บทสรุปฟุตบอลโลก 2022 ปลุกเศรษฐกิจอู้ฟู่ - ทีมรองบ่อนผงาด
ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ ปิดฉากด้วยการเถลิงบัลลังก์แชมป์ของทีมฟ้า-ขาว อาร์เจนตินา พร้อมกับความอู้ฟู่ทางเศรษฐกิจ ประเด็นร้อนทางการเมือง ไปจนถึงการสร้างสถิติมากมาย
สีสันจากคู่ชิงเริ่มจากซูเปอร์สตาร์ของสองทีม อาร์เจนตินามี ลิโอเนล เมสซี ผู้มีทรัพย์สิน 620 ล้านดอลลาร์ หรือราว 21,700 ล้านบาท ครองตำแหน่งนักฟุตบอลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกและปิดตำนานกับฟุตบอลโลกครั้งที่ 5 เที่ยวนี้ของตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย
ส่วนคิลิยัน เอ็มบับเป ดาวดังฝรั่งเศส ครองตำแหน่งนักฟุตบอลที่มีมูลค่าตลาดในการย้ายทีมสูงสุดที่ 160 ล้านยูโร หรือราว 5,950 ล้านบาท
ทั้งสองโชว์ฟอร์มเกรดเอในนัดชิงชนะเลิศ ด้วยการนำทัพให้ทีมเสมอกัน 2-2 ช่วง 90 นาที จากนั้นทั้งสองซูเปอร์สตาร์ ต่างทำประตูเพิ่มให้เสมอกันเป็น 3-3 โดยเอ็มบับเปทำแฮตทริกได้ในนัดชิงชนะเลิศ ก่อนที่อาร์เจนตินาจะคว้าแชมป์สมัยที่สามไปได้ในการดวลจุดโทษที่แม่นกว่า
ส่วนสีสันและสถิติในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้สะท้อนถึงการยกระดับของฟุตบอลนานาชาติ ไม่ว่า เอเชีย อาหรับ หรือแอฟริกา เห็นได้จากสองทีมคู่ชิง ทั้งฝรั่งเศสและอาร์เจนตินาต่างพ่ายแพ้ทีมรองกว่ามาแล้วในรอบแบ่งกลุ่ม
โดยเฉพาะอาร์เจนตินา ทีมแชมป์ของทัวร์นาเมนต์ ที่เปิดฉากช็อกแฟนบอลด้วยความปราชัยต่อทีมซาอุดีอาระเบีย 1-2 ประตู ส่วนฝรั่งเศส พ่าย ตูนิเซีย 0-1 ประตู ทำให้ทีมจากแอฟริกากลับบ้านด้วยรอยยิ้ม
ไม่มีคำว่า “ทีมเล็ก” อีกต่อไป
ทีมจากชาตินอกสายตาที่โกยคะแนนนิยมจนเข้าตาครั้งใหญ่ เป็นทีมคู่นัดชิงที่ 3 ที่หลายคนอยากให้เป็นคู่ชิงชนะเลิศ ได้แก่ โครเอเชีย ทีมแกร่งจากยุโรปที่มีผลงานคงเส้นคงวามาตลอด ก่อนพ่ายอาร์เจนตินาในรอบตัดเชือก กับโมร็อกโก ทีมที่สร้างสีสันและสถิติครั้งประวัติศาสตร์ให้ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ด้วยการเป็นทีมแรกของทวีปแอฟริกาที่ทะลุมาถึงรอบ 4 ทีมสุดท้ายได้ แต่ไม่อาจผ่านความเก๋าของทีมชาติฝรั่งเศสไปได้
ทีมจากเอเชีย มีผลงานกลับบ้านด้วยความภาคภูมิใจเช่นกัน โดยเฉพาะญี่ปุ่นที่เอาชนะทีมใหญ่จากยุโรปอย่าง เยอรมนี และสเปน ได้อย่างตะลึงงันในรอบแบ่งกลุ่ม ทั้งยังสู้ฟัดกับทีมโครเอเชียจนถึงขั้นฎีกา ต้องดวลจุดโทษในรอบ 16 ทีมสุดท้าย
ขณะที่เกาหลีใต้ ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมมาได้แบบสู้จนหยดสุดท้ายในทุกเกมการแข่งขัน โดยเฉพาะนัดเฉือนชัยโปรตุเกส 2-1 ประตู ในช่วงเวลาทดเจ็บ แม้จะพ่ายบราซิลด้วยสกอร์ขาด 1-4 แต่ก็พังประตูตีไข่แตกได้เช่นกัน
ด้วยผลการแข่งขันที่เซอร์ไพรส์ พลิกล็อก-พลิกผันหลายแมตช์ จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ถึงกับกล่าวว่า ฟุตบอลโลก กาตาร์ เป็นฟุตบอลโลกที่ดีที่สุดเท่าที่มีมา เห็นได้จากรอบแบ่งกลุ่ม 32 ทีม การแข่งขันเข้มข้นสูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ บ่งบอกว่า ฟุตบอลกำลังจะกลายเป็นกีฬาที่ทั่วโลกพัฒนาขึ้นมาสู้กันได้แบบสูสีกว่าเดิม และจะไม่มีคำว่า “ทีมเล็ก” ในฟุตบอลโลกอีกต่อไป
กาตาร์ทุ่ม 8 ล้านล้านคุ้มไหม
สำหรับกาตาร์ เป็นชาติเจ้าภาพที่ทุ่มงบประมาณสูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก นับจากปี 1930 คือไม่น้อยกว่า 2.29 แสนล้านดอลลาร์ หรือราว 8 ล้านล้านบาท สำหรับสร้างสนามแข่ง โครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาอื่น ๆ เทียบกับรัสเซีย เจ้าภาพปี 2018 ที่ใช้ไป 16,000 ล้านดอลลาร์ และบราซิล เจ้าภาพปี 2014 ใช้ไป 19,700 ล้านดอลลาร์ การลงทุนมหาศาลที่กาตาร์ทุ่มลงไปนี้ ทำให้เกิดคำถามว่าคุ้มค่าหรือไม่
เฉพาะผลการแข่งขันและประเด็นการเมืองคงไม่ใช่ความทรงจำที่ดีเท่าไรนัก เพราะเจ้าภาพอยู่ในการแข่งขันเพียง 5 วันก็ตกรอบ นอกจากนี้ยังเผชิญการประท้วงเรื่องสิทธิมนุษยชน แรงงาน ความเท่าเทียมทางเพศ โดยมีกฎที่แฟนบอลต้องปรับตัวมากเป็นพิเศษ ไปจนถึงข้อครหาด้านการคอร์รัปชั่น
ส่วนมุมเศรษฐกิจ กาตาร์ไม่ได้ประโยชน์จากค่าตั๋วและค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอด เพราะเป็นของฟีฟ่าทั้งสิ้น แต่ได้ยอดนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาเกิน 1 ล้านคน โดยในรอบแบ่งกลุ่มปีนี้มีผู้ชมเข้าชมแต่ละสนามเฉลี่ย 51,000 คน
จากการประเมินผลตอบแทนทางธุรกิจ หลายสำนักให้ผลคล้ายกันว่า จีดีพีของกาตาร์จะเพิ่มขึ้น 4.1% ภายในปลายปีนี้ และระหว่างปี 2022-2030 (พ.ศ. 2565-2573) จีดีพีเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3.2% และผลคาดหวังในระยะยาวคือกระแสเงินสดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินและตลาดหุ้น หลังจากเริ่มเห็นผลแล้วว่า ดัชนี QSE เติบโตถึง 24% ตั้งแต่ต้นปีนี้ถึงกลางปี
โฆษณา-ลิขสิทธิ์-ยอดวิวพุ่ง
ด้านฟีฟ่าแถลงเปิดตัวเลขรายได้จากการดีลโฆษณาฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ช่วง 4 ปีมานี้ สูงถึง 7,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือเกือบ 2.7 แสนล้านบาท สูงกว่าฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 35,000 ล้านบาท
ผู้ชนะถ้วยเวิลด์คัพ หรือฟุตบอลโลกปีนี้ จะได้รับเงินรางวัล 44 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,540 ล้านบาท จากเงินรางวัลทั้งหมด 440 ล้านดอลลาร์ หรือราว 15,400 ล้านบาท มากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ทั้ง 32 ทีมที่ได้เข้ามาเล่นในรอบสุดท้ายการันตีเงินรางวัล 10.5 ล้านดอลลาร์ หากผ่านรอบแบ่งกลุ่มสู่รอบน็อกเอาต์จะได้ 13 ล้านดอลลาร์ จากนั้นรอบ 8 ทีมได้ 17 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และรองแชมป์ ได้ 30 ล้านดอลลาร์ หรือราว 1,050 ล้านบาท
ในส่วนลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด ฟีฟ่าขายสิทธิส่วนนี้่ในปี 2022 ไปล่วงหน้าพ่วงกับปี 2018 แล้ว ที่มูลค่า 1,850 ล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 65,000 ล้านบาท ขณะที่เรตติ้งทางโทรทัศน์ มีผู้ชมผ่านหน้าจอทีวี ทุบสถิติเกิน 2,450 ล้านคนไปแล้ว ตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่ม และเมื่อจบทัวร์นาเมนต์จะมีจำนวนถึง 5,000 ล้านคน
วีซ่าเผยยอดใช้จ่ายสะพัด
การใช้จ่ายในศึกฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์นั้นเป็นไปอย่างคึกคัก วีซ่า (VISA) ผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก และผู้สนับสนุนหลักการแข่งขันครั้งนี้เผยว่า มีการใช้จ่ายสะพัดในทัวร์นาเมนต์ครั้งนี้เฉพาะรอบแบ่งกลุ่มแซงหน้ายอดทั้งทัวร์นาเมนต์เมื่อ 2018 ที่รัสเซีย และ 2014 ที่บราซิล อยู่ที่ 89% และ 192% ตามลำดับ ซึ่งเป็นแบบคอนแท็กต์เลสถึง 88%
5 แมตช์ที่มียอดการใช้จ่ายสูงสุดในรอบแบ่งกลุ่ม ได้แก่ ซาอุดีอาระเบีย กับ เม็กซิโก 5.1% ของยอดค่าใช้จ่ายรวม, อาร์เจนตินา กับ เม็กซิโก 4.7%, แคเมอรูน กับ บราซิล 3.7%, โปรตุเกส กับ อุรุกวัย 3.6% และกาตาร์ กับ เอกวาดอร์ 3.6%
อย่างไรก็ตาม สำหรับกระแสบอลโลกในประเทศไทยกลายเป็นประเด็นชุลมุนเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ผู้ชมต้องลุ้นก่อนทัวร์นาเมนต์จะเริ่มเพียงไม่กี่วัน ส่วนภาคเอกชนที่จัดโปรโมชั่น อีเวนต์ หรือสปอนเซอร์แทบไม่มีเวลาเตรียมตัว
และระหว่างทัวร์นาเมนต์ยังมีประเด็นวุ่นกันต่อ ว่าด้วยกฎมัสต์แครี่ กระทั่งก่อนถึงนัดชิงที่ 3 และนัดชิงชนะเลิศ กลุ่มทรูจึงออกแถลงการณ์ยินดีร่วมมือกับผู้ให้บริการระบบไอพีทีวีทุกราย ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2 แมตช์ สุดท้าย โดยไม่เก็บค่าตอบแทน
- ฟุตบอลโลก 2022 โปรแกรมแข่งขัน ตั้งแต่นัดแรกถึงรอบชิงชนะเลิศ
- เทียบฟอร์ม คู่ชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 2022 อาร์เจนตินา VS ฝรั่งเศส
- เมสซี กับ 5 สถิติสุดโหด ในเกมถล่มโครเอเชีย
- ผลฟุตบอลโลก 2022 ฝรั่งเศส ชนะ โมร็อกโก เข้าไปชิงกับ อาร์เจนตินา
- ทรูยอมปลดล็อกไอพีทีวี ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 แมตช์สุดท้าย
- ฟุตบอลโลก 2022 เงินสะพัด วีซ่าเปิดสถิติ แมตช์ไหนยอดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด
- Stadium 974 สนามฟุตบอลโลก 2022 ครั้งแรกของสนามรักษ์โลก