โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สุขภาพ

8 ประโยชน์ของโกโก้ อร่อยแถมดีต่อสุขภาพ | โกโก้ กับ ช็อคโกแลต ต่างกันยังไง?

Campus Star

เผยแพร่ 10 ส.ค. 2561 เวลา 05.17 น.
เชื่อว่าหลายคนในที่นี้ โดยเฉพาะสาว ๆ ทั้งหลายกลัวการกินโกโก้ เพราะคิดว่ามันทำให้อ้วน แต่จริง ๆ แล้วโกโก้ไม่ได้ทำให้อ้วนอย่างที่คิด แถมยังช่ว

เชื่อว่าหลายคนในที่นี้ โดยเฉพาะสาว ๆ ทั้งหลายกลัวการกินโกโก้ เพราะคิดว่ามันทำให้อ้วน แต่จริง ๆ แล้วโกโก้ไม่ได้ทำให้อ้วนอย่างที่คิด แถมยังช่วยควบคุมน้ำหนัก และยังมีประโยชน์อีกเพียบ ลองไปดู 8 ประโยชน์ของโกโก้ อร่อยแถมดีต่อสุขภาพ ที่เราเอามาฝากกันก่อนดีกว่า อาจจะเปลี่ยนใจกัน และสำหรับใครที่สงสัยว่าโกโก้ กับ ช็อคโกแลต แตกต่างกันยังไง? วันนี้เราก็มีคำตอบมาให้แล้ว ไปดูกันได้เลยจ้า

8 ประโยชน์ของโกโก้

โกโก้ vs ช็อคโกแลต

  • ช็อกโกแลต จะได้มาจาก Cocoa Liquor ที่ถูกทำให้เป็นผงโดย ไม่แยกไขมันโกโก้ออกมา หรือรีดไขมันออกไปเพียงเล็กน้อย ทำให้ผงช็อกโกแลตนี้มีปริมาณไขมันมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์
  • โกโก้ จะได้มากจาก Cocoa Liquor ที่ถูกทำให้เป็นผงโดยรีดไขมันโกโก้ออกไปจนหมด หรือเกือบหมด ที่วางขายอยู่ทั่วไปเป้นโกโก้ที่มีไขมัน 0 – 25 เปอร์เซ็นต์

1. มีสารต้านอนุมูลอิสระ

โกโก้อุดมไปด้วยโพลีฟีนอล (Pholyphenols) ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มักพบในผัก ผลไม้ ชา ช็อคโกแลต และไวน์ ช่วยลดการอักเสบ ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ดี ลดความดันโลหิต และยังช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลและน้ำตาลในเส้นเลือดอีกด้วย แต่กระบวนการในการแปรรูปเป็นช็อคโกแลตหรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็อาจจะทำให้โพลีฟีนอล (Pholyphenols) ลดลงได้

2. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ

ฟลาโวนอยด์ในโกโก้ จะไปช่วยเพิ่มไนตริกออกไซด์ ที่มีส่วนช่วยเรื่องเลือกและหัวใจ ช่วยระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ดี ช่วยขยายหลอดเลือดลดความตึงเครียดของหลอดเลือด ช่วยลดคอเลสเตอรอลตัวร้าย (LDL) จึงส่งผลดีต่อหัวใจ ลดความเสี่ยงโรคเกี่ยวกับหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์อัมพาต)

3. บำรุงสมอง

ฟลาโวนอยด์ในโกโก้จะช่วยเรื่องการทำงานของระบบประสาทและสมอง ช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์สมอง ช่วยเรื่องความจำ ความคิด การตัดสินใจ การรับรู้ และสามารถป้องกันโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุได้

4. ช่วยให้อารมณ์ดี

จากการศึกษาหลายการศึกษาพบว่า การกินโกโก้ส่งผลดีต่ออารมณ์ และภาวะซึมเศร้า ช่วยลดความเครียด และรทำให้ผ่อนคลาย คาดว่าในโกโก้อาจจะมีสารที่ไปกระตุ้นให้สมองหลั่ง สารโดปามีน และสารเซโรโทนิน (สารแห่งความสุข) จึงทำให้คนเรามีอารมณ์ดีและมีความสุขหลังได้ดื่มหรือกิน

5. ลดความเสี่ยงโรคเบาหวาน

หลายคนรู้กันดีว่าช็อคโกแลต ถ้ากินมาก ๆ จะไปเพิ่มระดับน้ำตาลในร่างกาย แต่ไม่ใช่สำหรับโกโก้และดาร์กช็อคโกแลต เพราะสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นเบาหวาน และช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ฟลาโวนอยด์ ในโกโก้จะช่วยชะลอการย่อยและการดูดซึมคาร์โบไฮเดรตในลำไส้ โดยจะไปกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน ที่เป้นฮอร์โมนที่ควบคุมการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรต

6. ควบคุมน้ำหนัก

สารโพลีฟีนอล (Polyphenol) ในโกโก้ นอกจากจะช่วยเรื่องการไหลเวียนเลือดแล้ว ยังซึ่งเป็นช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกายด้วย จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้โกโก้เหมาะกับคนที่ลดน้ำหนัก จากการศึกษาพบว่า คนที่กินช็อคโกแลตบ่อยกว่ามีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ต่ำกว่าคนที่ไม่กินช็อคโกแลต แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องเลือกกินให้ถูกวิธีด้วย

7. รักษาโรคหอบหืด

ในโกโก้มีสารธีโอโบรมีน (Theobromine) ที่ช่วยบรรเทาอาการไอเรื้อรัง และสารธีโอฟิลลีน (Theophylline) ที่ช่วยช่วยขยายปอด ให้หายใจได้สะดวกมากยิ่งขึ้น จากการทดลองกับสัตว์พบว่า โกโก้สามารถช่วยรักาาอาหารหืดหอบได้ ช่วยขยายทางเดินหายใจ และลดการหนาตัวของเนื้อเยื่อในระบบทางเดินหายใจ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นยังไม่มีการศึกษาเรื่องนี้กับมนุษย์

8. ฟันสวย ผิวใส

โกโก้ดีต่อสุขภาพฟัน สามารถป้องกันแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของฟันผุ แถมยังดีต่อสุขภาพผิว ช่วยให้ผิวแข็งแรง ฟลาโวนอยด์จะช่วยป้องกันรังสียูวีจากแสงอาทิตย์ และช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิว จากงานวิจัยในวารสารโภชนาการของยุโรปพบว่า การกินหรือดื่มโกโก้เป็นเวลานาน 12 สัปดาห์ ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น 25% เลยทีเดียว

ข้อควรระวัง!

การกินโกโก้ให้ได้ผลดีควรจะกินโกโก้ 100% ผสมกับน้ำเปล่า ผลิตภัณฑ์โกโก้แปรรูปที่วางขายอยู่ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น ช็อคโดแลตแท่ง ขนม เบเกอรี่ต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่มีส่วนผสมของน้ำตาล ครีม นมต ซึ่งโกโก้ที่เรากินเข้าไปก็จะไม่ใช่โกโก่้ 100% อีกต่อไปแล้ว เพราะฉะนั้นก็ควรจะเลือกกินให้ดี ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นเสียสุขภาพแทนนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก: healthline

Writtn by: Typrn

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...