โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ยานยนต์

มือใหม่ต้องรู้! ความหมายของเกียร์ออโต้แต่ละตำแหน่งมีอะไรบ้าง?

สยามคาร์ - Siamcar

เผยแพร่ 06 มิ.ย. เวลา 08.07 น. • ทีมข่าวสยามคาร์
มือใหม่ต้องรู้! ความหมายของเกียร์ออโต้แต่ละตำแหน่งมีอะไรบ้าง?

มือใหม่ต้องรู้! ความหมายของเกียร์ออโต้แต่ละตำแหน่งมีอะไรบ้าง?

ปัจจุบันคนส่วนใหญ่หันมาใช้รถยนต์เกียร์ออโต้หรือเกียร์อัตโนมัติกันมากขึ้น เพราะการขับรถเกียร์อัตโนมัติอาจดูเหมือนง่าย และไม่ซับซ้อนเหมือนการขับรถเกียร์ธรรมดา แต่สำหรับมือใหม่หัดขับอาจรู้สึกกังวลว่าการขับรถเกียร์อัตโนมัติและการดูแลรถเกียร์อัตโนมัตินั้นเป็นเรื่องยากและยังมีรายละเอียดยิบย่อยที่มือใหม่หัดขับควรรู้ วาโวลีน จึงมีเทคนิคการดูแลรถเกียร์ออโต้และการขับรถเกียร์ออโต้ให้ถูกวิธีเพื่อความปลอดภัยและการใช้งานรถยนต์อย่างมีประสิทธิภาพมาฝากทุกคน

วิธีขับขี่รถเกียร์อัตโนมัติอย่างถูกวิธี
สำหรับการขับรถเกียร์อัตโนมัติหรือการขับรถเกียร์ออโต้หากเป็นการใช้งานตามปกติทั่วไป ก่อนใส่เกียร์รถเพื่อเคลื่อนที่ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ D เดินหน้า หรือเกียร์ R ถอยหลัง ต้องเหยียบเบรกทุกครั้ง ปัจจุบันรถเกียร์ออโต้รุ่นใหม่หลายๆ ยี่ห้อพัฒนาขึ้นเพื่อความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หากผู้ขับไม่เหยียบเบรกก็จะไม่สามารถเลื่อนคันเกียร์ได้

ความหมายของเกียร์ออโต้แต่ละตำแหน่งมีอะไรบ้าง
ตำแหน่ง P - Park

ตำแหน่งเกียร์ P จะถูกด้านบนสุดของแป้นเกียร์ ใช้สำหรับจอดรถเพื่อดับเครื่องยนต์ ซึ่งความพิเศษของตำแหน่งเกียร์ P คือ รถยนต์จะถูกเข้าสลักล็อค ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เลย ดังนั้น หากจำเป็นต้องจอดรถขวางทางคันอื่น ไม่ควรใช้ตำแหน่งเกียร์ P เด็ดขาด เพราะจะทำให้ผู้อื่นไม่สามารถเข็นรถขยับไปมาได้

ตำแหน่ง R - Reverse

ตำแหน่งเกียร์ R ก็คือเกียร์ถอยหลังนั้นเอง ซึ่งการสลับจากตำแหน่ง P มาเป็นตำแหน่ง R จำเป็นต้องเหยียบเบรกแล้วจึงกดปุ่มปลดล็อคบริเวณหัวเกียร์ด้วย แต่หากเป็นรถที่ใช้แป้นเกียร์แบบขั้นบันได ก็จะใช้วิธีเหยียบเบรกแล้วจึงผลักคันเกียร์ไปด้านข้าง จึงจะสามารถเข้าเกียร์ R ได้

ตำแหน่ง N - Neutral

N ก็คือ ตำแหน่งเกียร์ว่าง ตัวรถจะไม่มีการส่งกำลังใดๆ จากเครื่องยนต์ แต่หากหยุดรถในพื้นที่ลาดชัน จะทำให้รถไหลได้ ซึ่งเป็นจุดแตกต่างระหว่างเกียร์ N และ P นั่นเอง

ตำแหน่ง D - Drive

D เป็นตำแหน่งสำหรับเคลื่อนที่ไปด้านหน้า ซึ่งโดยปกติแล้ว เกียร์ D ถือว่าครอบคลุมการขับขี่ในทุกรูปแบบ หากคุณเป็นมือใหม่หัดขับ การใช้ตำแหน่งเกียร์ D อย่างเดียวก็เพียงพอต่อการเดินทางทั่วไปแล้ว

ตำแหน่ง 4, 3 และ 2

สำหรับรถบางรุ่นที่มีตำแหน่งเป็นตัวเลข เช่น 2, 3 และ 4 หรือ มีอักษร D ควบคู่ เช่น D2, D3 และ D4 นั่นหมายถึง อัตราทดสูงสุดที่ยอมให้เกียร์ทด ยกตัวอย่างเช่น ตำแหน่ง 2 หมายถึง รถจะใช้เพียงเกียร์ 1-2 เท่านั้น เช่นเดียวกับตำแหน่งเกียร์ 4 รถจะใช้เพียงเกียร์ 1-4 ไม่ปรับเป็นเกียร์ 5 ให้แต่อย่างใด

ซึ่งประโยชน์ของตำแหน่งเกียร์ลักษณะนี้ คือ ใช้ในกรณีเร่งแซง หรือขึ้นทางชันด้วยความเร็ว จะช่วยให้รถมีแรงมากขึ้น แต่ทั้งนี้ ผู้ขับขี่จำเป็นต้องเลือกตำแหน่งเกียร์ให้เหมาะสมกับความเร็วในขณะนั้นด้วย

ตำแหน่ง 1 หรือ L

ตำแหน่งเกียร์ 1 หรือ L หมายถึง เกียร์ 1 ซึ่งรถจะไม่มีการปรับอัตราทดใดๆ ให้ จะค้างอยู่ที่เกียร์ 1 เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ซึ่งใช้ในกรณีขึ้นทางชันมากๆ หรือเวลาที่ต้องการแรงเบรกจากเครื่องยนต์

ตำแหน่ง M - Manual

ตำแหน่ง M หมายถึงโหมดการขับขี่แบบเกียร์ธรรมดา โดยจะใช้การผลักคันเกียร์ตำแหน่ง + หรือ - ในการเปลี่ยนอัตราทดด้วยตัวเอง เช่น ในกรณีรถอยู่ในเกียร์ 3 ก็จะค้างไว้ที่เกียร์ 3 อยู่อย่างนั้น ไม่เปลี่ยนเป็นเกียร์ 4 ให้ แต่หากลดความเร็วลงมาจนต่ำกว่าระดับความเร็วของเกียร์นั้นๆ เกียร์จะปรับลดให้อัตโนมัติ พูดง่ายๆ คือ ปรับลงให้ แต่ไม่ปรับขึ้นให้

เหล่านี้เป็นพื้นฐานในการขับขี่เกียร์อัตโนมัติ หากรู้จักการทำงานของตำแหน่งเกียร์แต่ละตำแหน่ง ก็จะช่วยให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นครับ

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...