โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“การุณยฆาต” ช่วยพ้นทุกข์กาย แต่ “คนข้างหลัง” ทุกข์ใจไม่แพ้กัน

Another View

เผยแพร่ 07 มี.ค. 2562 เวลา 01.00 น.

“การุณยฆาต” ช่วยพ้นทุกข์กาย แต่ “คนข้างหลัง” ทุกข์ใจไม่แพ้กัน

ก่อนอื่นผู้เขียนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณก๊อปหนุ่มไทยที่ตัดสินใจเข้ารับการการุณยฆาตที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นที่มาที่ไปให้เราต้องมาคุยกันในหัวข้อนี้ณที่นี้ด้วย

ผู้เขียนต้องการจะวิพากษ์เรื่องนี้เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่ยังอยู่ในการตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่ที่จะเห็นคุณค่าของชีวิตหรืออย่างน้อยที่สุดถ้ามีใครก็ตามที่คิดจะเลือกการการุณยฆาตผู้เขียนมองว่าบทความที่ท่านกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้คือข้อมูลประกอบการตัดสินใจอีกชิ้นนึงและหากคุณเลือกที่จะทำแล้วนั่นเป็นสิทธิ์ของคุณไม่มีใครรุกล้ำได้

เช่นเดียวกับคุณก๊อป ที่แม้การตัดสินใจของเขาอาจค้านกับความรู้สึกของหลาย ๆ คน แต่ผู้เขียนเคารพในการตัดสินใจครั้งนี้และขอให้คุณก๊อปได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีด้วย

เพราะบางครั้งการเผชิญหน้ากับความทุกข์ตอนมีชีวิตอยู่นั้นโดดเดี่ยวเกินไปสำหรับบางคนจริง ๆ

ทำไมการฆ่าตัวตายถึงบาปนัก

เช่นเดียวกับการทำแท้ง การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่สังคมไทยประณามมาช้านาน เพราะเราเป็นเมืองพุทธ(หรืออย่างน้อยก็เป็นเมืองที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ) ที่มีศีลข้อแรกคือการ "ห้ามฆ่าสัตว์"  ดังนั้น "การฆ่าเด็กในท้อง" ที่ยังถือว่าบริสุทธิ์ไม่เคยสร้างกรรมก็บาป "การฆ่าตัวตาย" ก็บาป!

ศาสนาสอนเราว่า การเกิดเป็นมนุษย์มีค่า เพราะมันเกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ ชนิดที่ในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้นเปรียบได้กับ  “มีมหาสมุทรแสนกว้างใหญ่ไพศาลอยู่แห่งหนึ่ง มองไปทางไหนก็ไม่เห็นฝั่ง ใต้มหาสมุทรแห่งนั้นมี “เต่า” ตาบอดอยู่ตัวหนึ่ง และเหนือผิวมหาสมุทรแห่งนั้นมี “ห่วง” อยู่อันหนึ่ง ร้อยปีเต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำครั้งหนึ่ง แล้วหัวของเต่าสวมกับห่วงได้พอดี” 

ตีเป็นเปอร์เซ็นต์คือ1 ในแสน1 ในล้าน

นอกจากเกิดมาได้ยากแล้ว มนุษย์ยังถือเป็นสัตว์ที่ประกอบกรรมดีได้มากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ไปตามเวรตามกรรม การฆ่าตัวตายจึงถือว่าลดโอกาสที่จะใช้กรรมที่ทำมา

ยิ่งไปกว่านั้นศาสนาพุทธให้ค่ากับความกตัญญู บุพการีต้องรักเรามากถึงจะเลี้ยงเรามาจนโต ต้องผ่านการฟูมฟักด้วยแรงกายแรงใจของคนในครอบครัว การฆ่าตัวตายจึงทำร้ายผู้คนเหล่านั้นโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ และถือเป็นการทำร้ายน้ำจิตน้ำใจของ ‘ผู้มีพระคุณ’ ซึ่งก็บาปหนักอีกเช่นกัน

มิหน้ำซ้ำ ในบางกรณีเจ้าตัวก็ไม่ได้ทุกข์ยากอะไรไปมากกว่าคนอื่นเลย เช่น หนี้เยอะ (คนเป็นหนี้กันค่อยประเทศ) อกหัก (โอยใครก็เจอ) ตกงาน (คนทำงานน่าจะเคยกันเยอะ)  แต่ดันเลือกทางออกเป็นการฆ่าตัวตาย

อันนี้ส่วนตัวผู้เขียนสนับสนุน (อ้าว ทำไมก้าวร้าว) เพราะรู้สึกว่าถ้าปัญหาแค่นี้ก็ทำให้คุณไม่อยากอยู่ได้ นั่นแปลว่าภูมิต้านทานของคุณไม่พอเลย กับสังคมกำลังพัฒนาที่มีปัญหารอบด้านและทรัพยากรก็มีจำกัด ถ้าคุณไม่สามารถผ่านเรื่องราวที่เอาจริง ๆ แล้วก็แทบจะเป็นธรรมดาของชีวิตที่ไม่มีทางสมหวังไปทุกอย่าง คุณจะก็ทุกข์อยู่แบบนี้ไม่รู้จบ

ผู้เขียนเองออกจะโกรธแทนพ่อแม่คุณด้วยซ้ำ ที่คนที่รัก สิ่งที่มีหรือความสุขที่เรามีไม่อาจรั้งให้คุณเห็นค่าของตัวเองได้ แล้วจะขอตายเพราะบทเรียนบางบทที่ชีวิตกำลังสอนคุณเท่านั้น

แต่ในกรณีคุณก๊อป ผู้เขียนถึงกับอึ้งและไร้ความเห็นใด ๆ  เพราะบทเรียนชีวิตที่เขาเผชิญมันทุกข์เกินจะพรรณนา

 “เธอรู้หรือเปล่าความเหงากับความว่างเปล่าปวดร้าวเพียงใด” 

“ เธอรู้หรือเปล่า? ว่ามันเจ็บปวดรวดร้าวและทรมานเมื่อรู้ว่าไม่มีใคร
เธอรู้หรือเปล่า ? ความเหงากับความว่างเปล่าปวดร้าวเพียงใด
เมื่อต้องคอยแต่คนที่ไม่มีวันกลับมา”

นี่คือบางช่วงบางตอนจากเพลง“เธอรู้หรือเปล่า” ผลงานของ ใหม่เจริญปุระ จากปลายปากกาของ นิ่มสีฟ้า ซึ่งคุณก๊อปไปขอเรียนกีต้าร์เพลงนี้จากครูยุทธผู้สอนกีต้าร์คลาสสิคเพื่อจะเล่นเพลงนี้เป็นแบบบรรเลงให้ได้ “ก่อนตาย”  และยังเป็นเพลงที่อธิบายความขมขื่นที่คุณก๊อปต้องเผชิญได้เป็นอย่างดี 

เขาพบ "เนื้องอกในสมอง" ตอนอายุราว 28 เป็นช่วงชีวิตที่กำลังสดใส กำลังจะได้ไปรับตำแหน่งที่ญี่ปุ่น แต่กลับต้องผ่าตัดรักษาแทน ตลอดระยะเวลา 10 ปีเขาเข้ารับการผ่าตัดสมองถึง 3 ซึ่งคุณก๊อปได้บรรยายเอาไว้ว่า “ ทรมานเหมือนอยู่ในนรก เจ็บปวดแสนสาหัสทุกครั้งที่ขยับตัว แต่ก็ต้องลุกขึ้นอาเจียนอยู่ตลอดเวลา ร้องไห้ทั้งยามหลับยามตื่น วันไหนที่ไม่เจ็บสัก 5 นาที เหมือนได้ขึ้นสวรรค์”

พอกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้เพียงอาทิตย์เดียว ก็พบว่าสมองติดเชื้อซ้ำไปอีก กลายเป็นต้องกลับมานอน รพ. เป็นเดือน ต้องเจาะน้ำไขสันหลังดูเป็นระยะจนบอบช้ำไปหมด 

หมดค่ารักษาเฉียดล้าน เงินที่เก็บมาตลอดชีวิตไม่เหลือ และไม่เคยหายขาด ไม่ดีขึ้น!

จากหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ เป็นคนมีความสามารถและเล่นดนตรีได้หลายอย่าง กลายเป็นคนที่ต้องออกจากงานเพราะโรคร้าย ต้องพึ่งพาครอบครัวให้หางานให้ ย่อมทำให้ชีวิตลูกผู้ชายต้องเจ็บปวดเป็นธรรมดา

เรื่องความรักที่เป็นที่มาของการเลือกเพลงนี้ คุณก๊อปมีคนรักที่ดีต่อกัน รักกันมานาน มีแผนการจะแต่งงานสร้างอนาคตร่วมกัน แต่เขาต้องปล่อยเธอไปเพราะไม่อยากให้เธอต้องใช้ชีวิตที่เหลือกับผู้ป่วยเรื้อรัง

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ต้องแบกรับ 

จริงอยู่ว่าคุณก๊อปมีครอบครัว มีคนรอบข้างที่น่ารัก แต่ความเจ็บปวดจากโรค เจ็บปวดจากการปล่อยมือคนรัก เจ็บปวดจากความรู้สึกผิดที่กลายเป็นภาระของครอบครัว คุณก๊อปต้องจัดการด้วยตัวเองคนเดียวไม่มีใครมาแบ่งเบาไปได้

ถ้าป่วยเดือนที่แล้ว การุณยฆาตเดือนนี้ยังถือว่ามีข้อกังขา แต่ระยะเวลานับ 10 ปีที่พยายามสู้มาตลอดก่อนจะตัดสินใจลาโลกไปอย่างมีการเตรียมการ มีระบบระเบียบมากแบบนี้ ผู้เขียนได้แต่บอกว่าคุณก๊อปได้พยายามถึงที่สุดแล้ว และมีแต่ความเสียดาย เสียใจกับครอบครัว

อย่างน้อยขอให้พยายาม

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วคือ การฆ่าตัวตายจะยังไงก็บาป แต่กับคุณก๊อป ผู้เขียนขอใช้คำว่าเข้าใจ แม้จะไม่สามารถบอกได้เลยว่าเห็นด้วยหรือไม่

นั่นเพราะคนรอบข้างได้พยายามอย่างสุดความสามารถในการช่วยเหลือประคับประคอง ส่วนคุณก๊อปเองก็ยื้อมายาวนานก่อนที่ตัดสินใจ และเลือกวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว

แต่กับคนที่ยังอยู่ หากคุณเป็นคนรอบข้างของคนที่คิดจะตาย อย่าซ้ำเติม อย่าตำหนิ กำลังใจสำคัญ ความช่วยเหลือสำคัญ ให้ได้ให้ก่อน

แต่ถ้าคุณเป็นฝ่ายอยากตาย อยากให้มองไปข้างหน้า ว่ายังเห็นความสุขอยู่บ้างไหม เห็นความหวังอยู่  บ้างไหม ไม่ต้องไกลมากก็ได้ แค่รอซีรีส์ที่ชอบ แค่รอภาพยนตร์ที่ชอบก็ยังดี และถ้ามองไปข้างหน้าไม่เห็นอะไร ลองมองไปข้างหลังว่ามีครอบครัวรออยู่ใช่ไหม มีอดีตที่เราเคยทำอะไรได้ดีไหม ไม่อย่างนั้นก็มองไปข้าง ๆ ว่ามีเพื่อนที่เป็นห่วง มีคนที่รัก ที่รอเราไปสร้างอนาคต หรือแม้แต่คนที่เราแอบชอบที่เขาอาจจะเหงาถ้าไม่มีเราไลน์ไปหา  ลองดูก่อน อะไรก็ได้ ขอให้นึกเสียว่าอย่างน้อยยังคงมีคนที่อยู่ข้างหลังที่เค้าอาจจะทุกข์ต่อการจากไปของเรา

ไม่มีใครที่อยากให้คนที่เรารักจากไป ถึงแม้ว่าการตัดสินใจนั้นได้ถูกคิดมาอย่างรอบคอบว่าดีกับทุกฝ่าย เป็นทางเลือกแล้วสู่การพ้นทุกข์ของคุณ  แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสำหรับคนที่ยังอยู่ คราบน้ำตาแห่งความเสียใจและความทุกข์ทนจากการสูญเสียจะยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิตของพวกเขา ในวันที่คุณไม่มีโอกาสได้เห็นอีกต่อไป.

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://www.gqthailand.com/life/article/the-right-to-die

https://hilight.kapook.com/view/184647

https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/100918.html

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 61

  • Ouikul
    ถ้ามีชีวิตอยู่อย่างทรมาน คงทุกข์แสนสาหัส บางครั้งก็ยอมตายดีกว่า เพราะค่ารักษาต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
    09 มี.ค. 2562 เวลา 14.19 น.
  • Samsam
    เจ้าตัวมีสิทธิเลือกที่จะอยู่หรือจะตาย
    08 มี.ค. 2562 เวลา 01.38 น.
  • เทวินทรา ทองเจริญทรั
    ผมเอง ที่ได้อ่านข่าวนี้และคิดว่าผมจะทำด้วย ผมปวดตัวมากๆแบบคุณก๊อป ตื่นขึ้นมาก็ปวดไปหมด นอนทรมานกับเบาะนอน ออกไปทำงานก็ต้องกินยาแก้ปวดแบบแรงทุกวัน ค่าใช้จ่ายเยอะ ฉีดยาทุกวัน ผมไม่ได้มีหนี้ เป็นเจ้าของกวดวิชา แต่ผมสงสารคนรอบข้างและสงสารตัวเองที่ต้องอดทนกับอะไรทั่ไม่มีวันหาย ผมเองก็ทนมา10ปีแล้ว อ่อนแรงทุกวัน ใจจะขาดเวลาทำงานเกิน4-5ชม. คนที่เขียนบทความ คุณไม่เข้าใจ คนที่ฆ่าตัวตายเพราะเขาอาจจะไม่มีทุนทรัพย์ไง ทางออกเลยเป็นการฆ่าตัวตายแบบทั่วไป
    08 มี.ค. 2562 เวลา 00.20 น.
  • Pomme
    ใครเขียนบทความนี้ครับ ผมว่าเป็นยกมุมมองที่บิดเบี้ยวมาก เคยสัมผัส ผู้ป่วยที่ต้องการรับการุณยฆาต มั้ยครับ อย่างใกล้ชิด ความกล้าหาญ ความอ่อนแอ ความทุกข์ของคนมันปะปนกันนะครับ อย่าดูแคลน ความกล้าที่จะเผชิญความตายของคุณก๊อป ด้วยมุมมอง ผิวเผิน ที่ไม่เข้าใจและไม่ได้สัมผัสความทุกข์ ทรมาน เลยครับ มันดูไม่ยุติธรรม กรณีนี้การตัดสินใจผ่านการไตร่ตรอง เป็นอย่างดี อาจจะหลายพันหลายหมื่นรอบ ไม่ใช่คนผิดหวังในความรักแล้วผูกคอตายนะครับ เคารพการตัดสินใจของเจ้าของสังขารอันทรมานเถอะครับ ทุกๆคนบนโลกใบนี้
    07 มี.ค. 2562 เวลา 16.38 น.
  • •Ä• メ3
    คนข้างหลังทุกข์ใจ? คุณก้อไปหาวิธีปลดทุกข์สิ จะให้คนป่วยทรมานเพื่อที่จะให้คนอื่นสุขใจงั้นหรอ? ตรรกะอะไรเนี้ย
    07 มี.ค. 2562 เวลา 16.15 น.
ดูทั้งหมด