของ ชาลี แต่เนื่องจากเขาได้ปฏิเสธไป เพราะเขาตั้งใจที่จะบวชเพื่อทดแทนบุญคุณพ่อ-แม่เสียก่อน โดยเขาได้บวชเป็นระยะเวลา 1 พรรษา
12. หลังจากที่เขาได้สึกออกมาแล้ว ก็ได้กลับมาเซ็นสัญญาเป็นนักแสดงในสังกัดช่อง 3 และได้รับบทเป็น นัท ในเรื่องดอกส้มสีทอง ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้เขายังได้รับบทเป็นพระเอกภาพยนตร์อีกครั้งในเรื่อง รักละไมล์ รับบทเป็น แดน คู่กับนางเอกสาวหน้าใหม่ สิรี ลูเธอร์ แต่ก็มีเหตุให้ภาพยนตร์ไม่ได้เข้าฉาย ต่อมาหนุ่มโป๊ปก็ได้มาแสดงละครเรื่องแรกกับทางช่อง TPBS โดยรับบทเป็น หมอกานต์ คู่กับ สาวิตรี สุทธิชานนท์ ในละครเรื่อง เขาชื่อกานต์ ซึ่งถ่ายทำเสร็จสิ้นแล้วแต่ไม่ได้ออกอากาศ
13. ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องที่สองของเขาจะไม่ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์ แต่เขาก็ได้รับโอกาสที่ดีจากทางช่อง 3 ได้ร่วมแสดงในละครดังอย่าง ตะวันเดือด, เกมร้ายเกมรัก, บ่วง ในบทของพระรอง และในที่สุดเขาก็ได้มารับบทเป็นพระเอกเต็มตัวในละครชุด สุภาพบุรุษจุฑาเทพ ตอน คุณชายปวรรุจ รับบทเป็น ม.ร.ว.ปวรรุจ จุฑาเทพ (ชายรุจ) และหนุ่มโป๊ปก็ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวัง เพราะเขาสามารถถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครออกมาได้เป็นอย่างดี รับคำชมจากแฟนๆ อย่างมากมาย และได้เกิดเป็นกระแสคู่จิ้น "โป๊ป-มิว นิษฐา" ขึ้นมา และนอกจากนี้เขายังได้รับรางวัลโทรทัศน์ทองคำ ในสาขานักแสดงนำชายดีเด่นจากละครเรื่องคุณชายปวรรุจ อีกด้วย
14. ต่อมาในปี 2557 เขาได้แสดงละคเรื่อง สามีตีตรา ในบทของ หม่อมหลวงพิศุทธื์ ประกบคู่กับนางเอกสุดฮอตพลอย-เฌอมาลย์ ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งบทละครที่โป๊ปได้รับเลือกให้เล่น ซึ่งถือได้ว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ 3 ต่อจากคุณอ๊อฟ-พงษ์พัฒน์ และคุณอู๋-ธนากร และละครเรื่องนี้ก็ทำให้เขาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นและได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ ละครเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าปังสุดๆ ไปเลยในตอนนี้ ไม่มีใครไม่รู้จักคุณพิศุทธื์ ผู้ชายสุดอบอุ่นที่สามารถคว้าใจสาวน้อยสาวใหญ่ไปได้ และในปีเดียวกัน หนุ่มโป๊ปยังมีละครเรื่อง รักออกฤทธิ์ รับบทเป็น โจ ที่กลับมาแสดงคู่กับสาวมิว-นิษฐา อีกครั้ง ให้แฟนๆ ได้ฟินกันด้วย
15. ในปี 2558 หนุ่มโป๊ปยังได้กลับมาแสดงละครแนวพีเรียด (โรแมนติกคอมเมดี้) อีกครั้งในเรื่อง สะใภ้จ้าว ในบทของ ม.ร.ว.กิตติราชนรินทร์ วุฒิวงศ์ (ชายรอง) โดยได้ประกบคู่กับนางเอกหน้าใหม่น้ำตาล-พิจักขณา วงศารัตนศิลป์ ก็เรียกได้ว่าเป็นละครอีกหนึ่งเรื่องของหนุ่มโป๊ปที่ได้รับกระแสตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และในปี 2559 เขาก็ได้มีละครออกมาให้แฟนๆ ได้ชมกัน 1 เรื่องคือ เลือดรักทระนง รับบทเป็น ราชภักดี เลิศพาณิชย์ (ราม) ประกอบคู่กับ เดียร์น่า ฟลีโป
16. ส่วนในปี 2560 แฟนๆ ก็ได้กลับมาฟินจิ้นจิกหมอนกันอีกครั้งกับคู่จิ้น "โป๊ป-มิว" ในละครแนวคอเมนดี้เรื่อง พ่อยุ่งลุงไม่ว่าง โดยรับบทเป็น พิชิตศึก ดำรงรักษ์ (เต็ง)
17. ในปี 2561 นี้ หนุ่มโป๊ปมีละครที่กำลังออนแอร์และเตรียมจะออนแอร์ให้แฟนๆ ได้ติดตามกันถึง 2 เรื่องเลยทีเดียว มาเริ่มกันที่ บุพเพสันนิวาส รับบทเป็น หมื่นสุนทรเทวา/ขุนศรีวิสารวาจา (เดช) โดยได้ประกบคู่กับนางเอกสาวสวยอย่าง เบลล่า ราณี ซึ่งรับบทเป็น แม่หญิงการะเกด (ในยุคอดีต)/เกศสุรางค์ (ในยุคปัจจุบัน) และเมื่อละครเรื่องนี้ได้ออกอากาศให้เราได้รับกันนั้น ก็ได้กระแสตอบตอบรับจากแฟนๆ เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบทละคร การแสดงของเหล่านักแสดงในเรื่องก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม และนอกจากนี้ยังได้รับคำชมเกี่ยวกับการแต่งกายอีกด้วย
18. สำหรับในละคร ข้ามสีทันดร ในบทบาท เที่ยงวัน (ยังไม่ได้ออกอากาศ) ก็ถือได้ว่าเป็นการพลิกบทบาททางการแสดงครั้งสำคัญของหนุ่มโป๊ปอีกด้วย เพราะเขาจะต้องมารับบทเป็นชายหนุ่มที่มีอดีตเคยติดยาเฮโรอีนมาเป็นเวลานานถึง 10 ปีด้วยกัน
ที่มา : campus-star.com
