จับตาทายาท 3ป. ใครคือนายกฯรักษาการ
จับตาทายาท 3ป. ใครคือนายกฯรักษาการ
นอกจากจะต้องจับตาการประชุมร่วมสองสภาในวันที่ 15 ส.ค.ที่มีแนวโน้มว่า ฝ่ายหาร 500 คงต้องถอดใจไปตามระเบียบ เที่ยงคืนวันที่ 15 ส.ค.เป็นอันว่า พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ไม่ผ่านกรอบเวลา 180วัน ต้องกลับไปใช้ร่างเดิมของ กรรมาธิการเสียงส่วนใหญ่ คือ บัตรเลือกตั้ง2 ใบหาร100 ผลที่จะตามมาคือ พรรคใหญ่ จะได้ส.ส. เข้ามาบานตะไท เพราะการที่พรรคการเมืองจะได้ส.ส.บัญชีรายชื่อก็ต่อเมื่อได้คะแนนพรรค 3แสนคะแนนขึ้นไป
พรรคเล็ก มีโอกาสตายสถานเดียว มีทางรอดคือไปรวมกันเป็นพรรคใหญ่ ไปอยู่รวมกับพรรคใหญ่ ซึ่งมีโอกาสน้อยมากเพราะนาทีนี้ แต่ละพรรคการเมือง ก็มีปัญหาเรื่องการส่งผู้สมัคร ที่ทับซ้อนกัน จนเป็นเหตุให้พรรคแตก ย้ายพรรค
ส่วนพรรคเล็กที่พอจะมีส.ส.เขตอยู่บ้าง ถ้ามีแค่คนสองคนคะแนนรวมพรรคไม่ถึง 3 แสน โอกาสที่จะได้ปาตี้ลิสต์ก็อยาก ถึงจะได้ก็จำนวนลดลง อย่างพรรครวมชาติ พรรคชาติพัฒนา พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคเสรีรวมไทย พรรคเศรษฐกิจไทย พรรคประชาชาติ พรรคพลังท้องถิ่นไท โอกาสจะได้ส.ส.น้อยลง รวมทั้งพรรคก้าวไกล อาจจะได้ส.ส.ลดลงดีไม่ดีต่ำกว่า 50 ด้วยซ้ำเพราะต่อไปนี้ คะแนนส.ส.เขต ที่มาลำดับที่สองก็ไม่มีความหมายอีกต่อไป
ก็มาลุ้นกันแค่พรรคใหญ่ 4 พรรคเพื่อไทย พลังประชารัฐ ภูมิใจไทย และประชาธิปัตย์ สำหรับเพื่อไทยค่อนข้างจะลอยลำเหมือนการเลือกตั้งทุกครั้งที่ผ่านมา ภูมิใจไทย พยายามดูดส.ส. เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำขั้วอำนาจ ประชาธิปัตย์ก็น่าจะอยู่ในช่วงขาลงจริงๆ ที่ต้องลุ้นคือพลังประชารัฐ ทำอย่างไรจะเก็บบ้านใหญ่เอาไว้ให้ได้ อาทิที่ ชลบุรี ถ้ายังเคลียร์ เรื่องระหว่าง สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน กับบ้านใหญ่ตระกูลคุณปลื้มไม่ได้ ในที่สุดก็ต้องเสียบ้านใหญ่ไปจริงๆ
เช่นเดียวกับบ้านใหญ่ ปากน้ำ ที่ส่งสัญญาณในการโหวตอภิปรายเที่ยวนี้ให้เห็นแล้วว่า ไม่เอา มท.1 พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และอีกคนคือ สุชาติ ชมกลิ่น เรื่องนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เคยเรียกไปเคลียร์แล้วว่า อย่าไปวุ่นวายกับบ้านใหญ่ โดยเฉพาะการเลือกตั้งท้องถิ่น ตลอดเวลาที่ผ่านมามีการแทรกแซง โดยดึงเอานายทหารที่เข้ามาทำงานการเมือง ไปก้าวก่ายการเมืองท้องถิ่น จนเกิดปัญหาขึ้นมาในพื้นที่ การอภิปรายไม่ไว้วางใจ บ้านใหญ่อัศวเหม จึงจงใจที่จะยกมือโหวตไม่ไว้วางใจ มท.1 และจับกัง1 ให้เห็นกันจะๆ ยังไม่รวมบ้านใหญ่ฉะเชิงเทรา และอีกหลายบ้าน
เป็นปัญหาที่ พล.อ.ประวิตร จะต้องเคลียร์ให้สะเด็ดน้ำก่อนที่จะเปิดศึกเลือกตั้งนัดนี้
กรณี ที่โฟกัส นายกฯรักษาการ หาก พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ จะเป็น รองนายกฯอันดับ1 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็ให้จับตาโผอาจจะพลิก ในโค้งสุดท้ายของการปรับครม.ในอนาคตอันใกล้นี้
มีกระแสว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะปรับครม.ใหญ่ อีกรอบ ให้พล.อ.ประวิตร ไปนั่งเป็นมท.1 สมใจนึกตำแหน่งเดียว แล้วให้พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา โยกจาก มท.1 ไปเป็น รมว.พลังงาน แทนสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
ที่เซอร์ไพร้ส์ คือจะปรับตำแหน่ง รองนายกฯให้เหลือเพียงตำแหน่งเดียว โดยจะดึง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ปรึกษานายกฯ เข้ามารับตำแหน่ง รองนายกฯ เพื่อให้เป็นนายกฯรักษาการ สืบทอดอำนาจ
ศึกสายเลือด เคลียร์กันลงตัว สามป.มาด้วยกันก็ต้องไปด้วยกัน แต่ถ้าไม่จบก็ต้องไม่จบด้วยกัน นาทีนี้ ภูมิใจไทย พรรคตาอยู่ ของ เสี่ยหนู อนุทิน ดีดลูกคิดรางแก้ว ไขว่ห้างรอส้มหล่น ลูกเดียว ทั้งนายกฯรักษาการและนายกฯ ตัวจริง