โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

SMEs-การเกษตร

การเลี้ยงขยายไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงอย่างง่าย เกษตรกรผลิตเองได้

เทคโนโลยีชาวบ้าน

อัพเดต 10 เม.ย. 2566 เวลา 09.51 น. • เผยแพร่ 11 เม.ย. 2566 เวลา 11.00 น.

ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลง Steinernema carpocapsae(สายพันธุ์ต่างประเทศ) ที่สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืชนำเข้ามาจากต่างประเทศ นำเข้ามาเลี้ยงขยายเพื่อใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืช จนปัจจุบันได้รับความนิยมให้นำไปใช้ควบคุมแมลงศัตรูพืชมากมาย เช่น หนอนกินใต้ผิวเปลือกลองกอง หนอนกระทู้หอม ตัวอ่อนด้วงหมัดผัก หนอนด้วงกินรากสตรอเบอร์รี่ หนอนผีเสื้อโรงเห็ด ด้วงงวงมันเทศ แมลงศัตรูในสนามหญ้า ฯลฯ ซึ่งมีเกษตรกรให้ความสนใจและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก นำไปใช้ในหลายพื้นที่ แต่ขั้นตอนและวิธีการเพาะเลี้ยงไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงชนิดนี้มีความยุ่งยากที่จะนำไปเพาะขยายต่อ ทางกลุ่มงานการปราบศัตรูพืชทางชีวภาพ กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร จึงได้หาวิธีการผลิตไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศอย่างง่ายขึ้นมา เกษตรกรสามารถนำไปผลิตเองได้

ทำความรู้จักกับไส้เดือนฝอยศัตรูแมลง

สายพันธุ์ต่างประเทศ

ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก มองเห็นได้ยากด้วยตาเปล่า มีรูปร่างยาวเรียวบางคล้ายเส้นด้าย ส่วนหัวกลมมน ไม่มีข้อปล้อง ส่วนหางแคบและปลายเรียว มีลำตัวยาวประมาณ 0.4-1.0 มิลลิเมตร ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงเจริญเติบโตและขยายพันธุ์โดยอาศัยอยู่ภายในตัวแมลงเท่านั้น

ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงชนิดนี้ มีคุณสมบัติในการค้นหาแมลงศัตรูเป้าหมาย และทำให้แมลงตายในเวลาภายใน 24-48 ชั่วโมง สามารถเลี้ยงเพิ่มปริมาณได้ด้วยการใช้แมลงอาศัยและอาหารเทียม มีความปลอดภัยต่อมนุษย์และสัตว์เลือดอุ่น

ต้นเชื้อไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงและแมลงอาศัย

ต้นเชื้อไส้เดือนฝอยศัตรูแมลง คือพ่อแม่พันธุ์ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศที่บรรจุอยู่ในฟองน้ำ ผลิตโดยกลุ่มงานการปราบศัตรูพืชทางชีวภาพ ที่ผ่านการคำนวณแล้วว่ามีจำนวนไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงประมาณ 1 ล้านตัวที่อยู่ในฟองน้ำ และสามารถนำไปเพาะขยายต่อได้ในอัตราส่วนที่เหมาะสม

แมลงอาศัย คือแมลงที่เป็นที่อยู่อาศัยของไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศ ซึ่งทางกลุ่มงานแนะนำให้ใช้คือ หนอนกินรังผึ้ง Galleria mellonella (Linnaeus) ซึ่งหาได้จากรังผึ้งเก่า หรือตามร้านค้าอาหารสัตว์ทั่วไป เนื่องจากหนอนกินรังผึ้งเพาะเลี้ยงง่ายเหมาะสำหรับเกษตรกร หนอนชนิดนี้ เมื่อผีเสื้อได้รับการผสมพันธุ์ ผีเสื้อเพศเมียวางไข่ประมาณ 50-150 ฟองต่อกลุ่ม ประมาณ 5-7 วัน ไข่จะฟักออกเป็นตัวหนอน มี 6 วัย โดยระยะนี้ใช้เวลาประมาณ 35-40 วัน จากนั้นหนอนจะพัฒนาไปเป็นระยะดักแด้อีกประมาณ 10-15 วัน และกลายเป็นตัวเต็มวัยในเวลาต่อมา มีอายุขัยตลอดวงจรชีวิตประมาณ 62-83 วัน

คุณอัจฉรียา นิจจรัลกุล ตำแหน่งนักกีฏวิทยาปฏิบัติการ และ คุณปาริชาติ จำรัสศรี ตำแหน่งนักกีฏวิทยาปฏิบัติการ กลุ่มงานการปราบศัตรูพืชทางชีวภาพ กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร ได้ทำการวิจัย ทดลอง และผลิตไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศ ได้อธิบายถึงการเลี้ยงแมลงอาศัยสำหรับเลี้ยงขยายไส้เดือนฝอยศัตรูแมลง (หนอนกินรังผึ้ง) ดังนี้

วิธีเตรียมอาหารสำหรับเลี้ยงหนอนกินรังผึ้ง

1. นำรำข้าวสาลีไปอบที่อุณหภูมิ 90 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 ชั่วโมงหรือจนกว่ารำข้าวแห้ง เพื่อกำจัดแมลงที่ติดมากับรำข้าวสาลี

2. เทรำข้าวสาลี 1 กิโลกรัม และน้ำเชื่อม 800 มิลลิลิตร ลงในกะละมัง คลุกเคล้าให้เข้ากัน อาหารจะมีสีเข้มขึ้น จะได้อาหารสำหรับเลี้ยงหนอนกินรังผึ้ง น้ำหนักประมาณ 2 กิโลกรัม

วิธีเลี้ยงหนอนกินรังผึ้ง

1. นำไข่ผีเสื้อหนอนกินรังผึ้งน้ำหนัก 1 กรัม หรือประมาณ 30 กลุ่ม วางกระจายในกล่องพลาสติก ขนาด 4x6x2 นิ้ว ภายในกล่องบรรจุอาหารเทียมเลี้ยงหนอนปริมาณ 100 กรัม พร้อมปิดฝา (ฝากล่องเจาะและปิดทับด้วยมุ้งลวดที่มีตาถี่) และวางกล่องบนชั้นเพาะเลี้ยงเพื่อป้องกันมด ไว้ภายในห้องที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก

2. ตั้งทิ้งไว้เป็นเวลา 10 วัน หนอนจะฟักตัวออกมาและเจริญเติบโตเข้าระยะวัย 2 มีขนาดประมาณ 1 เซนติเมตร อาหารในกล่องจะแห้ง จากนั้นแบ่งก้อนอาหารที่มีหนอนออกเป็น 3 ส่วน ย้ายลงกล่องพลาสติกขนาด 7x11x3 นิ้ว ภายในกล่องจะบรรจุอาหารหนอนประมาณ 300 กรัม แล้วนำหนอนจากกล่องเดิมที่แบ่งแล้ว 1 ส่วน วางลงด้านบนของอาหารกล่องใหม่ที่เตรียมไว้

3. เลี้ยงหนอนกินรังผึ้งต่ออีก 25 วัน ระหว่างการเลี้ยงให้คอยสังเกตอาหาร เมื่ออาหารเริ่มแห้งให้เติมอาหารใหม่ลงไปอีก 300 กรัม หรืออาจจะย้ายลงกล่องใหม่พร้อมเติมอาหาร 300 กรัม เมื่อครบ 25 วัน หนอนจะมีขนาดความยาวประมาณ 1 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดหนอนที่เหมาะสำหรับนำไปใช้ในการเลี้ยงขยายไส้เดือนฝอย

คุณอัจฉรียา กล่าวถึงวิธีการเพาะเลี้ยงไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศ ดังนี้

การเลี้ยงขยายไส้เดือนฝอยศัตรูแมลง

1. เตรียมกล่องพลาสติกขนาด 4x6x1 นิ้ว ที่ไม่เจาะฝากล่อง รองก้นกล่องด้วยกระดาษที่มีคุณสมบัติดูดซับน้ำได้ดี เช่น กระดาษฟางหรือกระดาษปรู๊ฟ

2. นำฟองน้ำที่บรรจุต้นเชื้อไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงวัย 3 ซึ่งจะได้รับจากกรมวิชาการเกษตร นำมาขยำด้วยน้ำสะอาดปริมาณ 500 มิลลิลิตร โดยแบ่งขยำออกเป็น 2 ครั้ง ครั้งละ 250 มิลลิลิตร (สามารถตวงน้ำจากถุงที่ใส่ฟองน้ำก็ได้ โดย 1 ถุง จุน้ำได้ประมาณ 250 มิลลิลิตร) จากนั้นนำมาเทรวมกันตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอน แล้วรินน้ำใสส่วนบนทิ้งให้เหลือแค่ไส้เดือนฝอยและน้ำส่วนล่าง 100 มิลลิลิตร

3. หยดต้นเชื้อไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงที่เตรียมไว้แล้วด้วยหลอดฉีดยาลงบนกระดาษที่รองไว้ในกล่อง ปริมาณ 0.8 มิลลิลิตร (ซีซี) โดยหยดต้นเชื้อให้กระจายทั่วทั้งกระดาษ จากนั้นใส่หนอนกินรังผึ้งจำนวน 40 ตัว ปิดฝา นำไปเก็บบนชั้นวางเพื่อป้องกันมดที่อุณหภูมิห้อง เป็นเวลา 3 วัน จะสังเกตเห็นหนอนตาย ลักษณะหนอนที่ตายด้วยไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงลำตัวจะไม่เละ สีเปลี่ยนเป็นสีเหลืองครีม ถึงสีน้ำตาลเข้ม มีสีที่สม่ำเสมอตลอดทั้งตัว

4. ลวกกล่องพลาสติกที่ไม่เจาะฝากล่องขนาด 7x11x3 นิ้ว และตะแกรงด้วยน้ำร้อน จากนั้นปิดฝากล่องทันทีเพื่อให้เกิดหยดน้ำขึ้นมาเป็นแหล่งความชื้นของไส้เดือนฝอย วางกล่องทิ้งไว้ให้เย็นและนำหนอนที่ตายด้วยไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงจากข้อ 3 มาวางเรียงบนตะแกรงให้เป็นระเบียบ เพื่อให้ไส้เดือนฝอยออกจากตัวหนอนลงในกล่องได้สะดวก อย่าวางหนอนทับกัน ปิดฝากล่องให้สนิทเพื่อป้องกันแมลงหวี่ นำไปเก็บบนชั้นหรือโต๊ะเพื่อป้องกันมด ที่อุณหภูมิไม่เกิน 30 องศาเซลเซียส หรืออุณหภูมิห้อง เพื่อช่วยให้ไส้เดือนฝอยสามารถขยายพันธุ์เพิ่มปริมาณได้ดี

5. เมื่อครบ 10 วัน จะเริ่มสังเกตเห็นไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงออกจากซากหนอนมาอยู่ในกล่อง (ดูจากความขุ่นของน้ำภายในกล่อง) ทิ้งไว้จนถึงวันที่ 16 จึงทำการเก็บไส้เดือนฝอยศัตรูแมลง โดยยกตะแกรงที่เรียงหนอนออก และใช้ขวดซึ่งบรรจุน้ำสะอาดฉีดไล่ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงบริเวณด้านข้างภายในกล่องลงในภาชนะทรงสูง ตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอน และรินส่วนน้ำใสทิ้ง จากนั้นเติมน้ำสะอาดล้างซ้ำอีก 2 ครั้ง จะได้ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงพร้อมนำไปใช้งาน

6. หากยังไม่ได้นำไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงไปใช้ ให้ลดน้ำโดยการตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอน แล้วเทน้ำทิ้งให้เหลือสูงประมาณ 0.5 เซนติเมตร จากพื้นภาชนะจัดเก็บ พร้อมปิดฝาเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำ และเก็บในตู้เย็น (สามารถเก็บได้นานสูงสุด 7 วัน) ส่วนหนอนกินรังผึ้งที่อยู่บนตะแกรงสามารถเก็บไส้เดือนฝอยซ้ำได้อีก 3 ครั้ง โดยเก็บทุกๆ 2 วัน แต่ปริมาณไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงที่ได้จะมีปริมาณที่ลดลง

คุณปาริชาติได้อธิบายเพิ่มเติมถึงคำแนะนำการใช้ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศที่ได้จากการเพาะเลี้ยงอย่างง่ายไว้ว่า ใช้ไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงที่ได้จากกล่องความชื้น จำนวน 8 กล่อง ในกล่องมีหนอนที่ถูกไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศเข้าทำลาย 100 ตัว ผสมรวมกับน้ำ 20 ลิตร สามารถนำไปใช้ได้กับพื้นที่ 1 งาน (32 กล่องต่อน้ำ 80 ลิตรต่อไร่) ควรพ่นไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงหลังการให้น้ำในแปลงปลูกและควรพ่นไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศในช่วงเย็นในระหว่างการฉีดพ่น ควรเขย่าและคนถังที่ผสมไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศเป็นระยะๆ

เกษตรกรที่สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อขอรับคำแนะนำ คู่มือการผลิตการเลี้ยงขยายไส้เดือนฝอยและขอรับต้นเชื้อไส้เดือนฝอยศัตรูแมลงสายพันธุ์ต่างประเทศได้ที่ กลุ่มงานการปราบศัตรูพืชทางชีวภาพ กลุ่มกีฏและสัตววิทยา สำนักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร โทร. 02-579-7580 ต่อ 138

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...