โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

PTT แย้มศึกษาลงทุนธุรกิจไฮโดรเจนในต่างประเทศ - คาดดีลหาพันธมิตรลงทุนปิโตรฯ-โรงกลั่น คืบหน้าปีนี้

efinanceThai

เผยแพร่ 12 มี.ค. เวลา 01.47 น.

PTT แย้มศึกษาลงทุนธุรกิจไฮโดรเจนในต่างประเทศ - คาดดีลหาพันธมิตรลงทุนปิโตรฯ-โรงกลั่น คืบหน้าปีนี้

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -12 มี.ค. 68 8:46: น.

PTT แย้มศึกษาลงทุนธุรกิจไฮโดรเจนในต่างประเทศ รองรับดีมานด์พลังงานสะอาดของภาคอุตสาหกรรมในอนาคต เร่งวางแนวทางดำเนินธุรกิจเพื่อความมั่นคงทางพลังงาน ลุ้นปีนี้มีความคืบหน้าดีลหาพันธมิตรถือหุ้นธุรกิจปิโตรเคมี-โรงกลั่น แจงราคาหุ้นปรับตัวลงแรง เหตุจากราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์ มั่นใจยังจ่ายปันผลระดับสูง

ดร.คงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT กล่าวยอมรับว่า กลุ่มปตท.อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนด้านธุรกิจไฮโดรเจนในต่างประเทศ เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานสะอาดของภาคอุตสาหกรรมไทยในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเข้าไฮโดรเจนจากแหล่งผลิตที่มีต้นทุนการแข่งขันได้ อาทิ ภูมิภาคตะวันออกกลางและอินเดีย เป็นต้น

ทั้งนี้เรื่องไฮโดรเจนที่พูดถึงจะเป็นในลักษณะปริมาณขนาดที่ใหญ่ (ไม่ใช่ด้านรถพลังงานไฮโดรเจน) เพื่อนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงงานอุตสาหกรรมหรือทดแทนการใช้ถ่านหินหรือก๊าซธรรมชาติในอนาคต เพราะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ รวมถึงสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลกำหนดให้มีการผสมไฮโดรเจนในเชื้อเพลิงอุตสาหกรรมในสัดส่วน 5% ภายในปี 2030

ขณะที่มองว่าปัจจุบันต้นทุนไฮโดรเจนยังสูง จึงอาจต้องเน้นการเลือกซื้อมาหรือขายไปในตลาดต่างประเทศก่อน ซึ่งหากกลุ่มบริษัทสามารถจัดหาแหล่งผลิตได้ในต้นทุนที่ถูกก็จะมีการนำเข้ามาในประเทศไทยผ่านรูปแบบแอมโมเนีย เพราะเป็นทางเลือกที่สะดวกต่อการขนส่งและจัดเก็บ รวมถึงอาจต้องมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับการนำเข้าและจัดเก็บ เช่น การลงทุนในระบบท่อส่งหรือถังจัดเก็บอีกด้วย

โฆษณา - อ่านบทความต่อด้านล่าง

อย่างไรก็ตามเบื้องต้นการเข้าลงทุนในธุรกิจไฮโดรเจนในต่างประเทศ กลุ่มปตท.จะให้ บริษัท ปตท.สํารวจและผลิตปิโตรเลียม จํากัด (มหาชน) หรือ PTTEP เป็นตัวแทนเข้าไปลงทุน พร้อมคาดว่าในอนาคตไฮโดรเจนจะสามารถทดแทนการใช้ก๊าซธรรมชาติได้

"ปตท.มองว่าไฮโดรเจนจะเป็นพลังงานแห่งอนาคตที่มีบทบาทสำคัญต่อการลดการปล่อยคาร์บอน และช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมไทยไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในระยะยาว แต่ระยะแรกจะเริ่มจากการนำเข้าและขยายการลงทุนต่อไปในอนาคต" ดร.คงกระพัน กล่าว

พร้อมกันนี้ยังวางแนวทางดำเนินธุรกิจเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน โดย PTTEP ยังคงมุ่งเน้นการดำเนินงานเพื่อความมั่นคงด้านพลังงาน ขณะที่ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ (Gas) ให้ความสำคัญกับการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนต่อหน่วยเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ ส่วนธุรกิจ LNG ยังคงแสวงหาโอกาสการเติบโตใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง

ด้านธุรกิจไฟฟ้า จะมี บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC และ Mandate มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน (Reliability) และขับเคลื่อนกระบวนการลดการปล่อยคาร์บอน (Decarbonization) ให้กับกลุ่ม ปตท. ควบคู่ไปกับการพัฒนา Energy Mix ที่เหมาะสม

สำหรับกลุ่มธุรกิจ Non-Hydrocarbon ปตท.ให้ความสำคัญกับการขยายธุรกิจ EV โดยเน้นเฉพาะธุรกิจสถานีชาร์จ (Charging) โดยจะไม่มีการหาพาร์ทเนอร์เพิ่มเติมในด้านอื่นๆ ขณะที่ธุรกิจ Logistics & Infrastructure จะดำเนินการเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ Hydrocarbon โดยใช้แนวทาง Asset-Light และร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเสริมศักยภาพการแข่งขัน พร้อมทั้งมีแผนบริหารความเสี่ยง (Derisk) และกำหนด Timeline ที่ชัดเจน รวมถึงด้านธุรกิจ Life Science ปตท. วางบทบาทเป็น Financial Investor ใช้แนวทาง Self-Funding เพื่อสร้าง Goodwill ให้กับสังคม

ส่วนความคืบหน้าการหาพันธมิตรเข้าร่วมลงทุนในธุรกิจปิโตรเคมีและโรงกลั่นที่มีศักยภาพสูง (TOP, IRPC และPTTGC ) โดยปัจจุบันมีพันธมิตรในต่างประเทศที่สนใจร่วมลงทุนหลายราย ซึ่ง ปตท.ให้ความสำคัญกับการคัดเลือกพันธมิตรที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มและช่วยเสริมศักยภาพในการขยายธุรกิจโดยนโยบายหลักคือกลุ่ม ปตท. ยังคงสัดส่วนการถือหุ้นใหญ่อยู่ พร้อมคาดว่าปี 68 นี้จะเห็นความก้าวหน้าของเรื่องดังกล่าว

ด้านราคาหุ้น PTT ที่ปรับตัวลดลงนั้น มองว่ามีปัจจัยกดดันหลายส่วน โดยเฉพาะราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลดลงต่ำกว่าระดับ 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมพลังงาน แต่ในด้านอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) นั้นถือว่าอยู่ในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม ปตท. ยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอย่างรอบคอบ และย้ำความมุ่งมั่นในการจ่ายเงินปันผลให้สอดคล้องกับแนวโน้มตลาด พร้อมปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาเสถียรภาพทางการเงินในระยะยาว

รายงาน โดย ปริวัฒน์ หินพลอย เรียบเรียง โดย จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
อีเมล์. charuwan@efinancethai.comอนุมัติ โดย อนุรักษ์ ลีประเสริฐสุนทร
ดูข่าวต้นฉบับ