“ซิลค์สแปน” หรือ SILK นายหน้าประกันวินาศภัย กำลังเข้าตลาดหุ้น พบกลุ่ม “ทีโอเอ” ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3

เมื่อการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศไทยจะสร้างกำลังซื้อให้กับประชาชนที่มากขึ้น และสร้างปัจจัยที่ส่งผลให้เข้าถึงการซื้อประกันภัยประเภทต่างๆมากขึ้นเช่น เมื่อเศรษฐกิจดีขึ้นประชาชนมีกำลังทรัพย์ที่จะซื้อรถยนต์เพื่อมาสร้างประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจประกันวินาศภัยมีรายได้จากจำนวนรถยนต์ที่มากขึ้นในตลาดอีกด้วย
ดังนั้นคอลัมน์ Next IPO ประจำวันอังคาร จะพานักลงทุนมาทำความรู้จักกับ บริษัท ซิลค์สแปน จำกัด (มหาชน) หรือ SILKผู้ดำเนินธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยและให้บริการผลิตภัณฑ์การเงินทางออนไลน์ ภายใต้แนวคิด “SILKSPAN Financial Supermarket” ครอบคลุมทั้งการบริการนายหน้าประกันภัยรถยนต์
รวมทั้ง ให้บริการจัดทำสื่อเพื่อการจัดหาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคล บัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์ ประกันวินาศภัย และประกันชีวิต เพื่อรวบรวมผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายให้ลูกค้าของบริษัทได้เลือกและเปรียบเทียบตามวัตถุประสงค์อย่างครบถ้วน
ย้อนกลับไปเมื่อ ปี 2543 SILKจัดตั้งขึ้นโดยนายบุตรรัตย์ จรูญสมิทธิ์ ที่เล็งเห็นโอกาสการเติบโตของความต้องการในผลิตภัณฑ์ทางการเงินส่วนบุคคล (ครอบคลุมทั้งผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่างๆ และสินเชื่อ) ที่กำลังขยายตัว ตลอดจนการทำประกันภัยของประชาชน ณ ขณะนั้นยังค่อนข้างต่ำ ทำให้ตระหนักถึงโอกาสในการเติบโตของตลาดประกันภัย
ทั้งนี้จึงได้พัฒนาบริการแพลตฟอร์มออนไลน์สู่ออฟไลน์ (Online-to-Offline Platform) ในการเป็นศูนย์รวมผลิตภัณฑ์และการบริการทางการเงินภายใต้แนวคิด “SILKSPAN Online Financial Market Platform” ที่เป็นแหล่งรวบรวมการบริการทางการเงินประเภทประกันวินาศภัย ประกันชีวิต บัตรเครดิต และสินเชื่อ จากบริษัทประกันและสถาบันการเงินที่หลากหลายรวมอยู่ที่เดียวผ่านทางเว็บไซต์ www.silkspan.com
สำหรับปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ ได้แก่
1.ธุรกิจให้บริการทางการตลาดในการจัดหาข้อมูลรายชื่อผู้มุ่งหวัง (Prospect) ให้แก่คู่ค้าของบริษัท ได้แก่ บริษัทประกันภัย บริษัทสินเชื่อ และสถาบันการเงิน โดยการเสนอข้อมูลที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งจัดทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อการจัดหาข้อมูลรายชื่อผู้มุ่งหวังผ่านแพลตฟอร์ม SILKSPAN และส่งต่อรายชื่อให้แก่คู่ค้าสำหรับติดต่อกลับ สำหรับการให้ความช่วยเหลือในการสมัครบริการให้แก่ลูกค้า
2.ธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย สำหรับการเสนอขายบริการประกันรถยนต์และประกันสุขภาพ โดยมีเจ้าหน้าที่ติดต่อทางโทรศัพท์ (Telesale) ที่มีใบอนุญาตนายหน้าประกันวินาศภัย สำหรับสนับสนุนการให้บริการนายหน้าประกันรถยนต์และสุขภาพแก่ลูกค้า ดำเนินการผ่านบริษัท ซิลค์สแปน อินชัวรันซ์ โบรกเกอร์เรจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน 100%

สำหรับปี 2563-2565 บริษัทมีรายได้รวมเท่ากับ 345.23 ล้านบาท 366.05 ล้านบาท และ 338.31 ล้านบาท ตามลำดับ โดยรายได้ของกลุ่มบริษัทส่วนใหญ่มาจากรายได้จากธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัย ซึ่งปี 2565 มีสัดส่วนประมาณ 78.19% ขณะที่รายได้จากการให้บริการทางการตลาดมีสัดส่วน 21.47% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือมาจากรายได้อื่นๆ
ขณะที่กำไรสุทธิในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา พบว่า 2563 กำไรสุทธิจำนวน 44.18 ล้านบาท แต่ปี 2564 กำไรสุทธิลดลงมาอยู่ที่ 13.05 ล้านบาท ล่าสุดปี 2565 กำไรสุทธิเพิ่มมาเป็น 24.42 ล้านบาท โดยคิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ 12.80 ร้อยละ 3.57 และร้อยละ 7.22 ตามลำดับ ซึ่งการลดลงอย่างมีสาระสำคัญของอัตรากำไรสุทธิในปี 2564 เกิดขึ้นจากการต้นทุนจากการบริการและค่าใช้จ่ายการบริการที่เพิ่มสูงขึ้น และการขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนจากเงินกู้ยืม
ส่วนโครงสร้างผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 และภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) สรุปเป็นดังนี้

สำหรับบริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (TOAVH) เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ของบริษัท มีการถือหุ้น 100% โดย บริษัท ทีโอเอ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด และผู้ถือหุ้นที่แท้จริง (Ultimate Shareholders) ของ บริษัท ทีโอเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท ทีโอเอ กรุ๊ป โฮลดิ้ง จำกัด คือ กลุ่มครอบครัวตั้งคารวคุณ ซึ่งนายณัฏฐวุฒิ ตั้งคารวคุณ นั่งเป็นกรรมการ SILKอีกด้วย

เตรียมเข้าเทรด mai

SILKมีแผนเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai)เร็วๆนี้ กลุ่มอุตสาหกรรม ธุรกิจการเงิน โดยมีบริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเสนอขายหุ้น IPO ไม่เกิน 21,049,582หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 16.70ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
ประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท จำนวน 18,906,920หุ้น คิดเป็นร้อยละ 15.00ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้ และ หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดย TOAVH จำนวนไม่เกิน 2,142,662หุ้น คิดเป็นร้อยละ 1.70ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญในครั้งนี้
โดยมีวัตถุประสงค์ของการระดมทุน ประกอบด้วย 1.ใช้เป็นแหล่งเงินทุนในธุรกิจนายหน้าประกันวินาศภัยสำหรับการชำระแบบผ่อนเบี้ยประกัน 0% 2.ใช้ในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่สำหรับรองรับการบริการ Online และระบบปฏิบัติการ
3.ใช้เพิ่มความสามารถและขนาดของระบบจัดเก็บข้อมูล (Cloud Infrastructure)4.ใช้สำหรับรองรับการทำการตลาดในการหาลูกค้าใหม่ของบริษัทในอนาคต 5.ใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนของกลุ่มบริษัท ซึ่งบริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิฯ