โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

รายงานพิเศษ : SM เล็งนำ AI และ Machine Learning ช่วยพิจารณาสินเชื่อ-วิเคราะห์ลูกค้า มั่นใจครึ่งปีหลังรายได้เติบโตดีขึ้น

Share2Trade

อัพเดต 20 มิ.ย. เวลา 06.13 น. • เผยแพร่ 20 มิ.ย. เวลา 06.03 น. • Share2Trade

เศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวได้อย่างช้าๆ ภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง เป็นปัจจัยที่ท้าทายต่อธุรกิจการปล่อยสินเชื่อรายย่อย แต่สำหรับ บมจ.สตาร์ มันนี่ (SM) ที่ประกอบธุรกิจจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งในรูปแบบขายเงินสดและขายเงินผ่อน และให้บริการปล่อยสินเชื่อประเภทต่างๆ ผู้บริหารมั่นใจรายได้ปีนี้ยังเติบโตได้ดี จากกลยุทธ์ที่นำ AI และ Machine Learning เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูล พิจารณาสินเชื่อ

โดย นายชูศักดิ์ วิวัฒน์วงศ์เกษม กรรมการผู้จัดการ SM ระบุว่า ภาพรวมธุรกิจไตรมาสที่ 1/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 384.87 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อน 369.21 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 19.36 ลดลง 0.61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 19.47 ล้านบาท
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 2/2568 อาจชะลอตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน เนื่องจากปีก่อนเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัด ส่งผลให้ยอดขายเครื่องปรับอากาศพุ่งแรง ขณะที่ปีนี้สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงมีฝนตกบ่อย ทำให้ยอดขายแอร์ชะลอลง อย่างไรก็ตาม เครื่องซักผ้ากลับมียอดขายเพิ่มขึ้น ซึ่งแม้ยังไม่สามารถชดเชยกับรายได้ของปีก่อนได้ แต่รายได้รวมยังเติบโตได้จากกลยุทธ์การขายเช่าซื้อและการปล่อยสินเชื่อที่ยังเดินหน้าได้ดี
ขณะที่ครึ่งหลังปีนี้บริษัทเตรียมเดินหน้าต่อยอดธุรกิจ ด้วยการนำ AI และ Machine Learning เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูล พิจารณาสินเชื่อ และบริหารจัดเก็บหนี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้สอดรับกับพฤติกรรมผู้บริโภค โดยบริษัทฯ ได้เริ่มพัฒนาแพลตฟอร์ม E-commerce และระบบการสมัครสินเชื่อออนไลน์แบบครบวงจร เพื่อขยายฐานลูกค้า B2B อย่างต่อเนื่อง
โดยกลยุทธ์ปีนี้มุ่งเน้นการขยายการขายใน 91 สาขาหลัก และปรับให้สาขาย่อยเข้าใกล้ชุมชนมากขึ้น โดยเฉพาะการส่งเสริมการขายสินเชื่อในพื้นที่ พร้อมขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ เช่น โทรศัพท์มือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการรุกตลาดนาโนไฟแนนซ์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายในแต่ละพื้นที่
อย่างไรก็ตามทาง SM เตรียมรุกตลาดสินค้าผ่านออนไลน์มากยิ่งขึ้น โดยพัฒนาระบบสั่งซื้อและบริการ พร้อมจับมือพันธมิตรห้างและร้านค้าต่าง ๆ เช่น ร้านซักผ้า ร้านขายอาหารสด ที่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าจาก SM เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่ม B2B และความไปถึงการไปออกบูธพร้อมกับพันธมิตรใช้พื้นที่ในการโปรโมทให้บริการลูกค้า เช่น บูธขายหรือซ่อมมือถือ เพื่อรองรับการเติบโตต่อเนื่องในอนาคต
สำหรับกลุ่มธุรกิจ “นอนแบงก์” (Non-Bank) โดยเฉพาะสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ ในปี 2568 บริษัทฯ มีแผนลดพอร์ตสินเชื่อจำนำทะเบียน และลดการกู้ยืมลง พร้อมโฟกัสพอร์ตเช่าซื้อในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ดิจิทัลที่ให้ผลตอบแทนและกำไรสูงกว่า โดยในช่วงไตรมาส 2 ปีที่แล้ว ได้เริ่มนำเทคโนโลยี “ล็อกโฟน” เข้ามาช่วยลดความเสี่ยง NPL ได้อย่างมีนัยสำคัญ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังขับเคลื่อนธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน โดยมุ่งพัฒนา Supply Chain ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ การจัดการคลังสินค้า ไปจนถึงกระบวนการอนุมัติสินเชื่อตามมาตรฐาน SDCS พร้อมส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรสีเขียว ด้วยการนำเทคโนโลยีการเงินเข้ามาใช้อย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมอย่างสมดุล
ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่า รายได้รวมในครึ่งปีหลังจะปรับตัวเพิ่มขึ้นจากครึ่งปีแรก โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากกลยุทธ์ทางธุรกิจและการขยายตลาดผ่านพันธมิตรหลายราย แม้ภาวะเศรษฐกิจยังเผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายภาษีต่างประเทศ โดยเฉพาะจากฝั่งสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อการลงทุนและการผลิต แต่ SM ยังมั่นใจว่าจะสามารถรักษาอัตราการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...