โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

"วีระศักดิ์" แนะใช้วิกฤตให้เป็นโอกาสสร้างฐานศก. ทั้งซ่อม สร้าง แก้ เพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนระยะยาว

MATICHON ONLINE

อัพเดต 08 มี.ค. 2563 เวลา 11.20 น. • เผยแพร่ 08 มี.ค. 2563 เวลา 11.20 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ สมาชิกวุฒิสภา และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องไวรัสโคโรนา หรือ โควิด-19 ว่า “บันทึกไว้ในวันเสาร์ที่ 7 มีค. 2563 (2020) ว่าวันนี้เป็นช่วงที่ครบเดือนของการที่องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ประกาศภาวะฉุกเฉินระหว่างประเทศของการระบาดของไวรัส โควิด19 ข้อสังเกตที่ทุกฝ่ายยอมรับคือ ถ้าใครไม่ปรากฏอาการใน 14 วัน ก็สบายใจได้ว่า คนๆนั้นยังปลอดภัยจากโรคนี้อยู่ แต่มีเงื่อนไขว่าคนเดียวกันนั้นต้องไม่ได้เผลอรับเชื้อนี้มาเพิ่มเติมในระหว่างนั้น นี่คือที่มาที่ต้องมีการให้กักตัวเองบ้าง..บังคับกักตัวรอดูอาการบ้าง ซึ่งจะว่าไปก็ไม่ใช่เรื่องยากเกินไปที่จะร่วมมือ
เพราะมันคือความรู้รับผิดชอบ..ของใครก็ตามที่ยังไม่อาจยืนยันได้ว่าตัวเองเผลอรับเชื้อมาแล้วหรือไม่สถานการณ์ในไทยเวลานี้..มีปรากฏผู้ติดเชื้อก็ยังต่ำกว่า 50 คนมาตลอด
และทุกคนที่พบว่าติดเชื้อก็รู้ว่า ติดมาจากชาวต่างชาติหรือติดจากคนไทยที่ใกล้ชิดสัมผัสกับชาวต่างชาติใกล้ชิดทั้งนั้น นับว่าระบบคัดกรองที่ไทยเริ่มก่อน..และทำนานพอนี้..มีประสิทธิผลดีมาก

เพราะหากหลุดตาจากระบบตรวจคัดกรองไปมากป่านนี้ตัวเลขคงทะลุหลายร้อยหรือไปถึงพันเสียแล้วเพราะพอผ่านไปทุก14วัน..ยังไงๆถ้าเค้ามีอาการเพราะติดเชื้อ เค้าก็ซ่อนมันไว้ไม่ได้อยู่แล้ว..จุดนี้จึงขอชื่นชมระบบที่ไทยมี..ครับ

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า อย่างไรก็ดี..ตัวเลขการระบาดในไทยแตกต่างจากตัวเลขผลกระทบทางเศรษฐกิจการท่องเที่ยวชนิดไม่เห็นฝุ่นเชียวครับ เมื่อวานนี้ผมได้รับเชิญจากผู้สื่อข่าวอาวุโสด้านการท่องเที่ยวภาคภาษาอังกฤษ คุณ อิมเทียส มุคบิล ให้ไปร่วมแสดงความคิด ถอดประสบการณ์ และมองอนาคตท่องเที่ยวไทย ที่สำนักงานใหญ่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท)จึงขอหยิบยกบางส่วนมาเล่าต่อในที่นี้นะครับ

ข้อแรก…
ในเมื่อสังคมโลกและสังคมไทย..ตื่นตระหนกมากกว่าแค่ตื่นตัวข่าวลือ..ข่าวปล่อย..ข่าวไม่จริงจึงไหลเร็วแชร์เร็วและมีผู้พร้อมเชื่อเยอะ..สิ่งที่ควรทำในทุกสังคม จึงควรมีศูนย์ข่าวที่เป็นทางการเพื่อแถลงข่าวสารเรื่อง โควิด19 ทุกวัน โดยผมเสนอว่าแถลงเป็นทางการทุก 11.00น.กับอีกทีตอน 17.00น.เพื่อให้ผู้คนแน่ใจว่าไม่ว่าสงสัยอะไรเกี่ยวกับโควิด19 ก็ให้รอฟังจากการแถลงชี้แจงสองช่วงเวลานี้ของทุกวัน..วันละ 2 เวลาอะไรที่ฟังจากแหล่งนี้..แปลว่าจริงตามนี้เท่านั้นการสื่อสารในสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างนี้ สำคัญที่สุด เพราะจะช่วยลดความอลหม่านลงได้…และจะช่วยให้คนทำงานสนามไม่ต้องให้สัมภาษณ์เปะปะตลอดเวลาเพราะอาจมีสาระที่ขัดหรือแย้งกันเอง เวลาที่ไม่ใช่ 11.00 และ 17.00 ทีมที่จะต้องมาแถลงข่าวสารจะได้มีเวลาตรวจสอบ..สอบทานข้อมูลให้เรียบร้อยได้ก่อน บรรดาสำนักข่าวเองก็จะได้มีเวลาที่แน่นอนในการรับข่าวสารไปถ่ายทอดต่อ

ข้อสอง…
เมื่อมีสาระที่จะแถลงข่าวเป็นภาษาท้องถิ่นวันละสองหนแล้ว..ก็ต้องนึกถึงการแถลงข่าวเป็นภาษาต่างประเทศที่สาระไม่ขัดแย้งกันด้วย แต่อาจให้มีการแถลงวันละครั้งเดียวตอน11.00 หรือตอน 17.00 ก็ได้เพราะสังคมชาวต่างชาติที่อาศัยในพื้นที่และโลกสากลมีมากและหลากหลาย..จึงพึงได้รับข่าวสารที่ถูกต้องเชื่อมั่นได้..อ้างอิงได้

ข้อสาม…
การประเมินผลกระทบ..ทั้งในด้านสุขภาวะของพื้นที่..ความเสียหายและโอกาศทางเศรษฐกิจและธุรกิจ..ความเสี่ยงทางสังคมและโอกาสใหม่ทางสังคมควรได้รับการประมวลมา ทยอยนำเสนอต่อสาธารณะ…สม่ำเสมอ..เพื่อมิให้เกิดการรับรู้เฉพาะผลเสียหายอย่างเดียวเพราะถ้าสังคมรับรู้ว่าในทุกวิกฤตก็ย่อมก่อโอกาสให้เสมอ สังคมจะได้ไม่เสียกำลังใจ
และมีมุมที่จะมองอะไรๆใหม่ๆสม่ำเสมอ

ข้อสี่…
การตำหนิวิจารณ์ใครไม่ว่าฝ่ายไหน..หรือในบทบาทใดในสภาวะพิเศษเหล่านี้..เป็นสิ่งที่ย่อมต้องทำได้เพราะนั่นคือการระบายออกอย่างหนึ่ง..เป็นสิทธิทางสังคมอย่างหนึ่ง..แต่จะเป็นประโยชน์ที่สุดถ้าหากจบท้ายด้วยข้อเสนอแนะที่เห็นว่าควรทำได้.. และผู้ออกมาวิจารณ์นั้นจะเข้าช่วยทำประโยชน์สาธารณะต่อจากนั้นได้อย่างไร

ข้อห้า…
ถ้าเชื่อว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาสแม้โอกาสนั้นๆไม่อาจจะชดเชยความเสียหายจากวิกฤตก็ตามแต่ แต่ถ้าไม่ปล่อยให้ความเสียหายเล่นบทเดี่ยวไปจนจบ..แม้ใช้โอกาสได้เเม้สักนิด..มันก็ยังเป็นประโยชน์ล่ะสิ่งที่พอจะเป็นโอกาสในสภาวะวิกฤตโควิด19 หนนี้ เท่าที่ผมพอจะนึกเอาเร็วๆได้ เช่น..ปีงบประมาณแผ่นดินหนนี้..มีเงินแผ่นดินที่ปกติให้ราชการใช้ 12เดือน
แต่บัดนี้ พรบ.งบประมาณเพิ่งได้ผ่านออกมาใช้โดยเหลือเวลาแค่มีนา-สิ้นกันยา คือ 7เดือน ถ้าเราสามารถมีฉันทามติให้เปลี่ยนแปลงรายการใช้จ่ายให้มาเป็นเรื่องที่ควรจะเป็นทั้งเพื่อป้องกัน.. พยุง.. ชะลอ..เเก้ไข..หรือเยียวยา จากการมาอย่างรวดเร็วของโควิด19 ได้มากเท่าไหร่..ก็จะใช้ประโยชน์ที่เกิดได้จากวิกฤตมากเท่านั้น

นโยบายการเงินหรือ monetary policy มีผลเร็วแต่มักใช้นานไม่ได้ และกำหนดผู้รับประโยชน์ให้แคบตรงกลุ่มได้ไม่ง่ายนโยบายการคลัง หรือ fiscal policy มีผลช้ากว่าแต่ ออกแบบให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นกว่าหน่อยดังนั้นมาตรการทั้งคู่..คงต้องออกมาคู่กันและมีคำอธิบายว่ายาทั้งสองจะออกฤทธิ์ผสมผสานต่ออาการที่ต้องการดูแลแก้ไข อย่างไร
ใครและหรืออะไรคือกลุ่มเป้าหมาย..ใครคือผู้ที่จะเป็นกลไกให้..กลไกที่ว่ามีกระจายกันอยู่เพียงพอแค่ไหน..

ที่สำคัญได้เปิดช่องทางและกลไกให้ฝ่ายอื่นที่ไม่ใช่รัฐบาลกลาง สามารถเข้าช่วยประกอบด้วยหรือยัง เงินและเครือข่ายของคนมีฐานะ..พลังของคนชั้นกลาง หรือชั้นฐานรากต่างๆ ที่อาจจะอยากทำประโยชน์ร่วม..ทุนและพลังขององค์กรส่วนท้องถิ่น.. สหกรณ์.. สมาคม.. นิคม..กลุ่มประชาสังคม.. สามารถเข้าร่วมได้อย่างไร จะได้ไม่ต่างคนต่างทำไป

ผู้จะรับประโยชน์ที่เป็นเป้าหมายจะได้ไม่หัวหมุน..งุนงง..ไปกับสารพัดกติกาเงื่อนเวลา เงื่อนไข ที่ผู้จะมาช่วยต่างคนต่างกำหนดผลย่อมไม่มีพลังเชิงถักทอ..ไปอย่างน่าเสียดาย
ในด้านนโยบายการเงิน..อย่ามองเห็นแต่เฉพาะเจ้าของกิจการ SME เท่านั้น..แต่พึงมองเห็นลูกจ้าง..และแรงงานผู้รับจ้างด้วยยิ่งถ้าต้องตกงานหรือถูกบังคับให้ leave with out pay ยิ่งต้องใส่ใจกับเรื่องเงินสดจะขาดมือ จนเขาต้องกู้นอกระบบอาจเป็นวงจรปัญหาใหม่การแจกเงินนั้น..คงถูกวิจารณ์ไปตามสภาพแล้ว

แต่ถ้ามีโครงการแนว “เงินผัน” ไปให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั้งหลาย รับงบไปแล้ว แก้ระเบียบระบบให้ท้องถิ่น สามารถเอาเงินท้องถิ่นมาสมทบทำเพิ่มที่จะช่วยให้ เกิดสภาพเมืองน่าอยู่ เช่น จ้างแรงงานในท้องถิ่นมาช่วยกันปรับปรุงทางเท้า ทางลาด ปรับปรุงศาลาริมทาง ราวกันตก ทาสีฟุตบาท. ทาสีทางม้าลาย จ้างรื้อพงที่รกร้าง..เก็บกวาดเศษวัสดุที่มักถูกกองทิ้งตามที่ต่างๆออก..จ้างขุดลอกตะกอนในทางน้ำแหล่งน้ำเตรียมรับหน้าฝน..เพิ่มแหล่งน้ำให้มีประสิทธิภาพ…จ้างทาสีสนามกีฬา ..รั้วส่วนราชการ..จ้างเปลี่ยนหลอดไฟริมทาง..ติดตั้งดวงโคมในซอยที่เปลี่ยวมืด..ทาวีป้าย..แก้ไขคำในป้ายบอกทางที่เคยถูกเอามาวิจารณ์..

จ้างเก็บผักตบ..จ้างรถมาช่วยขนช่วยเก็บใบอ้อยและตอซัง เพื่อนำส่งไปขายให้โรงปูนโรงน้ำตาลที่รับซื้อตันละพันบาท(จะได้ลดการเผาในทุ่ง)..จ้างตัดแต่งกิ่งริมทาง..จ้างทีมนักศึกษาคณะสัตวแพทย์ไปบริการทำหมันหมาแมวทั้งที่มีเจ้าของหรือจรจัด….จ้างสำรวจขจัดสิ่งกีดขวางการใช้สาธารณูปโภคและบริการสาธารณะของคนสูงอายุ..ผู้พิการ ล้วนเป็นงานมากมายจิปาถะ..ที่ไม่ได้ต้องการทักษะพิเศษเศษอะไรมากนัก..แต่ต้องการคนที่จะว่างงาน.. ต้องการรายได้ในแต่ละท้องถิ่นให้มีกิจกรรมในที่โล่ง..เงินได้ผันไปสู่คนท้องถิ่น ..พยุงกำลังจับจ่ายใช้สอย..และได้ประโยชน์ต่อเมืองที่อยู่และต่อกระเป๋าของผู้เกี่ยวข้องได้กว้างขวาง ในด้านคนจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่จู่ๆมีเวลาว่างเหลือเฟือ..เพราะลูกค้าหายไป..รัฐก็อาจจ้างให้บริษัทนำเที่ยวไปทำรายงานสำรวจ พร้อมผลิตโปรแกรมนำเที่ยวมาเสนอแล้วให้ใครๆก็เอาไปใช้ได้ว่า..ถ้าอีกหน่อยใครจะพาลูกทัวร์ไปเที่ยวเพื่อเป้าหมายการลดความยากจน..ลดความเหลื่อมล้ำด้วยการใช้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวเป็นเครื่องมือนั้น..ทุกจังหวัดทั้งหลักและรองมีเส้นทางไหน ทำอย่างไรได้อีก

ถ้าแต่ละจังหวัดมีเส้นทางเที่ยวแนวนี้ได้ใหม่ๆ สักจังหวัดละสิบยี่สิบเส้นทางนี่ก็เป็นโอกาสที่จะได้จากวิกฤตหนนี้ ใช้เวลาว่างให้ได้ค่าจ้างและกระจายประโยชน์ให้ชุมชนชาวบ้าน
สำหรับมัคคุเทศก์นั้น..นอกจากรัฐควรจัดอบรมเพิ่มทักษะให้..แต่ยังควรจ้างมัคคุเทศก์มาช่วยสร้างนักสื่อความหมายท้องถิ่น..จ้างมัคคุเทศก์ที่เก่งภาษาต่างประเทศไปถ่ายทอดให้ไกด์ท้องถิ่น..ยุวมัคคุเทศก์รุ่นเยาว์..จ้างคนนำดำน้ำให้มาเปิดสอนถ่ายทอดวิชาให้เด็กๆลูกชาวประมง..หรือจะสอนชาวประมงเสียก็เอา

จ้างบริษัทที่เคยนำลูกค้านักไต่หน้าผา ล่องแก่ง เดินป่า มาเดินทางสำรวจกับชุมชนใกล้ป่าเขาให้สามารถเกิดแหล่งท่องเที่ยวผจญภัยใหม่ๆ ที่ได้มาตรฐานสากล..และทำให้ฐานการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เกิดได้กว้างขวางกว่าที่เคยมี

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน

จ้างพนักงานนวดสปาที่ว่างแล้ว ให้ไปบริการผู้สูงอายุ..ผู้ป่วยติดเตียงตามสถานพักฟื้น..สถานพยาบาล..สถานสงเคราะห์..หรือศูนย์ต่างๆที่มีทั่วไทย

หรือจะจ้างไปนวดบุคลากรทางสาธารณสุขที่แบกภารกิจเดิมพันที่สกัดกั้นคัดกรองการระบาดมาก่อนใครก็จะเป็นกำลังใจที่เข้าที

จ้างบริษัทรถบัสที่ว่างพอควรแล้ว ให้มาจัดแพคเกจสั้นๆ ที่พากลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคมได้เที่ยวในพื้นที่ใกล้ๆ..โดยไม่จำเป็นต้องค้างคืนก็ได้

วิกฤตที่สร้างโอกาสให้ผู้ที่ขาดโอกาสมานาน..ก็มีเสน่ห์อย่างหนึ่ง

ชาติใดจะยิ่งใหญ่มิได้ดูกันที่ว่าชาตินั้นดูคนที่สำเร็จรุ่งเรืองได้ดีแค่ไหน

แต่อยู่ชาตินั้นดูแลคนที่ไม่ชนะในชีวิตได้ดีเพียงใดต่างหาก

…ในขณะที่เขียนข้อความนี้ อัตราการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิด19 รายวันในจีน กำลังจะถูกอัตรานอกแผ่นดินจีนแซงแล้ว

ลูกเรือสายการบินก็เริ่มมีติดเชื้อแล้ว…

เราก็คงต้องเตรียมใจเตรียมเมืองกันนะครับ..ว่าถ้าวันหนึ่งต้องมีมาตรการที่รัฐหรือคณะกรรมการควบคุมโรคจะยกระดับเพิ่มอีก..จะปิดเขตปิดเมือง..จะพักใช้วีซ่าท่องเที่ยวกันชั่วครั้งชั่วคราว…

หรือจะหยุดการบินระหว่างประเทศระหว่างบางจุดชั่วคราว..ก็ยิ่งแปลว่าเราต้องพึ่งพากันเอง..พึ่งพาตนเองมากขึ้น

การคิดวิธีรับมอบงานไปทำที่บ้าน..ทำงานออนไลน์..ที่ควรจะมีแอพลิเคชั่นให้กิจการหรือหน่วยการศึกษาสามารถเอาไปใช้ได้สะดวก..ก็ควรเตรียมไว้

ถ้าเกิดการระบาดเข้าระยะสาม หรือพบผู้ติดเชื้อมากมายเกินกำลังสถานพยาบาลที่มี

ก็อาจต้องเริ่มมีการระดมประชุมสำรวจเล็งใช้สถานที่พักแรมพักอาศัยที่คงว่างโล่ง เพราะไม่มีนักเดินทางท่องเที่ยว ให้มีอัตราเช่าเหมาที่เหมาะสมสำหรับรองรับการกักตัว ผู้รอระยะเวลาแสดงอาการ 14วัน ที่อาจมีจำนวนมากจำนวนมากในแต่ละจังหวัด

รวมทั้งเตรียมคู่มือปฏิบัติหรือคู่มืออบรมถ่ายทอดสำหรับบุคลากร ที่จะต้องถูกระดมจ้างเข้ามาช่วยในภารกิจคราวนี้

ในเวลาวิกฤตอย่างนี้
ควรยึดหลักที่ว่า..วันที่ห้องรับแขกว่าง..ก็คือวันที่เหมาะแก่การเปลี่ยนม่านแปลี่ยนพรมห้องรับแขกที่สุด…

ลองเอารายการที่เราเคยบ่นกันมาในช่วงสิบปีที่มีนักท่องเที่ยวมาแน่นห้องรับแขกประเทศไทย..

ไม่ว่าจะปัญหาจากคอขวดด้านสาธารณูปโภค ทั้งทางบกทางน้ำ..จะที่สนามบินหรือท่าเทียบเรือ..จะเรื่องการซ่อมผิวรันเวย์จะเรื่องการจัดสอบทักษะยกระดับคนขับเรือ..นายท้าย..ช่างเครื่องเรือ..เด็กเรือ ..บีชการด์ป้องกันคนจมน้ำมีไม่พอหรือขาดทักษะก็จะได้จ้างฝึกจ้างซ่อมแซมแก้ไขกัน

หรือเอาเวลานี้มาคิดแก้คอขวดด้านระเบียบกฏกติกา…

กติกาบางอย่างไม่เคยมี ก็มาออกแบบซะ

กติกาบางอย่างใช้ไม่ได้แล้วก็ซ่อมซะ

กติกาบางเรื่องไม่เหลือสภาพบังคับ..ก็เลิกซะ

..ที่ผ่านมานับสิบกว่าปีไม่มีใครมีเวลาและสมาธิแก้ไขมันได้..เพราะมัวต้องรับแขก..ทั้งฝ่ายรัฐและเอกชน..เจอเสี่ยงบ่นร้องเรียนแต่ละวันก็หมดแรงแล้ว

ช่วงนี้จะขจัดมาเฟีย..จัดทะเบียนรวบรวมไฟล์ หมายหัวไกด์เถื่อนชาวต่างประเทศ..หมายตัวนอมินีทุนนอกในกิจการท่องเที่ยวที่เอารัดเอาเปรียบ.. นักหลอกลวงต้มตุ๋น..

ปักหมุดแล้วเดินไปเคาะประตูเตือนพวกเอาห้องในอพารท์เม้น คอนโด มาปล่อยแข่งกับโรงแรมที่จดทะเบียนซึ่งนับเป็นการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม..และไม่ปลอดภัยแก่เพื่อนร่วมอาคารเสียเลย

จะผ่าตัดปฏิรูปราชการกระทรวงการท่องเที่ยวให้สามารถรับใช้การเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและด้านกีฬากันยังไงก็ทำกันต่อ

เงินทองที่กรมการท่องเที่ยวเก็บมาถือไว้จากบริษัทนำเที่ยวตอนจดทะเบียนจัดตั้งไว้นับพันล้านบาท…แต่มีเหตุเบี้ยวลูกค้า และต้องนำเงินกองนั้นออกมาจ่ายแค่ปีละไม่ถึงสองล้านบาทนั้น..ก็ควรคืนหลักประกันนั้นให้บริษัทนำเที่ยวไปแล้วเหลือไว้แค่พอที่จะใช้ในแต่ละปีก็พอ

สถิติย้อนหลัง 10 ปี มันบอกอยู่ว่าจริงหรือไม่..และสมัยที่ผมเคยเป็นรัฐมนตรีท่องเที่ยวก็เคยมอบนโยบายไว้แล้วว่าควรพิจารณาคืนไปสร้างสภาพคล่องเสีย

เวลานี้วิกฤตมาถึงแล้ว

ใช้โอกาสนี้คืนให้ไปเถอะครับ..
เพราะกฏหมายไม่ให้ดอกเบี้ยของกองทุนนี้เป็นของรัฐด้วยซ้ำเพราะเป็นการให้รัฐเอามาถือเผื่อต้องใช้

และพิสูจน์มานับสิบปีแล้วว่าไม่ต้องใช้เป็นจำนวนเงินสูงถึงขนาดที่เก็บมา

จะแก้ไขกฏกระทรวงของกรมการท่องเที่ยวกับสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวให้มีภารกิจที่ถูกฝาลงตัว..เข้ากับอัตรากำลังก็ทำซะ

จะทำการยกระดับอัพเกรดเจ้าหน้าที่ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวให้มีช่องมีทางเติบโตมีความมั่นคงในงานที่สะสมทักษะมานานพอควรแล้ว ให้เป็นพนักงานราชการก็ทำให้สำเร็จเสียทีได้แล้ว

โอกาสที่น่าใช้อีกเรื่องคือ การติดตามให้มติครม. เมื่อพย.2551 เกิดผล

ครม.เคยมีมติเห็นชอบให้มี double entry Visa เพื่อจะได้นักเดินทางกลุ่ม MICE ที่จะเข้ามาจัดประชุมสัมมนาและแสดงสินค้านานาชาติในไทยได้บ่อยๆเมื่อหมดโควิด19

เห็นชอบให้นักท่องเที่ยวที่ได้ single entry Visa เพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมีเหตุจะไปเมืองรองตามชายแดนแล้วออกไปเที่ยวพักสักคืนสองคืนในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วย้อนกลับมาเดินทางต่อในไทยได้

เห็นชอบให้ผู้ถือหนังสือเดินทางจาก 38 ดินแดนที่บินเข้าไทยได้ปีละไม่จำกัดครั้ง สามารถมาไทย โดยผ่านด่านพรมแดนทางบกได้มากกว่า 2 หนต่อปี

แบบนี้เราจะได้กระจายโอกาสให้เมืองรองชายแดนและจังหวัดใกล้เคียงได้รับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนมากที่มามีถิ่นพำนักถาวรอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน

คนอาเซียน..คนอเมริกัน.. ยุโรป.. ญี่ปุ่น.. ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ที่ทำงานหรืออาศัยอยู่ในลาว กัมพูชาเมียนมาร์ มาเลเซีย หรือสิงคโปร์ที่อยากนั่งรถเข้ามาทางบกเพื่อร่วมกิจกรรมเทศกาลงานประเพณี

มาร่วมวิ่งว่ายปีนป่ายพายถีบ..มาเที่ยว..มาทำฟัน..มาช้อบปิ้ง..มาตรวจสุขภาพ..มาใช้จ่าย..มาเที่ยวในชุมชน..ก็สามารถมาได้ตลอดปี

เรายังควรทำให้มีวีซ่าสำหรับกองถ่ายทำภาพยนต์ ที่นอกจากจะเป็นวีซ่าแล้วยังใช้เป็นใบอนุญาตทำงานชั่วคราวของคนต่างด้าวไปได้ด้วย

แบบนี้เสน่ห์ไทยก็จะถูกทั้งถ่ายทำและถ่ายทอดออกไปสม่ำเสมอ..(ปีที่แล้วบินเข้ามากว่า 700กองถ่ายต่างประเทศ!)

โควิดมาแล้วโควิดก็จะผ่านไป

จะไปในสองเดือนหรือห้าเดือน นับจากนี้ก็เอาเถอะ..แต่รันเวย์ใหม่ที่กำลังต้องสร้าง..อาคารผู้โดยสารใหม่ที่กำลังจะเชื่อม…สนามบินต่างจังหวัดที่กำลังจะเสร็จเช่นที่เบตง..อาคารผู้โดยสารใหม่ที่สนามบินแม่สอด…และอีกหลายๆสนามบิน

รถไฟทางคู่จะมาถึงสารพัดอำเภอในสามสี่ปีแน่นอนทุกทิศทั่วไทย

รถไฟความเร็วสูงจะวิ่งในสามทิศทางทั้งดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา

สายกรุงเทพฯ-หัวหิน…สายกรุงเทพฯ-เชียงใหม่

รถไฟจีนจะมาถึงเวียงจันทน์ในสองปีหน้า.และจะข้ามมาถึงหนองคายในเกือบจะต่อเนื่อง..และที่สุดจะผ่านขอนแก่น-โคราช-แหลมฉบัง

เราเอาเวลาที่จะว่างลงของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ขาดลูกค้าต่างประเทศ มาวางแผนเรื่องเหล่านี้ร่วมกับฝ่ายขนส่งเดินทางดีมั้ยครับ

ท่องเที่ยวไทยยังไงก็ยังเป็นที่นิยมของโลก..

นานๆจึงจะมีโอกาสที่ไม่ค่อยมีแขกมาแน่นอย่างนี้

ใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาสสร้างฐานเศรษฐกิจการท่องเที่ยวที่เน้นความยั่งยืนระยะยาวกันดีกว่าครับ

วีระศักดิ์ โควสุรัตน์

สมาชิกวุฒิสภา

อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

อดีตประธานบอรด์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

อดีตประธานสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ(องค์การมหาชน)

อดีตประธานองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน(องค์การมหาชน)

อดีตเลขาธิการสมาพันธ์สมาคมภาพยนต์แห่งชาติ

อดีตอธิการวิทยาลัยการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยรังสิต

อดีตผู้อำนวยการสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา(องค์การมหาชน)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...