โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

เม็กซิโกเรียกร้องเอกราชจากสเปน สู่การเถลิงอำนาจของ “จักรวรรดิอากุสตินที่ 1 แห่งเม็กซิโก”

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 19 ก.ค. 2565 เวลา 04.49 น. • เผยแพร่ 12 ก.ค. 2565 เวลา 06.13 น.
ภาพจิตรกรรมฝาผนังสมเด็จพระจักรพรรดิอากุสตินที่ 1 แห่งเม็กซิโก (MEXICO-CRIME-STUDENTS-DRUG-TRAFFICKING / AFP)

เม็กซิโก เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีชื่อเสียงและมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 3 ของทวีปอเมริกาเหนือ เนื่องจากเคยเป็นที่ตั้งของแหล่งอารยธรรมโบราณอย่าง โอลเม็ก มายา และแอซเท็ก ที่สร้างมรดกทางวัฒนธรรมจำนวนไม่น้อยให้กับโลก เช่นการสร้างปฏิทินปฏิทินชาวมายา การสร้างชิเชนอิตซา (Chichen Itza) และการสร้างสวนลอยน้ำ ฯลฯ อีกทั้งยังมีภาพตัวแทนที่คนทั่วไปจดจำได้คือการบูชายัญมนุษย์เพื่อบูชาเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ โดยควักหัวใจทั้งเป็นและโยนร่างลงจากวิหาร ท่านสามารถรับชมภาพยนตร์เรื่อง Apocalypto (2006) เพื่อให้เห็นภาพดังกล่าวนี้ได้อย่างชัดเจน

ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 16 ชาวสเปนได้ขยายอิทธิพลมายังทวีปอเมริกาตรงกับสมัยจักรวรรดิแอซเท็ก โดยแอร์นัน คอร์เตซ (Hernán Cortés) ผู้นำกองกิสตาดอร์แห่งสเปนได้นำกำลังยึดอำนาจกษัตริย์แอซเท็กพระองค์สุดท้ายพระนามว่ากูเอาเตม็อก (Cuauhtémoc) ได้ใน ค.ศ. 1521 ทำให้พื้นที่ของอเมริกากลาง ซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิแอซเท็กนั้นตกอยู่ภายใต้อำนาจการปกครองของจักรวรรดิสเปน และทำให้ระบอบกษัตริย์ของคนพื้นเมืองในภูมิภาคอเมริกากลางได้ล่มสลายลงไปด้วย

หลังจากที่ดินแดนนิวสเปนอยู่ภายใต้การปกครองของจักรวรรดิสเปนมอย่างยาวนานประมาณเกือบ 300 ปี ด้วยการกดขี่รังแกคนพื้นเมืองด้วยการบังคับใช้แรงงาน เอารัดเอาเปรียบ มีการทำลายความเชื่อทางศาสนาดั้งเดิม และบังคับให้เข้ารีตตามแบบคริสต์ศาสนานิกายคาทอลิก อีกทั้งสเปนได้สูบทรัพยากรทั้งแร่เงิน ทองคำ ฯลฯ ด้วยผลกระทบจากแนวคิดชาตินิยมและเสรีนิยมที่เกิดขึ้นหลังจากการปฏิวัติอเมริกา ค.ศ. 1776 และการปฏิวัติฝรั่งเศส ค.ศ. 1789 ได้ทำให้แนวคิดชาตินิยมและเสรีนิยมแพร่กระจายไปยังนิวสเปน ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 จักรพรรดินโปเลียนที่ 1 (Napoleon I) ได้ยกกองทัพรุกรานยุโรปอยู่หลายชาติโดยหนึ่งในชาติที่ถูกรุกรานคือสเปน

ด้วยแสนยานุภาพทางการทหารที่แข็งแกร่งทำให้จักรพรรดิเฟอร์ดินานด์ที่ 7 แห่งสเปน (Ferdinand VII of Spain) ต้องยอมจำนนในปี ค.ศ. 1808 โดยจักรพรรดินโปเลียนได้ตั้งพระเชษฐาของตนคือ โจเซฟ โบนาปาร์ต (Joseph Bonaparte) ขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองสเปนแทน ด้วยเหตุนี้ทำให้อาณานิคมของสเปนในทวีปอเมริกาไม่มีผู้ดูแล ทำให้พวกคริโอล์ (Criollo) ซึ่งเป็นชาวพื้นเมืองเม็กซิกันเลือดผสมสเปน และพวกปัญญาชนที่ได้ศึกษาเรื่องการเมือง ได้ลุกฮือขึ้นเรียกร้องเอกราชในการปกครองตนเองจากสเปน โดยมีผู้นำคนสำคัญคือ มิเกล ฮิดัลโก (Miguel Hidalgo) บาทหลวงจากเมืองโดโลเรส (Dolores) และ อิกนาซิโอ อาเยนเด (Ignacio Allende) แต่ทั้ง 2 ท่านได้ถูกสังหารโดยกองทัพสเปนในปี ค.ศ. 1811

ต่อมาชาวสเปนสามารถขับไล่กองทัพของนโปเลียนออกจากแผ่นดินของตนได้สำเร็จในปี ค.ศ. 1813 หลังจากหายนะทางการทหารครั้งใหญ่ของกองทัพนโปเลียนที่ได้ยกทัพไปบุกรัสเซียในปี ค.ศ. 1812 แต่กลับต้องเป็นฝ่ายพ่ายแพ้และสูญเสียทหารไปหลายแสนนาย สเปนจึงหันกลับมาให้ความสำคัญกับการทำสงครามกับชาวอาณานิคมในนิวสเปนอีกครั้ง

หลังจากการตายของฮิดัลโกและอาเยนเดกระแสต่อต้านสเปนในเม็กซิโกก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะลดลง ขณะเดียวกันได้มีนายทหารชาวครีโอล์ผู้มีความทะเยอทะยานนามว่า อากุสติน เด อิตูร์บิเด (Agustín de Iturbide) เขาเห็นด้วยกับการเรียกร้องเอกราช แต่ไม่เห็นด้วยกับวิธีการใช้ความรุนแรงของฝ่ายกบฏ เขาเสนอแนวทางการประกาศเอกราชของสเปนด้วยการประสานความร่วมมือระหว่างฝ่ายนิยมสเปนกับฝ่ายกบฏ อิตูร์บิเดได้รับภารกิจจากผู้สำเร็จราชการให้ไปปราบกบฏของบิเซนเต เกเรโร (Vicente Guerrero) แต่เขาได้โน้มน้าวให้เกเรโรให้ร่วมมือกับเขา ทำให้อิตูร์บิเดกลายเป็น ผู้นำสูงสุดของกองทัพชาติ อิตูร์บิเดยึดหลัก 3 ประการคือ “ศาสนา เอกภาพ เอกราช”

การเรียกร้องเอกราชของชาวเม็กซิกันดำเนินมาต่อเนื่องจนกระทั่งในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 1821 ฆวน เด โอโดโนฆู (Juan O’Donojú) ผู้แทนจากนิวสเปนยอมลงนามกับอิตูร์บิเด ในสนธิสัญญากอร์โดบา (Treaty of Córdoba) โดยเนื้อหาของสนธิสัญญาคือการยอมรับเอกราชและการสถาปนาจักรวรรดิเม็กซิโก (First Mexican Empire)

หลังจากที่นิวสเปนได้รับเอกราชก็ประสบปัญหามากมายเพราะจักรวรรดิเม็กซิโกนั้นมีพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่กลับมีประชากรจำนวนไม่มากนักอีกทั้งชาวเม็กซิกันที่เพิ่งได้รับเอกราชยังขาดความรู้ความสามารถในการปกครองตนเอง ปัญหาทางด้านเศรษฐกิจจากสภาวะหนี้สิน 45 ล้านเปโซ และความล้มเหลวในการจัดเก็บภาษีที่เป็นระเบียบทำให้การคลังของประเทศอยู่ในสภาวะล้มละลาย อิตูร์บิเดจัดตั้งคณะปกครองชั่วคราว (Provisional Governing Junta) ซึ่งทำหน้าที่คัดเลือกคณะผู้สำเร็จราชการ 5 คน สมาชิกในกลุ่มส่วนใหญ่เป็นฝ่ายสนับสนุนอิตูร์บิเดทำให้เขาครองเสียงข้างมากและมีอำนาจในการบริหาร

ขณะเดียวกันชื่อเสียงและอิทธิพลของอิตูร์บิเดทำให้เขตปกครองตนเองกัวเตมาลาขอเข้าร่วมกับจักรวรรดิเม็กซิโกในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1822 จนทำให้เม็กซิโกมีพื้นที่เกือบทั้งภูมิภาคอเมริกากลาง (กินพื้นที่ประเทศกัวเตมาลา, ฮอนดูรัส, นิการากัว, เอล ซัลวาดอร์, คอสตาริกาในปัจจุบัน) แต่ขณะเดียวกันปัญหาภายในรัฐบาลทำให้อิตูร์บิเดถูกสมาชิกรัฐสภากดดันเขาจึงได้สถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิอากุสตินที่ 1 แห่งเม็กซิโก (Augustine I of Mexico) ในวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 1822 โดยมีประชาชนสนับสนุนเขาจำนวนมาก แต่ฝ่ายกบฎที่นิยมระบอบสาธารณรัฐไม่พอใจนำไปสู่ความขัดแย้งภายในจักรวรรดิ

จักรพรรดิอากุสตินจึงสั่งยุบสภาและตั้งคณะปกครองแห่งชาติขึ้นมาแทน พระองค์เริ่มถูกต่อต้านจากประชาชนอย่างรุนแรงจากนโยบายบังคับกู้ยืม และนโยบายดึงอำนาจเข้าสู่ศูนย์กลางของพระองค์ทำให้จังหวัดอื่น ๆ ไม่พอใจ นายทหารหนุ่มนามว่าอันโตนิโอ โลเปซ เด ซานตา อันนา (Antonio López de Santa Anna) ได้ก่อรัฐประหารที่เมืองเบราครูซในวันที่ 2 ธันวาคม ค.ศ. 1822

โดยเรียกร้องให้ฟื้นฟูระบบรัฐสภาและตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐ เขาได้รับการสนับสนุนมากมายจากทั้งนักการเมือง ทหารและประชาชน นำไปสู่การประกาศแผนกาซา มาตา (Plan of Casa Mata) ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1823 ซึ่งเป็นการรื้อฟื้นการสถาปนารัฐสภาขึ้นใหม่และออกกฎหมายให้สิทธิการปกครองตนเองของจังหวัดต่าง ๆ

จากกระแสต่อต้านที่รุนแรงส่งผลให้จักรพรรดิอากุสตินที่ 1 ตัดสินพระทัยสละราชสมบัติในวันที่ 22 มีนาคม ค.ศ. 1823 นำไปสู่การล่มสลายของจักรวรรดิเม็กซิโกที่ 1 และยังส่งผลให้ดินแดนในอเมริกากลางขอแยกตัวจากเม็กซิโกไปก่อตั้งสหพันธ์สาธารณรัฐอเมริกากลาง (Federal Republic of Central America) โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่กัวเตมาลาซิตี้ ซ้ำร้ายจังหวัดต่าง ๆ เช่นยูกาตัน, กวาดาลาฆารา, ซากาเตกัส ได้แยกตัวเป็นเอกราชปกครองตนเอง

รัฐบาลเม็กซิโกจึงไปเจรจาขอไม่ให้แต่ละจังหวัดแยกตัวแบบรัฐในอเมริกากลาง ทางรัฐบาลท้องถิ่นของจังหวัดกวาดาลาฆาราและซากาเตกัสยื่นข้อเสนอให้เม็กซิโกต้องปกครองแบบสหพันธรัฐเหมือนกับสหรัฐอเมริกาเท่านั้น รัฐสภายินยอมจึงมีมติก่อตั้ง สหรัฐเม็กซิโก (United Mexican States) ในวันที่ 31 มกราคม ค.ศ. 1824 และประเทศเม็กซิโกยังคงปกครองโดยใช้รูปแบบสหพันธรัฐมาจนถึงปัจจุบัน

นอกจากนี้รัฐสภาเม็กซิโกออกประกาศห้ามมิให้อิตูร์บิเดกลับมาเหยียบแผ่นดินเม็กซิโกอีกเด็ดขาด และเมื่ออิตูร์บิเดที่ได้ลี้ภัยไปอิตาลีได้ลักลอบเดินทางกลับมายังเม็กซิโก เขาถูกจับได้และประหารชีวิตด้วยการยิงเป้าในวันที่ 19 กรกฎาคม ค.ศ. 1824 เป็นการปิดฉากจักรพรรดิเม็กซิโกพระองค์แรก และเริ่มการปกครองด้วยระบอบสาธารณรัฐโดยมีประธานาธิบดีเม็กซิโกคนแรกคือ กวาดาลูเป วิกตอเรีย (Guadalupe Victoria)

อ้างอิง :

หนังสือ

กุศล สุจรรยา. ลาตินอเมริกา อดีต-ปัจจุบัน. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2530

โกวิท วงศ์สุรวัฒน์. การเมืองการปกครองสหรัฐอเมริกา : แนวพินิจทางประวัติศาสตร์. กรุงเทพฯ : โอเดียนสโตร์, 2548

เดวิดสัน, เจมส์ เวสต์. สหรัฐอเมริกา : ประวัติศาสตร์(ไม่รู้จบ)แห่งเสรีภาพและความเท่าเทียม. แปลโดย สุนันทา วรรณสินธ์ เบล. กรุงเทพฯ : บุ๊คสเคป, 2564

โบเยอร์, พอล. ประวัติศาสตร์อเมริกา : ความรู้ฉบับพกพา. แปลโดย ธเนศ อาภรณ์สุวรรณ. กรุงเทพฯ : บุ๊คสเคป, 2561

ปาโบล เอสกาลันเต กอนซาลโบ และคณะ. ประวัติศาสตร์เม็กซิโก (ฉบับปรับปรุง) A New Concise History of Mexico. แปลโดย นุชธิกา ราศีวิสุทธิ์, วรภัทร ดิศบุณยะ. กรุงเทพฯ : ยิปซี กรุ๊ป, 2560

มาตยา อิงคนารถ. ประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างละตินอเมริกากับสหรัฐอเมริกา. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2548

สัญชัย สุวังบุตร, อนันต์ชัย เลาหะพันธุ. ยุโรป ค.ศ. 1815-1918. กรุงเทพฯ : ศักดิโสภาการพิมพ์, 2558

อรพินท์ ปานนาค. ประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา 2 . กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2550

เว็บไซต์

Castillo, Jose Antonio Hernandez. “Agustin de Iturbide Biography and Significance”. Study.com Online. Access 12 JULY 2022.

< https://study.com/learn/lesson/agustin-de-iturbide-biography-significance.html>

Morris M. “Maximilian I: The Austrian Dictator of Mexico”. Biographics Online. Access 12 JULY 2022.

< https://www.youtube.com/watch?v=e3ZJ65c2q8s&ab_channel=Biographics>

Wikipedia. Agustín de Iturbide, from

Wikipedia. Maximilian I of Mexico, from

Wikipedia. Mexican Revolution, from < https://en.wikipedia.org/wiki/Mexican_Revolution>

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 12 กรกฎาคม 2565

youtube
ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...