เรียนไทยได้จีน : นิทานสุภาษิตจีน (289) 成语故事 (二八九)
นิทานสุภาษิตจีนที่ “เรียนไทยได้จีน” จะนำเสนอในฉบับนี้คือ 各自为政 /各自為政 ɡè zì wéi zhènɡ (เก้อ จื้อ เหวย เจิ้ง) โดย คำว่า 各 ɡè (เก้อ) แปลว่า ต่างคนต่าง 自 zì (จื้อ) แปลว่า ตนเอง 为/為 wéi (เหวย) แปลว่าในที่นี้จะหมายถึงทำ政 zhènɡ (เจิ้ง) แปลว่า ปกติจะหมายถึงการเมือง ในที่นี้จะหมายถึงหนทาง เส้นทางแห่งตน เป็นคำสุภาษิตที่ใช้บรรยายสภาพประเทศชาติ สังคม ครอบครัว องค์กร ที่อยู่ในสภาพแตกแยก ต่างคนต่างเดิน ต่างคนต่างทำ ไร้ความสามัคคี มาดูตัวอย่างจากนิทานสุภาษิตจีนนี้กัน
การศึกในสมัยโบราณนั้น หลายครั้งที่ชัยชนะ หรือความพ่ายแพ้ในการรบ ไม่ได้มีสาเหตุกมาจากความไร้สามารถในการรบของเหล่าทหารหาญ หรือความผิดพลาดในการวางแผนการรบ แต่มันกลับมาจากความผิดพลาดเล็กๆ น้อยภายใน หรือความแตกแยกอันเล็กๆ น้อยจากภายใน แล้วส่งผลต่อภาพรวมของการศึก
ราชวงศ์โจว 周朝 Zhōu cháo (โจว ฉาว) ประเทศจีนปกครองแผ่นดินจีนยาวนานกว่าแปดร้อยปี แบ่งช่วงการปกครองออกได้เป็นสองยุคคือโจวตะวันตก西周 Xī Zhōu (ซี โจว) กับโจวตะวันออก 东周/東周 Dōnɡ Zhōu (ตง โจว) ช่วงโจวตะวันออกยังแบ่งออกได้สองยุคย่อยคือยุคชุนชิว 春秋 Chūnqiū กับยุคจ้านกั๋ว 战国/戰國 Zhànɡuó นิทานสุภาษิตวันนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงชุนชิว (ประมาณ 600 ปี ก่อน ค.ศ.) ในช่วงนี้เกิดประเทศใหญ่น้อยที่แยกตัวออกตั้งตนเป็นใหญ่มากมายนับร้อยรัฐ การรบพุ่งกันจึงมีมากมายไม่หยุดหย่อน
ครั้งหนึ่งรัฐเจิ้ง 郑国/鄭國 Zhènɡɡuó (เจิ้งกั๋ว) ส่งกองทัพบุกรัฐซ่ง 宋国/宋國 Sònɡɡuó (ซ่งกั๋ว) รัฐซ่งจึงส่งแม่ทัพใหญ่นามว่า ฮว่าหยวน 华元/華元 Huà Yuán นำกองทัพซ่งออกยั้งทัพรัฐเจิ้ง เมื่อสองกองทัพมาเผชิญหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างตั้งค่ายของตัวเองขึ้นมาเพื่อทำศึกอันยาวนาน แม่ทัพฮว่าหยวนแห่งกองทัพซ่ง เมื่อเห็นกองทัพตั้งค่ายเสร็จแล้ว เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการรบของวันรุ่งขึ้น เขาจึงสั่งให้จัดงานเลี้ยง เฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่แก่เหล่าขุนศึกนายทหารทั้งหลาย แม่ทัพฮว่าหยวนสั่งให้ล้มแพะล้มแกะมากมายแล้วเอามาย่าง ตัดแบ่งทุกคนกินอย่างอิ่มหนำสำราญ แต่ฮว่าหยวนไม่ได้สั่งให้เอาอาหารแบ่งไปให้กับพลขับประจำตัวของเขา ซึ่งพลขับคนนี้ของแม่ทัพ แต่ไหนแต่ไรมาก็เป็นคนที่ชอบคิดเล็กคิดน้อยอยู่แล้ว เมื่อเห็นว่าเจ้านายไม่แบ่งเนื้อแพะย่างมาให้ ก็น้อยใจยิ่งนัก
เมื่อเช้ารุ่งมาถึง ฮว่าหยวนสั่งให้รวมพลจัดกระบวนทัพเพื่อทำศึก พลขับของเขาก็ขับรถม้าศึกมารับเขาตามปกติ แต่เมื่อสองกองทัพกำลังยกพลบุกเข้าตะลุมบอนกันนั้น พลขับของเขาก็หันมาพูดกับแม่ทัพฮว่าหยวนว่า งานเลี้ยงเมื่อคืน การแบ่งเนื้อแพะให้ใครกิน ไม่ให้ใครได้กิน เป็นอำนาจของท่านสั่งการ ยามนี้กำลังรบอยู่ รถม้าอยู่ในบังคับของข้าพเจ้า การตัดสินใจจะให้ม้าวิ่งไปทางใด ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของข้าพเจ้า พูดแล้วก็ควบรถม้าวิ่งฝ่าเข้าดงข้าศึกทันที กว่าใครต่อใครจะได้สติจะทำอะไร แม่ทัพ ฮว่าหยวนก็ไปอยู่ในมือข้าศึกเรียบร้อยแล้ว
การศึกครั้งนี้ กองทัพซ่งพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ด้วยเพราะความเห็นแก่ตัวของพลขับเพียงคนเดียวแท้ๆ ต่อมาผู้คนจึงนำเหตุการณ์นี้มาพูดเพื่อแสดงให้เห็นถึงความแตกแยกภายในองค์กร หน่วยงาน หรือประเทศชาติ ที่แตกแยกสามัคคี
(ที่มาภาพ : https://image.baidu.com/search/index?tn)
ข้อคิดจากประโยคสุภาษิตนี้
成语比喻:每个人只按照个人的主张办事,不考虑全局。
成語比喻:每個人只按照個人的主張辦事,不考慮全局。
Chénɡyǔ bǐyù: Měi ɡèrén zhǐ ànzhào ɡèrén de zhǔzhānɡ bànshì, bù kǎolǜ quánjú.
เฉิงยหวี่ ปี่ยวี่: เหม่ย เก้อเหริน จื่อ อั้นเจ้า เก้อเหริน เตอะ จู่จาง ป้านฉื้อ, ปู้ ข่าว ลวี่ ฉวนจวี๋
สุภาษิตเปรียบว่า: ทุกคนต่างทำตามความเห็นของตนเอง โดยไม่คำนึงถึงส่วนรวม
ประโยคตัวอย่างที่ใช้สำนวนสุภาษิตนี้ เช่น
在工作上,如果有不同的意见就要协商解决,不能各自为政。
在工作上,如果有不同的意見就要協商解決,不能各自為政。
Zài ɡōnɡzuò shànɡ,rúɡuǒ yǒu bùtónɡ de yìjiàn jiù yào xiéshānɡ jiějué,bùnénɡ ɡèzìwéizhènɡ.
จ้าย กงจั้ว ฉ้าง, หรูกั่ว โหย่ว ปู้โถง เตอะ อี้เจี้ยน จิ้ว เหย้า เสียฌาง เจี่ยเจว๋, ปู้เหนิง เก้อจื้อเหวยเจิ้ง
ในด้านการงานนั้น หากมีความคิดเห็นต่างกัน ก็ต้องแก้ไขด้วยการปรึกษาหารือกัน ไม่อาจที่จะต่างคนต่างทำได้
ความเห็น 0