โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

อยากเปลี่ยนบ้านว่างให้สร้างรายได้ ต้องรู้อะไรบ้าง ?

มนุษย์ต่างวัย

อัพเดต 06 ก.พ. เวลา 20.16 น. • เผยแพร่ 05 ก.พ. เวลา 23.00 น. • มนุษย์ต่างวัย

หากคุณเป็นอีกคนหนึ่งที่อยากสร้างบ้าน หรือเปลี่ยนพื้นที่ที่มีอยู่ให้สามารถสร้างรายได้ให้กับชีวิตวัยเกษียณ อยากชวนอ่านโพสต์สรุปกิจกรรมนี้

กิจกรรมชีวิต ซีซัน 2 วิชา “เรียนรู้ HOW TO เปลี่ยนบ้านให้เป็นรายได้” จัดโดยสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ มนุษย์ต่างวัย SCB Academy ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และสำนักเคเอกซ์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี

โดยมี โค้ชโน้ต - สวยศ ด่านบรรพต ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาและพัฒนาธุรกิจ และคุณก๋า - สิริลักษณ์ ธรรมาภรณ์ เจ้าของ Ayutthaya Treehouse ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายความรู้เกี่ยวกับแนวทางในการทำธุรกิจเบื้องต้น และร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในครั้งนี้

สิ่งสำคัญที่โค้ชโน้ตฝากไว้ให้ผู้เข้าร่วมเวิร์กช็อปทุกคนในวันนั้น คือการวางแผนบนกระดาษให้แม่นยำก่อนที่จะเริ่มก่ออิฐก้อนแรก

“เวลาอยากทำอะไรสักอย่างหลายคนมักจะเชื่อว่าไอเดียที่เกิดขึ้นนั้นดีที่สุดแล้วลงมือทำเลยโดยที่ยังไม่ได้วางแผน ไม่อยากให้เริ่มก่ออิฐหรือลงมือทำไปเเล้วค่อยมาคิด แต่อยากให้คิด ให้วางแผนในกระดาษให้เรียบร้อยก่อนแล้วค่อยลงมือทำ ลองร่างในกระดาษก่อน โดยใช้ CASHIER Model จะได้ประเมินภาพรวมได้ว่าถ้ารายได้ประมาณนี้ ค่าใช้จ่ายประมาณนี้ ขาดทุน กำไรเท่าไร แล้วเรายอมรับได้ไหม

ค่อย ๆ ทำทีละเล็ก ทีละน้อย ธุรกิจทุกอย่างมีความเสี่ยง มันไม่มีสูตรตายตัว 100 เปอร์เซ็นต์ เราไม่อยากให้ใครต้องใช้เงินที่อาจจะเป็นเงินก้อนสุดท้ายมาลงทุนแล้วไม่ประสบความสำเร็จ”

“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาเป็นวิทยากรในวันนี้ และคิดว่าประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก โดยเฉพาะเรื่องเทคนิคการสร้างรายได้จากอสังหาริมทรัพย์ที่เขามีอยู่ ในการสร้างรายได้ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นบ้าน หรือที่ว่างที่มีอยู่แล้วต่อยอดให้เป็นธุรกิจ

“หลายคนอาจมีความฝัน อยากสร้างรายได้จากสินทรัพย์ที่มีอยู่ หรืออยากลงทุนทำธุรกิจในที่ดินของตัวเอง แล้วได้พักอาศัยหรือใช้ชีวิตอยู่ในนั้นด้วย ทำให้เกิดความคิด ความกังวลว่าจะต้องเริ่มอย่างไร ใช้ทุนเท่าไร ต้องหาคนมาช่วยหรือไม่ จะทำคนเดียวไหวหรือเปล่า แต่ก่อนที่จะคิดไปถึงจุดนั้น ไม่ว่าคุณอยากเริ่มต้นธุรกิจอะไรก็ตาม ก่อนที่จะตัดสินใจลงมือทำอยากให้ลองย้อนกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองก่อนว่า 1. สิ่งที่เราจะทำมีคนเห็นคุณค่า ต้องการ และอยากใช้บริการจริงหรือไม่ 2. สิ่งที่เราจะทำนั้นมันคุ้มค่าหรือไม่ ซึ่งมันต้องไม่ใช่แค่ความคุ้มค่าทางจิตใจ แต่ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าทางการเงินหรือผลกำไรที่จะได้กลับมาด้วย 3. สิ่งที่เราจะทำนั้นมันทำให้เกิดขึ้นจริงได้หรือไม่ เช่น เรามีใบอนุญาตจดทะเบียนถูกต้องในการทำธุรกิจนั้น

“สิ่งที่ผมอยากฝากไว้ก็คือก่อนจะเริ่มต้นธุรกิจอะไรก็ตาม อันดับแรกต้องถามตัวเองก่อนว่าเราเหมาะกับธุรกิจนี้จริงหรือเปล่า อยากอยู่ในธุรกิจแบบนี้จริงหรือเปล่า ลองเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในวงการนั้น ๆ แล้วดูว่าถ้ามันมีปัญหาเรารับได้หรือไม่ เราแก้มันได้ไหม หรือถ้าต้องเหน็ดเหนื่อยจากการทำสิ่งนั้นแล้ว เรายังมีกำลังใจทำมันต่อไปหรือเปล่า ถ้าลองไปทำแล้วพบว่าเราไม่เหมาะก็ลองมองหาอาชีพใหม่ แต่ถ้ารู้ว่าเราชอบและอยากทำมันจริง ๆ เราก็ต้องกลับไปดูก่อนว่าใครจะเป็นกลุ่มลูกค้าของเรา เพื่อจะได้ปรับรูปแบบให้เหมาะกับสิ่งที่ลูกค้ามองหาหรืออยากได้จริง ๆ”

“โลกนี้มันเล็กลง คนหนีภัยเยอะ จะทำอย่างไรให้คนดี ๆ มาอยู่กับเรา ถ้ามีแขกมาพักครั้งที่ 2 ขึ้นไป เราก็จะบอกเขาว่าถ้ามาอยุธยาแล้วไม่มีเวลาค้าง ก็มานั่งเล่น นั่งทำงานที่นี่ได้ บางคนมาพักหลาย ๆ ครั้งก็จะสนิทกัน บางครั้งก็มาอยู่หลาย ๆ วัน ก่อนจะกลับเขาก็มาขอเลี้ยงข้าวเราด้วย ถ้าจะพาแขกเที่ยวอย่าทำตัวเป็นไกด์ แค่พาเขาไปส่ง พาเที่ยว ทำตัวให้เหมือนเพื่อน

“ตั้งแต่ทำบ้านต้นไม้มา 10 ปี เราขึ้นราคาครั้งเดียวคือตอนที่ติดแอร์ เราอาจจะไม่ได้มานั่งคำนวณว่ามันกำไรหรือขาดทุน เพราะถ้าคิดแล้วกลัวจะไม่ได้ทำ

“เราคิดว่าการทำงานตรงนี้มันจะทำให้เรามีความสุขได้บ้าง ทำให้ชีวิตไม่น่าเบื่อหน่าย อีกอย่างการทำงานก็ทำให้เราได้ออกกำลังกายจากการปัด กวาด เช็ด ถู สำหรับเราคิดว่าความสุขคือคำตอบ นอกเหนือจากรายได้ที่เข้ามาก็คือความสุขที่เป็นกำไร”

“ที่บ้านมีห้องอยู่หลายห้องก็เลยรับเป็น Host Family ให้กับเด็ก ๆ ชาวต่างชาติที่มาแลกเปลี่ยนในไทย ทำให้บ้านเราไม่เคยว่างและไม่เคยเหงาเลย เพราะมีเด็ก ๆ แวะเวียนมาหาอยู่ตลอด พอถึงวัยนี้ก็รู้สึกว่าอยากทำอะไรบางอย่างที่มันสามารถสร้างรายได้เพิ่มเติมขึ้นมาได้ ก็เลยมองเรื่องของ Airbnb

“ตอนนี้ก็เริ่มเอาห้องในบ้านไปลองเปิดใน Airbnb แล้ว และเพิ่งจะมีคนจองเข้ามา เราไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมมาก แค่ใช้ห้องที่เราเคยให้เด็ก ๆ อยู่มาลองเปิดดู เพิ่งสมัครได้ไม่นาน ก็มีคนจองเข้ามาเลย เราก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมีคนจองเข้ามาเร็วขนาดนี้เหมือนกัน

“กิจกรรมวันนี้เป็นอะไรที่ดีมาก เรามักจะพูดกันว่า เวลาเด็ก ๆ เรียนจบปริญญาตรี เริ่มทำงาน เริ่มมีรายได้ มันคือการเริ่มต้นชีวิตใหม่ แน่นอนว่ามีความกลัว ความลังเล ซึ่งไม่ต่างกับวัยเราในตอนนี้ที่ถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่เช่นกัน บางคนจะได้รับเงินเดือนครั้งสุดท้ายแล้วก็จะไม่ได้รับอีก สุขภาพที่ถดถอย การอยู่อย่างโดดเดี่ยว ด้วยสภาพสังคมที่เปลี่ยนไป ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ครอบครัวอยู่ด้วยกัน

“ช่วงวัยนี้จึงต้องใช้ความกล้า ความอิสระ และความจริงใจในการใช้ชีวิต ใช้หัวใจนำในการทำธุรกิจ ซึ่งมันก็สัมพันธ์กับสิ่งที่คุณก๋าสื่อออกมาในวันนี้ คือ การกล้าที่จะทำ ทำแค่พออยู่ได้ และไม่ได้หวังผลกำไรมากมาย สังคมปัจจุบันต้องการคนใจดี เพราะความใจดีมันจะทำให้ทุกอย่างต่อยอดไปเรื่อย ๆ และยั่งยืน และเป็นสิ่งที่จะทำให้ชีวิตของเราไม่แห้งแล้ง หัวใจของการทำธุรกิจไม่ได้เริ่มต้นด้วยเงิน แต่เริ่มด้วยใจและการลงมือทำก่อน ถ้าเมื่อไรเรามานั่งคิดเรื่องกำไร ขาดทุนตลอดเวลา เราจะไม่มีความสุข และลูกค้าก็จะไม่อยากกลับมาหาเราอีกครั้ง”

“เรามีที่ดินแปลงเล็ก ๆ อยู่ที่บางกะเจ้า ก็เลยอยากหาแหล่งรายได้หลังจากวางมือจากงานประจำไว้ ด้วยความที่เราเป็นคนชอบอยู่บ้านก็เลยอยากหางานที่สามารถทำไปพร้อม ๆ กับการอยู่บ้านได้ คิดว่าถ้าอายุมากขึ้นก็คงอยู่ตรงนี้ ไม่ได้ย้ายไปอยู่ที่อื่น เพราะมันใกล้เมือง เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก อีกอย่างเราต้องดูแลคุณพ่อที่ป่วยด้วย ก็เลยคิดว่าถ้ามีโฮมสเตย์ตรงนี้มันคงจะตอบโจทย์ชีวิตเราได้ในหลาย ๆ ด้าน

“เรามีบ้านเล็ก ๆ อยู่แล้ว 1 หลัง ก็คิดว่าจะทำเพิ่มอีกสัก 2 หลัง สร้างเป็นบ้านดินและทำจุดแวะพักริมคลองให้คนที่เขามาปั่นจักรยานแวะเข้ามานั่งพักได้ ตอนแรกเราก็คิดไปถึงพวกรีสอร์ต คิดว่าน่าจะต้องใช้เงินลงทุนเยอะ แต่พอได้ฟังพี่ก๋าพูดก็ทำให้เราได้รู้ว่ามันอาจจะไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะเราไม่จำเป็นที่จะต้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกทุกอย่าง เราแค่ทำในแบบของตัวเอง แล้วมันจะดึงดูดกลุ่มลูกค้าหรือคนที่ชอบแบบเราเข้ามาเอง

“ก่อนหน้านี้เราคิดถึงกลุ่มเป้าหมายเราว่าคงเป็นนักท่องเที่ยว แต่เพื่อน ๆ ในกลุ่มก็จุดประกายด้วยการพูดถึงกลุ่ม Digital Nomad ขึ้นมา ซึ่งเราไม่เคยคิดถึงคนกลุ่มนี้มาก่อน ทำให้เราได้เห็นภาพกลุ่มเป้าหมายของเราชัดเจนขึ้น

“ชีวิต ซีซัน 2 ของเราก็แค่อยากมีงานทำที่สร้างรายได้ไม่น้อยกว่าที่เราเคยทำได้ ไม่ต้องออกไปวุ่นวายกับผู้คน คิดว่ากลับไปก็เริ่มเขียนแผนได้เลย ที่ผ่านมาเราไม่ตัดสินใจสักที แต่ตอนนี้คิดว่าคงถึงเวลาแล้ว”

“ตอนนี้เรากำลังจะทำโฮมสเตย์ที่ จ.อุบลฯ ก็เลยอยากมาฟังเรื่องราวและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับพี่ก๋า ซึ่งพี่ก๋าบอกว่าให้เริ่มต้นจากการหาจุดเด่นของตัวเองก่อน แต่พื้นที่ของเราไม่มีจุดเด่น แต่มีปัญหา เราก็เลยคิดว่าจะเปลี่ยนปัญหาที่เรามีให้กลายเป็นจุดเด่น เริ่มจากการแก้ปัญหาแมลงที่มีในชุมชน หาพืชและดอกไม้กันแมลงมาปลูก จัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชนให้ดีขึ้น โดยการขอความรู้และความร่วมมือจากองค์กรส่วนท้องถิ่น

“เราใกล้จะเกษียณแล้วก็คิดว่าอยากกลับไปอยู่ที่บ้าน เราคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่อายุ 40 ปี ก็เลยเริ่มหาประสบการณ์ในการทำ Airbnb โดยเริ่มจากห้องแม่บ้านของเพื่อน และทำมาเรื่อย ๆ จนถึงตอนนี้

“ทุกวันนี้ที่เรายังทำงานอยู่ ยังมีโอกาสได้อยู่กรุงเทพฯ เราก็พยายามหาความรู้ตลอดเวลา ไปเรียนหลาย ๆ เรื่อง ไปร่วมกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเปิดโลกทัศน์ของตัวเอง พยายามสะสมความรู้ที่เป็นประโยชน์ไว้ให้ได้มากที่สุด เพื่อที่จะนำกลับไปใช้พัฒนาชุมชนของตัวเองในวันที่เกษียณจากการทำงานแล้ว

“อย่างเรื่องการทำ Airbnb ถ้าใครพร้อมที่จะเรียนรู้และลงมือทำจริงจัง เราก็พร้อมที่จะแบ่งปันประสบการณ์ของเราให้ เพราะเราคิดว่าการเรียนรู้กับคนวัยเดียวกันมันน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่าให้เด็ก ๆ มาพูด

“มาถึงวันนี้แล้วเราคิดว่าความสุขของเราน่าจะเป็นเรื่องสุขภาพ เราออกกำลังกายทุกวัน นั่งสมาธิทุกวัน เพราะเรามองว่ามันจะทำให้เราได้ใช้ชีวิต ซีซัน 2 ของเราได้อย่างปกติ ไม่ติดเตียง และไม่ต้องเป็นภาระใคร”

“ตอนนี้เราพักอยู่คอนโดในเมือง แต่มีบ้านอยู่หลังหนึ่งอยู่ที่พระราม 2 ซึ่งทุกวันนี้ไม่ได้ไปพักแล้ว ก็เลยมองหาช่องทางที่จะเปลี่ยนให้มันเป็นรายได้ พอมาเจอกิจกรรมนี้ก็เลยรีบสมัครเข้ามา

“เรารู้สึกว่ามนุษย์ต่างวัยใส่ใจผู้เข้าร่วมกิจกรรมมาก ๆ เพื่อน ๆ ร่วมกลุ่มวันนี้ก็สนุกสนานในการแลกเปลี่ยนไอเดีย มีเพื่อนคนหนึ่งอยากทำฟาร์มสเตย์ แต่เพื่อน ๆ คนอื่นแนะนำว่าถ้ามีพื้นที่อยู่แล้ว ลองทำเป็นเฟสดูก่อนไหม อาจจะเริ่มเฟสแรกด้วยการเปิดเป็นลานกางเต็นท์ดูก่อน จะได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้วย ซึ่งก็ทำให้เขาได้มุมมองใหม่ ๆ กลับไป

“นอกจากความรู้ที่ได้ในวันนี้ ก็ได้เจอหลาย ๆ คนที่มาสร้างแรงบันดาลใจ อย่างป้าพิม หรือพี่โพธิ์ด้วย สิ่งสำคัญคือเมื่อเราได้ความรู้กลับไปแล้ว อย่ามัวแต่คิด ให้ลงมือทำเลย ถ้าเรามีห้องว่างก็อาจจะลองใส่เข้าไปใน Airbnb ก็ได้”

- คุณส้ม -

“วันนี้ผมชอบเซสชันช่วงเช้า เพราะผมมองว่ามันเป็นพื้นฐานที่สอนให้เรามีเซนส์ในการทำธุรกิจว่าก่อนทำเราต้องคิดถึงอะไรบ้าง และการได้ลองลงมือเขียนในแผ่นกระดาษ CASHIER Model ก็ทำให้เราเห็นภาพชัดขึ้นว่าเราต้องเตรียมพร้อมอะไรบ้าง ซึ่งเป็นความรู้ที่เอาไปประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจอื่น ๆ ได้ ไม่ใช่เฉพาะกับการทำห้องเช่าเท่านั้น

“เนื่องจากบ้านที่เรามีอยู่ในหมู่บ้านคงไม่สะดวกในการทำเป็น Airbnb เราคงจะปล่อยเช่าระยะยาวแบบครึ่งปีหรือหนึ่งปีมากกว่า ส่วนความรู้เรื่องการทำ Airbnb ก็คงจะเอาไปต่อยอดพูดคุยกับเพื่อน ๆ ในโปรเจกต์อื่น ๆ ได้

“หลังจากวันนี้คงต้องกลับไปทบทวนก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นใคร แล้วเราต้องปรับปรุงบ้านของเราเพิ่มเติมหรือเปล่า ตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่เพราะตั้งใจว่าจะรอให้ทางด่วนช่วงแรกเสร็จก่อนแล้วค่อยเริ่มลงมือทำจริงจัง

“ผมคิดว่าหลายคนมีของที่อยู่ในบ้านที่สามารถเปลี่ยนเป็นรายได้ได้ ซึ่งการมีรายได้ที่เป็นเหมือน Passive Income เข้ามาก็เป็นอีกทางหนึ่งที่จะทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากขึ้นในช่วงวัยแบบนี้”

- คุณโจ -

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...