โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

รร.ชี้แจงประเด็นดราม่า ครูทวงค่าเทอมเด็ก ป.3 จนเดินร้องไห้ออกจากห้องสอบ

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 12 ต.ค. 2565 เวลา 07.35 น. • เผยแพร่ 12 ต.ค. 2565 เวลา 07.09 น.

โรงเรียนชี้แจงหลังมีประเด็นดราม่า ครูทวงค่าเทอมเด็ก ป.3 จนเดินร้องไห้ออกจากห้องสอบ คาดน่าจะเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ผู้ใช้งานเฟซบุ๊กรายหนึ่งได้ออกมาโพสต์ถึงหลานสาวของตนเอง ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.3 ต้องออกจากห้องสอบทั้งน้ำตา เนื่องจากครูไม่ให้สอบเพราะค้างค่าเทอม ทางคุณแม่เองก็ข้อร้องว่า ช่วงเย็นจะหาเงินไปจ่ายค่าเทอมให้แต่ครูก็ไม่ยอม บอกว่าหาเงินมาจ่ายค่อยมาสอบ ทำให้หลานสาวจ้องเดินออกจากห้องสอบทั้งน้ำตา ทำให้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์

รร.ชี้แจงประเด็นดราม่า ครูทวงค่าเทอมเด็ก ป.3 จนเดินร้องไห้ออกจากห้องสอบ
รร.ชี้แจงประเด็นดราม่า ครูทวงค่าเทอมเด็ก ป.3 จนเดินร้องไห้ออกจากห้องสอบ

โดยทางผู้โพสต์เล่าเพิ่มเติมว่า ช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค. 2565 แม่ของเด็กได้ไปส่งเข้าห้องสอบ และได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ห้องธุรการเรื่องการผ่อนผันจ่ายค่าเทอม ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าถ้ายังไม่มีเงินมาชำระให้มาสอบใหม่ในวันถัดไป ประกอบกับพ่อของเด็กต้องรีบไปทำงาน จึงได้โทรหาแม่ของเด็ก แล้วทางแม่จึงติดต่อมาทางตน หลังทราบเรื่องตนเองจึงรีบมารับหลานโดยได้แจ้งทางห้องธุรการว่าจะรับเด็กกลับบ้าน ก่อนจะเห็นหลานเดินร้องไห้ลงมาจากอาคารเรียน ทำให้รู้สึกหดหู่ร้องไห้ตามไปด้วย จึงได้ตัดสินใจโพสต์ข้อความดังกล่าว

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 11 ต.ค. 2565 ทางคณะผู้บริหารของโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และผู้ปกครองของเด็กนักเรียน ได้ร่วมพูดคุยถึงปัญหาและสาเหตุที่เกิดขึ้น กระทั่งเข้าใจว่าอาจมีการสื่อสารที่คลาดเคลื่อน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน โดยทางโรงเรียนนั้นมีนโยบายในการทวงถามค่าเทอมอยู่แล้ว แต่นโยบายที่ไม่ให้เด็กเข้าห้องสอบไม่เคยมีปรากฏ หลังจากการพูดคุยตนเข้าใจ ทางผู้ปกครองก็ได้ขอโทษโรงเรียนแล้วด้วย ขณะที่สภาพจิตใจเด็กหลังจากที่ได้เข้าห้องสอบแล้วก็ร่าเริงปกติ

นอกจากนี้ ผู้อำนวยการโรงเรียน กล่าวว่า สอบถามครูประจำชั้นของเด็กแล้ว ยอมรับมีการทวงถามเรื่องค่าเทอมจริง แต่ไม่มีการสั่งไม่ให้เด็กเข้าห้องสอบ ทั้งนี้ เกิดจากความเข้าใจคลาดเคลื่อนของผู้ปกครอง ซึ่งทางโรงเรียนเข้าใจและจะนำบทเรียนครั้งนี้ไปปรับปรุงเพื่อเป็นนโยบายต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0