ทีมงานของ "กัน จอมพลัง" พาครอบครัวของ ลุงกับป้า ผู้เสียหายที่ถูก นายพีช ขับรถ BMW ป้ายแดง เบียดรถกระบะจนเสียหลักพุ่งชนแบริเอร กลางถนนมอเตอร์เวย์ เป็นเหตุทำให้ลุงที่ขับรถกระบะได้รับบาดเจ็บสาหัส
โดยลูกสาวของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า กรณีที่มีคลิปวิดีโอจับภาพที่พ่อของตนขับรถปาดหน้าคู่กรณีก่อน จนทำให้ คู่กรณีหักหลบไปชนแบริเออร์จนรถได้รับความเสียหาย ตนได้พูดคุยสอบถามพ่อกับแม่แล้ว ก็ได้รับคำตอบว่า พ่อของตนไม่เห็นจริง ๆ ว่าได้ขับรถปาดหน้าคู่กรณี และตอนนั้นก็ไม่ได้ใช้ความเร็วมาก เป็นการขับปกติ หลังจากนั้นคู่กรณีก็ขับมาจี้ท้ายรถ พยายามบีบแตรเรียกให้จอด ด้วยความที่พ่อแม่ของตนมีอายุมากแล้ว จึงไม่กล้าลงไป เพราะกลัวจะถูกทำร้ายร่างกาย จึงแค่ลดกระจก พร้อมกับยกมือไหว้กล่าวขอโทษ และขับรถออกไป
หลังจากนั้นคู่กรณี ลงมาชี้หน้าด่าทอพ่อแม่ของตน โดยไม่สนว่าพ่อของตนจะได้รับบาดเจ็บอยู่ ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้น ตนรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก เพราะคู่กรณีเป็นลูกของนักการเมืองชื่อดัง กลัวว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงขอความอนุเคราะห์ให้ผู้ใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติช่วยทำคดีนี้ด้วยความเป็นธรรม
ด้านลูกชายของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ที่พ่อของคู่กรณีมาเยี่ยม ก็ได้มีการพูดคุยกันเล็กน้อย โดยพ่อของคู่กรณีบอกว่า ถ้าลูกชายของตนผิด ก็ว่ากันไปตามผิด และยินดีที่จะเยียวยาชดใช้ครอบครัวของตน ซึ่งก็เป็นเพียงแค่คำพูดเท่านั้น ยังไม่ได้มีการเซ็นสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร
ส่วนความคืบหน้าของคดี พ.ต.อ.ถิรเดช จันทร์ลาด ผู้กำกับการ สภ.ลำลูกกา ระบุว่า เหตุที่เกิดขึ้นแบ่งคดีออกเป็นสองส่วน โดยส่วนแรกคือความผิดของลุงคนขับรถกระบะ ซึ่งจากหลักฐานของกล้องวงจรปิด พบความผิดตาม พ.ร.บ.จราจร ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองบังคับการตำรวจทางหลวง
ส่วนที่สองเป็นคดีอาญา ที่ สภ.ลำลูกกา เป็นผู้รับผิดชอบ โดยคดีนี้จากการพิจารณาแล้วไม่ใช่การขับรถโดยประมาท แต่อาจเข้าข่าย "เจตนามุ่งต่อชีวิตและทรัพย์สิน" ที่ตอนนี้กำลังเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบพยานเกี่ยวข้อง โดยเมื่อวานนี้ได้มีการสอบปากคำป้าแต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากลุงยังพักรักษาตัวอยู่ห้องไอซียู จึงยังไม่สามารถให้การได้
ขณะที่ ฝั่งของนายพีช นั้นจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการติดต่อเข้ามาแต่อย่างใด และภายหลังจากสอบพยานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เตรียมออกหมายเรียก นายพีช ให้เร็วที่สุด พ.ต.อ.ถิรเดช ยืนยันว่าไม่กังวลที่ทางผู้ก่อเหตุและครอบครัวเป็นถึวนักการเมืองท้องถิ่น โดยตำรวจจะทำคดียืนยันอย่างตรงไปตรงมาและทำตามข้อกฎหมาย
ทางด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยอมรับว่า ส่วนตัวรู้จักกับ นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ 'นายกเบี้ยว' อดีตนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี บิดาของ นายสมิทธิพัฒน์ ผู้ขับรถ BMW คันดังกล่าว ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้น เป็นกรณีของบุคคลคนหนึ่งที่ขาดจิตสำนึกและวุฒิภาวะ ขาดความเอื้ออาทร และขาดความรับผิดชอบต่อผู้อื่น รวมถึงเมื่อเกิดเหตุขึ้น ก็ไปอ้างไปโอ้อวดกับเจ้าหน้าที่ นั่นคือนิสัยที่พยายามสร้างให้ตัวเองดูดี โอ้อวดกับเจ้าหน้าที่ของรัฐว่ารู้จักผู้มีตำแหน่ง พร้อมกล่าวว่ายิ่งโอ้อวดยิ่งจะโดนโทษหนักมากขึ้น ซึ่งขณะนี้ได้กำชับให้ตำรวจทางหลวง ดำเนินคดีในเรื่องอุบัติเหตุ แต่ในเรื่องของคดีอาญา อยู่ระหว่างการที่ผู้เสียหาย จะต้องไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อ สภ.ลำลูกกา โดยสั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการโดยเร็วและไม่ให้ความช่วยเหลือกับบุคคลใดทั้งสิ้น พร้อมย้ำว่าผู้กระทำความผิดจะต้องได้รับบทเรียนและโทษทัณฑ์ตามที่กฎหมายกำหนด
ติดตามเนื้อหาดีๆแบบนี้ได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/innnews.co.th
Twitter : https://twitter.com/innnews
Youtube : https://www.youtube.com/c/INNNEWS_INN
TikTok : https://www.tiktok.com/@inn_news
LINE Official Account : @innnews