โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เผยวิธีเอาชนะใจสตรี และลักษณะอาการฝ่ายหญิงที่รับรักด้วย จากตำรากามสูตร

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 25 พ.ค. 2566 เวลา 05.30 น. • เผยแพร่ 25 พ.ค. 2566 เวลา 05.29 น.
พระกฤษณะและพระแม่ราธา

“กามสูตร” งานเขียนสันสกฤตว่าด้วยพฤติกรรมทางเพศของมนุษย์ เป็นงานเขียนของชาวฮินดูโบราณที่มีอายุกว่า 2,000 ปี และเป็นแม่แบบของตำราเพศศาสตร์ ภาพลักษณ์ของกามสูตรในสังคมคือตำราสอนการร่วมเพศ การเสพสังวาสในรูปแบบต่างๆ ซึ่งนั่นเป็นแค่ส่วนหนึ่งในเนื้อหาของกามสูตร แท้จริงแล้ววรรณกรรมสันสกฤตเรื่องนี้สะท้อนให้เห็นถึงสภาพสังคมของอินเดียโบราณ การดำรงชีวิต ความเชื่อ แนวคิดของคนอินเดียที่มีต่อเรื่องเพศ และเป็นข้อแนะนำเพื่อแก้ไข ปรับใช้ตามจารีตนิยมของชาวอินเดียช่วงศตวรรษที่ 6

ความน่าสนใจในวรรณกรรมกามสูตรที่นอกเหนือจากการบรรยายลักษณะการร่วมเพศ คือข้อแนะนำในการสร้างสัมพันธ์ของชายที่มีต่อหญิง หรือการแสดงออกถึงความสนใจต่อเพศตรงข้าม อาจเรียกว่าเป็นวิธีการจีบกันของชาวอินเดียโบราณในแบบฉบับของกามสูตร

กามสูตรได้อธิบายถึงเรื่องนี้ในบรรพ 3 การได้ภรรยา บทที่ 3 “การเกี้ยวพาราสี และการเปิดเผยความรู้สึกด้วยการให้สัญญาณและการกระทำ” ซึ่งเป็นบทที่กล่าวถึงวิธีการเอาชนะใจหญิงโดยการใช้เวลาในการทำกิจกรรมด้วยกัน และเป็นการสร้างความใกล้ชิดให้กับทั้งสองฝ่าย อาจเป็นการไปเที่ยวด้วยกัน (ทัศนาจร) เก็บดอกไม้มาร้อยมาลัย การเล่นกับแบบเด็กๆ (พ่อ-แม่-ลูก) ทำอาหาร ฯลฯ

ในการละเล่นร่วมกันกับหญิงสาว ผู้ชายควรผูกมิตรกับเพื่อนฝ่ายหญิง สร้างความสนิทสนม หรืออาจช่วยเหลือลูกสาวของพี่เลี้ยงฝ่ายหญิงสาวที่ตนรัก ก็จะเป็นการสร้างความประทับใจและความไว้วางใจให้กับพี่เลี้ยง โดยที่พี่เลี้ยงอาจนำเรื่องดีๆ ของฝ่ายชายให้พ่อแม่ของฝ่ายหญิงฟัง ซึ่งจะเป็นผลดีกับตัวฝ่ายชาย

หรือกระทั่งการนำของมามอบให้กับหญิงสาว โดยเป็นสิ่งของที่หญิงสาวปรารถนา แม้ว่าของที่หญิงสาวอยากได้จะหายากหรือไม่เป็นที่รู้จักของคนอื่นๆ และควรมอบให้ในที่สาธารณะ การกระทำดังกล่าวเป็นการแสดงให้หญิงสาวเห็นฝ่ายชายเป็นผู้ที่ทำทุกสิ่งทุกอย่างที่เธอต้องการ

นอกจากการมอบสิ่งของให้หญิงสาว ก็ต้องมีการนัดเจอกับฝ่ายหญิงในที่ส่วนตัว และบอกเหตุผลที่ฝ่ายชายมอบสิ่งของให้ฝ่ายหญิงพร้อมกำชับให้ฝ่ายหญิงเก็บเรื่องที่ตนบอกไว้เป็นความลับ เพราะเกรงว่าพ่อแม่ของฝ่ายหญิงจะมองว่าฝ่ายชายเป็นคนไม่ดี ตำราระบุว่า ควรบอกกับฝ่ายหญิงว่าสิ่งของที่ตนมอบให้มีคุณค่าและเป็นที่หมายปองของใครหลายคน แสดงถึงความภักดีและความจริงใจของฝ่ายชาย

ตำรายังกล่าวถึงการเล่าเรื่องสนุกอย่างเช่นนิทาน อันเป็นขั้นตอนต่อไปหลังจากที่หญิงสาวเริ่มส่งสัญญาณว่าเริ่มมีใจให้กับฝ่ายชายบ้างแล้ว อาจมีการทำให้ฝ่ายหญิงตื่นเต้นหรือทึ่งโดยการเล่นกล โยนรับสิ่งของ หรือแสดงความสามารถในสิ่งที่ฝ่ายชายถนัด

หากฝ่ายหญิงชอบร้องเพลงฝ่ายชายก็อาจจะสร้างความสุขด้วยการเล่นดนตรีประกอบ หรือในบางวันที่ฝ่ายหญิงไปงานร่วมงานเทศกาลอื่นๆ ที่จัดอยู่นอกบ้าน เมื่อหญิงสาวกลับจากงานเทศกาล ฝ่ายชายควรไปรับพร้อมกับดอกไม้ มงกุฎดอกไม้ และต่างหูเนื่องจากเป็นโอกาสเหมาะที่จะมอบของขวัญ และเป็นการแสดงถึงความห่วงใยเอาใจใส่ที่มีต่อฝ่ายหญิง

การแสดงความรู้ทางอ้อมให้ฝ่ายหญิงเห็นโดยการสอนลูกสาวของพี่เลี้ยงฝ่ายหญิงที่ตนรักให้รู้ในเรื่องศิลปะหกสิบสี่ประการ (ศิลปะวิทยาต่างๆ ที่แยกย่อยมาจากกามสูตรซึ่งสังคมอินเดียโบราณให้การย่อมรับและให้เกียรติกับผู้ที่มีความรู้ในเรื่องนี้อันมีทั้งหมด 64 ด้าน)

ตำรายังระบุเรื่องการแต่งกายของฝ่ายชายว่าควรสวมใส่ด้วยผ้าเนื้อดี แต่งกายให้งามคือการสร้างเสน่ห์ความน่าสนใจของฝ่ายชาย เพราะหญิงสาว ชอบผู้ชายที่มีความฉลาด หล่อเหลา และแต่งกายดี

สิ่งที่น่าสนใจในกามสูตรอีกประการคือข้อสังเกตที่วาตสยายน (Vatsyayana) ผู้แต่งกามสูตรได้บอกถึงสัญญาณความรักจากเด็กหญิงและการแสดงออกไว้ว่า

“เมื่อเด็กสาวส่งสัญญาณแสดงความรักออกมาและกระทำดังต่อไปนี้ คือ เธอจะไม่มองบุรุษที่ใบหน้า, ขวยเขินเมื่อถูกบุรุษจ้องมอง, เธอให้เขาดูท่อนขาด้วยข้ออ้างหรือเหตุผลอื่น, เธอแอบมองเขาแม้ว่าเขาจะลับตาไปแล้ว, เธอก้มหน้าเมื่อเขาถามคำถาม และตอบอ้ำอึ้งหรือพูดไม่จบประโยค, ยินดีที่จะได้ร่วมทางไปกับเขาเป็นเวลานาน, พูดกับสาวใช้ด้วยน้ำเสียงแปลกๆ ด้วยความหวังว่าจะให้เขาคิดถึงเธอเมื่อเธออยู่ไกลจากเขา, ไม่อยากจากสถานที่ที่มีเขาอยู่, ชวนให้เขาดูสิ่งต่างๆ ด้วยข้ออ้างบางอย่าง, เล่าเรื่องให้เขาฟังช้าๆ เพื่อประวิงการสนทนาให้ยืดยาว, จูบและกอดเด็กที่นั่งอยู่บนตักต่อหน้าเขา (ในบรรพที่ 2 การรวมเพศทั้งสองเป็นหนึ่ง บทที่ 3 การจูบ การกระทำในลักษณะดังกล่าวเป็นการจูบชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “จูบส่งผ่าน”),

วาดรอยเครื่องประดับบนหน้าผากของสาวใช้ของตน, แสดงท่าสนุกสนานหรือเคลื่อนไหวอย่างสวยงามขณะที่สาวใช้พูดอย่างสนุกกับเธอเมื่อเขาอยู่ด้วย ไว้ใจเพื่อนของเขา นับถือและเชื่อฟังพวกเขา, แสดงความกรุณาต่อคนรับใช้ของเขา, สนทนากับพวกเขาและให้ทำงานให้เสมือนเธอเป็นนายหญิงของพวกเขา, ฟังอย่างสนใจเมื่อพวกเขาเล่าเรื่องบุรุษผู้นั้นให้คนอื่นฟัง, เข้าบ้านเขาเมื่อลูกสาวของพี่เลี้ยงชักชวน, สนทนาและเล่นกับเขาตามการจัดการของลูกสาวพี่เลี้ยง, หลีกเลี่ยงไม่ให้เขาเห็นในขณะที่ยังตกแต่งร่างกายไม่สวยงาม, มอบเครื่องประดับหู แหวน มาลัยมาให้เขาผ่านเพื่อนหญิงเมื่อเขาขอชม, สวมสิ่งของที่เขามอบให้เสมอ, สลดหดหู่เมื่อพ่อแม่กล่าวถึงเจ้าบ่าวคนอื่น, และไม่วิสาสะกับเพื่อนของเจ้าบ่าวผู้นั้น หรือผู้ที่สนับสนุนเขา (หมายถึงชายที่ตนรัก)”

จะเห็นได้ว่า ในกามสูตร ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตำราที่ว่าด้วยเรื่องเพศศาสตร์อย่างเดียว แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงแนวคิดของผู้ชายในการจัดลำดับขั้นตอนการพิชิตใจหญิง และแสดงให้เห็นรายละเอียดความใส่ใจที่มีต่อฝ่ายหญิง ตลอดจนการวิเคราะห์อากัปกิริยาของฝ่ายหญิงที่ต่อเพศตรงข้ามเมื่อยามมีความรัก

กามสูตรมีความสำคัญต่อชาวฮินดูเช่นเดียวกับธรรมะ (บัญญัติของชาวฮินดูเพื่อกระทำสิ่งต่างๆ ) อัตรา (วิชาการบริหารทรัพย์สิน การปกครอง) และกามา ไม่ได้เป็นเพียงแค่คู่มือในการสร้างความสุขทางเพศ เห็นได้จากในตอนท้ายของกามสูตรที่ว่า

“งานเขียนนี้หาได้ตั้งใจเพียงใช้เป็นเครื่องมือแห่งการสนองความปรารถนา ผู้ที่รู้จักหลักการของศาสตร์นี้ และรักษาธรรมะ อัตรา และกามา และคำนึงถึงวิถีปฏิบัติของผู้คน ย่อมเป็นนายเหนือสำนึกของเขา”

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

อ้างอิง :

วาตสยายน, หนุมาน กรรมฐาน แปล. กามสูตร. นนทบุรี : ศรีปัญญา, 2558

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2562

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...