“การุณยฆาต” ช่วยพ้นทุกข์กาย แต่ “คนข้างหลัง” ทุกข์ใจไม่แพ้กัน
ก่อนอื่นผู้เขียนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณก๊อปหนุ่มไทยที่ตัดสินใจเข้ารับการ“การุณยฆาต” ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งเป็นที่มาที่ไปให้เราต้องมาคุยกันในหัวข้อนี้ณที่นี้ด้วย
ผู้เขียนต้องการจะวิพากษ์เรื่องนี้เพื่อเป็นแนวทางให้กับคนที่ยังอยู่ในการตัดสินใจที่จะมีชีวิตอยู่ที่จะเห็นคุณค่าของชีวิตหรืออย่างน้อยที่สุดถ้ามีใครก็ตามที่คิดจะเลือกการการุณยฆาตผู้เขียนมองว่าบทความที่ท่านกำลังจะได้อ่านต่อไปนี้คือข้อมูลประกอบการตัดสินใจอีกชิ้นนึงและหากคุณเลือกที่จะทำแล้วนั่นเป็นสิทธิ์ของคุณไม่มีใครรุกล้ำได้
เช่นเดียวกับคุณก๊อป ที่แม้การตัดสินใจของเขาอาจค้านกับความรู้สึกของหลาย ๆ คน แต่ผู้เขียนเคารพในการตัดสินใจครั้งนี้และขอให้คุณก๊อปได้ไปอยู่ในภพภูมิที่ดีด้วย
เพราะบางครั้งการเผชิญหน้ากับความทุกข์ตอนมีชีวิตอยู่นั้นโดดเดี่ยวเกินไปสำหรับบางคนจริง ๆ
ทำไมการฆ่าตัวตายถึงบาปนัก
เช่นเดียวกับการทำแท้ง การฆ่าตัวตายเป็นสิ่งที่สังคมไทยประณามมาช้านาน เพราะเราเป็นเมืองพุทธ(หรืออย่างน้อยก็เป็นเมืองที่คนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ) ที่มีศีลข้อแรกคือการ "ห้ามฆ่าสัตว์" ดังนั้น "การฆ่าเด็กในท้อง" ที่ยังถือว่าบริสุทธิ์ไม่เคยสร้างกรรมก็บาป "การฆ่าตัวตาย" ก็บาป!
ศาสนาสอนเราว่า การเกิดเป็นมนุษย์มีค่า เพราะมันเกิดขึ้นได้ยากมาก ๆ ชนิดที่ในพระไตรปิฎก พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้นเปรียบได้กับ “มีมหาสมุทรแสนกว้างใหญ่ไพศาลอยู่แห่งหนึ่ง มองไปทางไหนก็ไม่เห็นฝั่ง ใต้มหาสมุทรแห่งนั้นมี “เต่า” ตาบอดอยู่ตัวหนึ่ง และเหนือผิวมหาสมุทรแห่งนั้นมี “ห่วง” อยู่อันหนึ่ง ร้อยปีเต่าตาบอดตัวนั้นจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำครั้งหนึ่ง แล้วหัวของเต่าสวมกับห่วงได้พอดี”
ตีเป็นเปอร์เซ็นต์คือ1 ในแสน1 ในล้าน
นอกจากเกิดมาได้ยากแล้ว มนุษย์ยังถือเป็นสัตว์ที่ประกอบกรรมดีได้มากกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นที่อยู่ไปตามเวรตามกรรม การฆ่าตัวตายจึงถือว่าลดโอกาสที่จะใช้กรรมที่ทำมา
ยิ่งไปกว่านั้นศาสนาพุทธให้ค่ากับความกตัญญู บุพการีต้องรักเรามากถึงจะเลี้ยงเรามาจนโต ต้องผ่านการฟูมฟักด้วยแรงกายแรงใจของคนในครอบครัว การฆ่าตัวตายจึงทำร้ายผู้คนเหล่านั้นโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ และถือเป็นการทำร้ายน้ำจิตน้ำใจของ ‘ผู้มีพระคุณ’ ซึ่งก็บาปหนักอีกเช่นกัน
มิหน้ำซ้ำ ในบางกรณีเจ้าตัวก็ไม่ได้ทุกข์ยากอะไรไปมากกว่าคนอื่นเลย เช่น หนี้เยอะ (คนเป็นหนี้กันค่อยประเทศ) อกหัก (โอยใครก็เจอ) ตกงาน (คนทำงานน่าจะเคยกันเยอะ) แต่ดันเลือกทางออกเป็นการฆ่าตัวตาย
อันนี้ส่วนตัวผู้เขียนสนับสนุน (อ้าว ทำไมก้าวร้าว) เพราะรู้สึกว่าถ้าปัญหาแค่นี้ก็ทำให้คุณไม่อยากอยู่ได้ นั่นแปลว่าภูมิต้านทานของคุณไม่พอเลย กับสังคมกำลังพัฒนาที่มีปัญหารอบด้านและทรัพยากรก็มีจำกัด ถ้าคุณไม่สามารถผ่านเรื่องราวที่เอาจริง ๆ แล้วก็แทบจะเป็นธรรมดาของชีวิตที่ไม่มีทางสมหวังไปทุกอย่าง คุณจะก็ทุกข์อยู่แบบนี้ไม่รู้จบ
ผู้เขียนเองออกจะโกรธแทนพ่อแม่คุณด้วยซ้ำ ที่คนที่รัก สิ่งที่มีหรือความสุขที่เรามีไม่อาจรั้งให้คุณเห็นค่าของตัวเองได้ แล้วจะขอตายเพราะบทเรียนบางบทที่ชีวิตกำลังสอนคุณเท่านั้น
แต่ในกรณีคุณก๊อป ผู้เขียนถึงกับอึ้งและไร้ความเห็นใด ๆ เพราะบทเรียนชีวิตที่เขาเผชิญมันทุกข์เกินจะพรรณนา
“เธอรู้หรือเปล่าความเหงากับความว่างเปล่าปวดร้าวเพียงใด”
“ เธอรู้หรือเปล่า? ว่ามันเจ็บปวดรวดร้าวและทรมานเมื่อรู้ว่าไม่มีใคร
เธอรู้หรือเปล่า ? ความเหงากับความว่างเปล่าปวดร้าวเพียงใด
เมื่อต้องคอยแต่คนที่ไม่มีวันกลับมา”
นี่คือบางช่วงบางตอนจากเพลง“เธอรู้หรือเปล่า” ผลงานของ “ใหม่เจริญปุระ” จากปลายปากกาของ “นิ่มสีฟ้า” ซึ่งคุณก๊อปไปขอเรียนกีต้าร์เพลงนี้จากครูยุทธผู้สอนกีต้าร์คลาสสิคเพื่อจะเล่นเพลงนี้เป็นแบบบรรเลงให้ได้ “ก่อนตาย” และยังเป็นเพลงที่อธิบายความขมขื่นที่คุณก๊อปต้องเผชิญได้เป็นอย่างดี
เขาพบ "เนื้องอกในสมอง" ตอนอายุราว 28 เป็นช่วงชีวิตที่กำลังสดใส กำลังจะได้ไปรับตำแหน่งที่ญี่ปุ่น แต่กลับต้องผ่าตัดรักษาแทน ตลอดระยะเวลา 10 ปีเขาเข้ารับการผ่าตัดสมองถึง 3 ซึ่งคุณก๊อปได้บรรยายเอาไว้ว่า “ ทรมานเหมือนอยู่ในนรก เจ็บปวดแสนสาหัสทุกครั้งที่ขยับตัว แต่ก็ต้องลุกขึ้นอาเจียนอยู่ตลอดเวลา ร้องไห้ทั้งยามหลับยามตื่น วันไหนที่ไม่เจ็บสัก 5 นาที เหมือนได้ขึ้นสวรรค์”
พอกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้เพียงอาทิตย์เดียว ก็พบว่าสมองติดเชื้อซ้ำไปอีก กลายเป็นต้องกลับมานอน รพ. เป็นเดือน ต้องเจาะน้ำไขสันหลังดูเป็นระยะจนบอบช้ำไปหมด
หมดค่ารักษาเฉียดล้าน เงินที่เก็บมาตลอดชีวิตไม่เหลือ และไม่เคยหายขาด ไม่ดีขึ้น!
จากหน้าที่การงานที่รุ่งโรจน์ เป็นคนมีความสามารถและเล่นดนตรีได้หลายอย่าง กลายเป็นคนที่ต้องออกจากงานเพราะโรคร้าย ต้องพึ่งพาครอบครัวให้หางานให้ ย่อมทำให้ชีวิตลูกผู้ชายต้องเจ็บปวดเป็นธรรมดา
เรื่องความรักที่เป็นที่มาของการเลือกเพลงนี้ คุณก๊อปมีคนรักที่ดีต่อกัน รักกันมานาน มีแผนการจะแต่งงานสร้างอนาคตร่วมกัน แต่เขาต้องปล่อยเธอไปเพราะไม่อยากให้เธอต้องใช้ชีวิตที่เหลือกับผู้ป่วยเรื้อรัง
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผู้ชายคนนี้ต้องแบกรับ
จริงอยู่ว่าคุณก๊อปมีครอบครัว มีคนรอบข้างที่น่ารัก แต่ความเจ็บปวดจากโรค เจ็บปวดจากการปล่อยมือคนรัก เจ็บปวดจากความรู้สึกผิดที่กลายเป็นภาระของครอบครัว คุณก๊อปต้องจัดการด้วยตัวเองคนเดียวไม่มีใครมาแบ่งเบาไปได้
ถ้าป่วยเดือนที่แล้ว การุณยฆาตเดือนนี้ยังถือว่ามีข้อกังขา แต่ระยะเวลานับ 10 ปีที่พยายามสู้มาตลอดก่อนจะตัดสินใจลาโลกไปอย่างมีการเตรียมการ มีระบบระเบียบมากแบบนี้ ผู้เขียนได้แต่บอกว่าคุณก๊อปได้พยายามถึงที่สุดแล้ว และมีแต่ความเสียดาย เสียใจกับครอบครัว
อย่างน้อยขอให้พยายาม
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วคือ การฆ่าตัวตายจะยังไงก็บาป แต่กับคุณก๊อป ผู้เขียนขอใช้คำว่าเข้าใจ แม้จะไม่สามารถบอกได้เลยว่าเห็นด้วยหรือไม่
นั่นเพราะคนรอบข้างได้พยายามอย่างสุดความสามารถในการช่วยเหลือประคับประคอง ส่วนคุณก๊อปเองก็ยื้อมายาวนานก่อนที่ตัดสินใจ และเลือกวิธีที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว
แต่กับคนที่ยังอยู่ หากคุณเป็นคนรอบข้างของคนที่คิดจะตาย อย่าซ้ำเติม อย่าตำหนิ กำลังใจสำคัญ ความช่วยเหลือสำคัญ ให้ได้ให้ก่อน
แต่ถ้าคุณเป็นฝ่ายอยากตาย อยากให้มองไปข้างหน้า ว่ายังเห็นความสุขอยู่บ้างไหม เห็นความหวังอยู่ บ้างไหม ไม่ต้องไกลมากก็ได้ แค่รอซีรีส์ที่ชอบ แค่รอภาพยนตร์ที่ชอบก็ยังดี และถ้ามองไปข้างหน้าไม่เห็นอะไร ลองมองไปข้างหลังว่ามีครอบครัวรออยู่ใช่ไหม มีอดีตที่เราเคยทำอะไรได้ดีไหม ไม่อย่างนั้นก็มองไปข้าง ๆ ว่ามีเพื่อนที่เป็นห่วง มีคนที่รัก ที่รอเราไปสร้างอนาคต หรือแม้แต่คนที่เราแอบชอบที่เขาอาจจะเหงาถ้าไม่มีเราไลน์ไปหา ลองดูก่อน อะไรก็ได้ ขอให้นึกเสียว่าอย่างน้อยยังคงมีคนที่อยู่ข้างหลังที่เค้าอาจจะทุกข์ต่อการจากไปของเรา
ไม่มีใครที่อยากให้คนที่เรารักจากไป ถึงแม้ว่าการตัดสินใจนั้นได้ถูกคิดมาอย่างรอบคอบว่าดีกับทุกฝ่าย เป็นทางเลือกแล้วสู่การพ้นทุกข์ของคุณ แต่ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าสำหรับคนที่ยังอยู่ คราบน้ำตาแห่งความเสียใจและความทุกข์ทนจากการสูญเสียจะยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิตของพวกเขา ในวันที่คุณไม่มีโอกาสได้เห็นอีกต่อไป.
ขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.gqthailand.com/life/article/the-right-to-die
https://hilight.kapook.com/view/184647
https://goodlifeupdate.com/healthy-mind/100918.html
ความเห็น 61
Ouikul
ถ้ามีชีวิตอยู่อย่างทรมาน คงทุกข์แสนสาหัส บางครั้งก็ยอมตายดีกว่า เพราะค่ารักษาต่อครั้งไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
09 มี.ค. 2562 เวลา 14.19 น.
Samsam
เจ้าตัวมีสิทธิเลือกที่จะอยู่หรือจะตาย
08 มี.ค. 2562 เวลา 01.38 น.
เทวินทรา ทองเจริญทรั
ผมเอง ที่ได้อ่านข่าวนี้และคิดว่าผมจะทำด้วย
ผมปวดตัวมากๆแบบคุณก๊อป ตื่นขึ้นมาก็ปวดไปหมด นอนทรมานกับเบาะนอน ออกไปทำงานก็ต้องกินยาแก้ปวดแบบแรงทุกวัน ค่าใช้จ่ายเยอะ ฉีดยาทุกวัน ผมไม่ได้มีหนี้ เป็นเจ้าของกวดวิชา แต่ผมสงสารคนรอบข้างและสงสารตัวเองที่ต้องอดทนกับอะไรทั่ไม่มีวันหาย ผมเองก็ทนมา10ปีแล้ว อ่อนแรงทุกวัน ใจจะขาดเวลาทำงานเกิน4-5ชม. คนที่เขียนบทความ คุณไม่เข้าใจ คนที่ฆ่าตัวตายเพราะเขาอาจจะไม่มีทุนทรัพย์ไง ทางออกเลยเป็นการฆ่าตัวตายแบบทั่วไป
08 มี.ค. 2562 เวลา 00.20 น.
Pomme
ใครเขียนบทความนี้ครับ ผมว่าเป็นยกมุมมองที่บิดเบี้ยวมาก
เคยสัมผัส ผู้ป่วยที่ต้องการรับการุณยฆาต มั้ยครับ อย่างใกล้ชิด
ความกล้าหาญ ความอ่อนแอ ความทุกข์ของคนมันปะปนกันนะครับ อย่าดูแคลน ความกล้าที่จะเผชิญความตายของคุณก๊อป ด้วยมุมมอง ผิวเผิน ที่ไม่เข้าใจและไม่ได้สัมผัสความทุกข์ ทรมาน เลยครับ มันดูไม่ยุติธรรม กรณีนี้การตัดสินใจผ่านการไตร่ตรอง
เป็นอย่างดี อาจจะหลายพันหลายหมื่นรอบ ไม่ใช่คนผิดหวังในความรักแล้วผูกคอตายนะครับ เคารพการตัดสินใจของเจ้าของสังขารอันทรมานเถอะครับ ทุกๆคนบนโลกใบนี้
07 มี.ค. 2562 เวลา 16.38 น.
•Ä• メ3
คนข้างหลังทุกข์ใจ? คุณก้อไปหาวิธีปลดทุกข์สิ จะให้คนป่วยทรมานเพื่อที่จะให้คนอื่นสุขใจงั้นหรอ? ตรรกะอะไรเนี้ย
07 มี.ค. 2562 เวลา 16.15 น.
ดูทั้งหมด