สติ คือ ความระลึกได้หรือพูดง่าย ๆ ก็คือความรู้สึกตัว นึกขึ้นมาได้นั่นเอง
เดี๋ยวนี้คนเราขาดสติกันค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรมักไม่มีสติเป็นพื้นฐาน แต่ทุกอย่างเกิดขึ้นจากอารมณ์ ความคิดไปเอง และการปรุงแต่งของตัวเองเพียงเท่านั้น
ทำไมต้องมีสติ
เพราะสติมีไว้เพื่อสังเกตกายและใจ เพื่อไม่ให้เกิดความโลภ โกรธ หลง หรือหากเกิดขึ้นแล้ว เราก็มีสติเป็นเครื่องเตือน ไม่ให้เกิดความโลภ โกรธ หลงหรือเป็นทุกข์ไปกับสรรพสิ่งที่เกิดขึ้น
แล้วคนเราจะมีสติเพื่ออะไร ก็เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ เพราะถ้าไม่มีอะไรเลย ไม่มีแม้แต่สติ คนเราก็จะหวั่นไหวไปกับอารมณ์ได้ง่าย ๆ อาจเกิดความไม่พอใจ โกรธ หรืออารมณ์ต่าง ๆ โดยไม่รู้ตัว หรือบางทีก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมต้องรู้ตัว
แต่ถ้าเอาตัวตนออก เอาอารมณ์ออกก็จะเห็นว่าเราไม่มีสติมากแค่ไหน การไม่มีเครื่องเตือนจะทำให้อารมณ์รุนแรงขึ้น ทำให้เกิดความทุกข์มากขึ้น เพราะไม่มีอะไรคอยหยุด คอยเตือนให้รู้สึกตัว สุดท้ายก็ไม่สามารถจัดการอะไรได้เลย
การใช้ชีวิตโดยไม่มีสติ มีโอกาสเกิดปัญหาสูงมาก เพราะเราจะไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่ ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดี หรืออาจใช้ชีวิตอยู่บนความประมาทก็ได้ ดังนั้นเราต้องสร้างเครื่องเตือน เพื่อให้หยุด เพื่อไม่ให้ทำอะไรเกินเลยให้ได้เสียก่อน
สร้างสติให้เกิด
สติเป็นเรื่องต้องฝึก ฝึกเพื่อให้เกิดความตั้งมั่น เมื่อตั้งมั่นแล้วก็จะเห็นว่าสรรพสิ่งล้วนเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ซึ่งหากเราฝึกฝน เราก็จะเข้าใจเรื่องเหล่านี้ได้เอง เพราะที่ผ่านมาทุกคนล้วนเข้าใจผิด เข้าใจว่าความสุขคือสิ่งที่เราชอบใจ ก็เลยเกิดความคิดว่าสิ่งของหรือทรัพย์สินทำให้มีความสุขได้
จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย ที่คิดมาตลอดว่าทรัพย์สินทำให้เกิดความสุขนั้นไม่จริง เป็นเราต่างหากที่ไม่เคยสังเกตความจริง ไม่สังเกตว่าสรรพสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากการที่เราไปปรุงแต่งขึ้นมา จนกลายเป็นความสุข เป็นความทุกข์ และเพราะไม่รู้จึงปรุงแต่งเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา ดังนั้นเราจึงต้องฝึกสติเพื่อถอดถอนความเห็นผิดเหล่านี้ เพราะสติทำให้เห็นความจริงนั่นเอง
แต่การมีสติหรือเห็นความจริงยังไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ เพราะสติเป็นแค่เครื่องเตือนให้รู้ ให้เข้าใจเท่านั้น แต่ความเข้าใจก็ส่วนหนึ่ง เข้าใจไม่ได้หมายความว่าจะทำได้ แต่ก็เป็นเรื่องดีที่อย่างน้อยก็มีสติหรือเครื่องเตือนเอาไว้ก่อน
ส่วนการจะหยุดได้หรือไม่ แก้ปัญหาได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการฝึกจิต ฝึกปฏิบัติเพื่อให้ทำได้ ละได้ ถ้าเราเห็นความจริง ความทุกข์ทั้งหลายจะถูกขมวดลงตรงที่ความเข้าใจ จากนั้นความทุกข์ทั้งหลายจะค่อย ๆ ลดลงจากความเข้าใจ ลองฝึกเข้าใจตนเอง เข้าใจทุกข์และสุขบนพื้นฐานของการมีสติ เมื่อมีสติ มีพลังมากพอ ความทุกข์ก็เกิดขึ้นไม่ได้..
ความเห็น 16
@...
สตินั้นก็เปรี่ยบดั่งเป็นสิ่งหนึ่งที่ต้องคอยควบคุมความคิดของคนเรา เพราะถ้าหากว่าคนเรานั้นได้ขาดสติไปเมื่อใดก็สามารถจะส่งผลทำให้ทำในสิ่งที่ผิดพลาดขึ้นมาได้อย่างแน่นอน.
14 ม.ค. 2562 เวลา 13.38 น.
AUT Specialist
สติ แยกเป็นสัมมาสติ มิจฉาสติ สัมมาสติ เป็นสติในมรรค ไม่มีบัญญัติเป็นอารมณ์
14 ม.ค. 2562 เวลา 22.14 น.
อานนต์
สติคือ มาจากคำว่า "ศร" เปรียบเทียบได้ดั่งการแล่นไปของลูกศร ซึ่งจะมีความรวดเร็ว และพุ่งไปยังเป้าหมาย จึงใช้คำว่า "ระลึกได้" และเมื่อสติเกิดแล้ว สิ่งที่เกิดตามมาคือ "สัมปปัชชัญญะ" ความรู้ตัว รู้สึกตัว หรือ "อาการตื่นรู้" นั่นเอง
14 ม.ค. 2562 เวลา 19.14 น.
.~★☆ PikaPiPi ☆★~.
"สติ" เปรียบดั่ง "เพื่อน"
เมื่อใดที่เราทำผิด เพื่อนคนนี้จะคอยตักเตือน
23 ม.ค. 2562 เวลา 16.15 น.
Anl
บทความนี้พูดถึงสติไม่ตรงกับหลักพุทธศาสนาโปรดระวัง
14 ม.ค. 2562 เวลา 13.58 น.
ดูทั้งหมด