โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

อาชญากรรม

มือมีดโหดหลอนยา ฟันคอเกือบขาด ทิ้งมีดในป่าอ้อย กลับบ้านนอนสบายใจ

Amarin TV

เผยแพร่ 22 ก.พ. เวลา 09.08 น.
มือมีดโหดหลอนยา ฟันคอเกือบขาด ทิ้งมีดในป่าอ้อย กลับบ้านนอนสบายใจ
มือมีดโหดหลอนยา ฟันคอเกือบขาด ทั้งที่ไม่รู้จักกัน ก่อนขี่รถจยย.หนี ทิ้งมีดในป่าอ้อย กลับบ้านนอนสบายใจ ตร.จับกุมยังให้การสับสน

มือมีดโหดหลอนยา ฟันคอเกือบขาด ทั้งที่ไม่รู้จักกัน ก่อนขี่รถจยย.หนี ทิ้งมีดในป่าอ้อย กลับบ้านนอนสบายใจ ตร.จับกุมยังให้การสับสน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 03.00 น. เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 68 ขณะที่ ร.ต.อ.ยุทธศักดิ์ ใจกะสัน พนักงานสอบสวน ปฏิบัติหน้าที่ร้อยเวรสอบสวน สภ.วิเชียรบุรี ได้รับแจ้งจากสายตรวจตำบลยางสาวว่า มีเหตุฟันกันจนเสียชีวิต ที่บริเวณท่อระบายน้ำริมคลองชลประทาน หมู่ที่ 2 ต.ยางสาว อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

จากนั้นจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยแพทย์เวรโรงพยาบาลวิเชียรบุรี พบศพผู้เสียชีวิต ทราบชื่อต่อมาคือ นายวีรศักดิ์ ศรีโคตร อายุ 39 ปี นอนเสียชีวิตข้างท่อระบายน้ำชลประทาน ที่เกิดเหตุพบมีบาดแผลที่บริเวณด้านหลังของศีรษะลึก และกว้างฉกรรจ์เกือบขาดออกจากร่าง และพบมีบาดแผลที่บริเวณไหล่ขวา

นายสมศักดิ์ ปะสาวะหัง และนายทรงพล มีสุข ผู้เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุตนเอง และนายทรงพล มีสุข พร้อมด้วยนายวีรศักดิ์ ศรีโคตร ผู้ตายได้ชวนกันออกไปหาปลาบริเวณคลองชลประทานดังกล่าว กระทั่งเวลาประมาณตี 2 กว่าๆ ขณะผู้ตายได้นั่งอยู่บริเวณท่อระบายน้ำ โดยหันหลังให้กับถนน ส่วนตนเองกับเพื่อนอีกคนนั่งอยู่บนกระท่อม ได้มีผู้ก่อเหตุทราบชื่อต่อมาคือ นายสถาพร ทองคำ อายุ 34 ปี อยู่ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดที่บริเวณที่เกิดเหตุ ถามด้วยน้ำเสียงที่ดังดุดันว่า ใครเห็นพี่สาวกูไหม แต่ยังไม่ทันที่จะมีใครตอบ หรือพูดอะไร ผู้ก่อเหตุได้ใช้อาวุธมีดฟันไปที่ผู้ตายทันทีจำนวน 2 ครั้งแล้วขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป

นายสมศักดิ์ และนายทรงพล ยืนยันว่าพวกตนไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน และผู้คนในหมู่บ้านต่างก็บอกว่าผู้ก่อเหตุเสพยาเป็นประจำ จนมีอาการหลอน เคยส่งบำบัดหลายครั้ง แต่ก็ไม่ดีขึ้น และกลับมาเสพยาเช่นเคย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ที่บ้านของผู้ก่อเหตุจากนั้นได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบรับคำสารภาพ ซึ่งเจ้าตัวก็ยังให้การที่สับสน และไม่รู้ว่าทำไมถึงก่อเหตุเช่นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวส่งดำเนินคดีต่อไปในข้อหาฆ่าผู้อื่น และพกพาอาวุธมีดติดตัวไปในเมืองหมู่บ้าน หรือที่สาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือมีเหตุอันควร และเสพสารเสพติดยาบ้า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยังให้สับสนไม่ค่อยรู้เรื่อง ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์นำมีดที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งที่ป่าอ้อย และขี่รถกลับไปนอนบ้าน จนถูกเจ้าหน้าที่จับได้ในที่สุด