จากกรณี นายสมชาย (นามสมมติ) อายุ 51 ปี ชาวตำบลถนนหัก อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม หลังจากลูกสา วซึ่งเป็นนักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนแห่งหนึ่งในอำเภอนางรอง ถูกนักเรียนชายรุ่นพี่ชั้น ม.6 โรงเรียนเดียวกัน มอมกัญชาด้วยการสูบ แล้วพ่นควันใส่หน้าหลายครั้งจนเบลอ ก่อนบังคับขืนใจลูกสาว ท่ามกลางเพื่อนของฝ่ายชายที่นั่งมั่วสุมสูบบุหรี่และกัญชาในกระท่อมเกือบ 10 คน เหตุเกิดช่วงเย็นของวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา สร้างความอับอายให้ลูกสาวถึงขนาดไม่กล้าไปโรงเรียน
ล่าสุด วันที่ 5 มกราคม 2566 พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผู้กำกับการ สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อมพนักงานสอบสวน สภ.นางรอง และนักสังคมสงเคราะห์ ร่วมสอบปากคำนักเรียนหญิงผู้เสียหาย เนื่องจากยังเป็นเยาวชน
ทางผู้เสียหาย ให้การว่า ในวันเวลาเกิดเหตุไม่มีการสูบกัญชาหรือสารเสพติด และไม่มีการพ่นควันใส่หน้า ทั้งไม่มีการบังคับขืนใจผู้เสียหายแต่อย่างใด เกิดจากความยินยอมของผู้เสียหาย ส่วนที่ให้การตามที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านี้ เพราะกลัวพ่อกับแม่โกรธและเสียใจ
จากการสอบปากคำพยานจำนวน 4 ปาก ที่อยู่ในกระท่อมวันเกิดเหตุ พยานทั้ง 4 ปาก ให้การตรงกันว่า ไม่มีการสูบกัญชาหรือเสพสารเสพติด รวมทั้งไม่มีการพ่นควันใส่ผู้เสียหาย ซึ่งหลังจากสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว ก็จะได้เรียกผู้ถูกกล่าวหามาสอบปากคำตามขั้นตอน ส่วนจะเข้าข่ายความผิดอะไรนั้นก็ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ด้านนายเก่ง (นามสมมติ) นักเรียนชั้น ม.6 พยานที่อยู่ในกระท่อมวันเกิดเหตุด้วยเล่าว่า วันที่เกิดเหตุตนกับเพื่อนผู้ชายรวม 5 คน และผู้เสียหายซึ่งเป็นนักเรียนหญิงรวมเป็น 6 คน ได้ไปกระท่อมดังกล่าวจริง ซึ่งปกติตนกับเพื่อนผู้ชายก็จะไปตกปลาและย่างปลากินกันประจำอยู่แล้ว แต่วันนั้นน้องนักเรียนหญิงได้มากับนายเอ็ม ผู้ถูกกล่าวหาด้วย ยอมรับว่า ตนเองกับเพื่อนมีการสูบบุหรี่จริง แต่ยืนยันว่าไม่มีใครสูบกัญชา โดยเฉพาะนายเอ็มไม่ได้สูบกัญชาแน่นอน
ส่วนที่นายเอ็มจะบังคับผู้เสียหายไปทำอะไรนั้น พวกตนไม่เห็น เพราะหลังจากย่างปลากินกันแล้ว ก็พากันนอนหลับบนกระท่อม หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พอเห็นข่าวว่าเพื่อนถูกแจ้งความกล่าวหาว่าไปกระทำชำเราน้องนักเรียนหญิงก็ตกใจ ยิ่งกล่าวหาว่าสูบกัญชาพ่นควันใส่ยิ่งไม่เป็นความจริง ก็อยากขอความเป็นธรรมให้เพื่อนด้วย
ความเห็น 0