โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

CHOW ปรับโครงสร้างองค์กร สู่ Holding Company ยกระดับการบริหารงาน-การลงทุน พร้อมขับเคลื่อนธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน

Share2Trade

อัพเดต 21 พ.ค. เวลา 03.43 น. • เผยแพร่ 21 พ.ค. เวลา 03.43 น. • Share2Trade

บริษัท เชาว์ สตีล อินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน)ประกาศการปรับเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นบริษัท เชาว์ ไบรทเวนเจอร์ส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน)หรือCHOW อย่างเป็นทางการ พร้อมเดินหน้าปรับบทบาทองค์กรสู่การเป็นHolding Company อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีเป้าหมายหลักในการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเงินลงทุนในบริษัทย่อย ตลอดจนการลดความซับซ้อนของโครงสร้างองค์กร เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจในยุคใหม่ ที่ต้องการความยืดหยุ่น คล่องตัว และมีประสิทธิภาพในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น

S_8455235.jpg

การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การปรับโครงสร้างองค์กรที่มุ่งเน้นการพัฒนาให้บริษัทมีศักยภาพในการบริหารจัดการการลงทุนในธุรกิจที่หลากหลาย ทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็กและกลุ่มธุรกิจอื่น ๆ ที่บริษัทให้ความสนใจในอนาคต โดยบริษัทฯ จะทำหน้าที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทย่อยและบริษัทในเครือ มีอำนาจในการกำหนดนโยบาย บริหารจัดการและกำกับดูแลในภาพรวม เพื่อให้เกิดความเป็นหนึ่งเดียวในทิศทางขององค์กร และลดความซ้ำซ้อนในการดำเนินงาน

หนึ่งในบริษัทย่อยหลักภายใต้การกำกับดูแลของ CHOW คือ บริษัท เชาว์ สตีล แมนนูแฟคเจอริ่ง จำกัด ซึ่งดำเนินธุรกิจด้านการรับจ้างผลิตและจัดจำหน่ายเหล็กมาอย่างต่อเนื่อง โดยบจก. เชาว์ สตีล แมนนูแฟคเจอริ่งจะยังคงเป็นบริษัทแกนของกลุ่มในธุรกิจด้านการผลิตเหล็ก และ CHOW จะมีอำนาจควบคุมและบริหารงานโดยตรง รวมถึงสิทธิในการแต่งตั้งหรือถอดถอนคณะกรรมการของบจก. เชาว์ สตีล แมนนูแฟคเจอริ่ง เพื่อให้การบริหารงานสอดคล้องกับนโยบายหลักของบริษัทแม่ และมีการกำกับดูแลกิจการที่ดีตามมาตรฐานสากล

นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท เชาว์ ไบรท์ เวนเจอร์ส โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW กล่าวถึงวิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมายของการปรับโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้ว่า “การปรับเปลี่ยนชื่อและโครงสร้างองค์กรในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของยุทธศาสตร์ระยะยาวของบริษัทฯ ในการพัฒนาองค์กรให้มีความคล่องตัวสูงขึ้น ทั้งในด้านการลงทุน การจัดสรรทรัพยากร และการตัดสินใจเชิงนโยบาย เราเชื่อว่ารูปแบบของ Holding Company จะช่วยให้เราบริหารจัดการธุรกิจในเครือได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยไม่เพียงแต่จะลดความซับซ้อนของโครงสร้าง แต่ยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตในทิศทางที่ยั่งยืนและมีความโปร่งใส ภายใต้หลักธรรมาภิบาลและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของตลาดทุน เรายังมองว่าโครงสร้างใหม่จะเอื้อให้บริษัทฯ สามารถตอบสนองต่อโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้เร็วขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพในอนาคต ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งจะเป็นการต่อยอดจากความเชี่ยวชาญที่บริษัทมีอยู่เดิม รวมถึงสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้น นักลงทุน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่ายในระยะยาว”

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ยังสอดคล้องกับแนวทางของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ที่ส่งเสริมให้บริษัทจดทะเบียนมีโครงสร้างการบริหารจัดการที่มีความชัดเจน โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ บริษัทฯ จึงให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Corporate Governance) เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือและความมั่นใจให้กับนักลงทุนในทุกระดับ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...