โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

แรงงานในเอเชียแปซิฟิกเชื่อองค์กรจะไปไม่รอดใน 10 ปีหน้า เตือนเจ้าของธุรกิจรีบรับมือ

BTimes

อัพเดต 26 มิ.ย. 2566 เวลา 16.25 น. • เผยแพร่ 26 มิ.ย. 2566 เวลา 09.42 น. • BTimes.Biz

บริษัทไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ หรือ PwC เปิดเผยรายงานผลสำรวจ Asia Pacific Workforce Hopes and Fears Survey ประจำปี 2566 พบว่า 39% เชื่อว่า องค์กรที่ตนทำงานอยู่จะไม่สามารถอยู่รอดได้มากกว่า 10 ปี หากยังยึดติดกับการทำธุรกิจในรูปแบบเดิม ขณะที่ 53% ของซีอีโอในภูมิภาค มีความคิดเห็นเช่นเดียวกันในรายงานผลสำรวจซีอีโอ ประจำปี 2566 ซึ่งถือเป็นการยืนยันว่า ผู้นำธุรกิจจะต้องเร่งสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว เพื่อแก้ไขปัญหาด้านบุคลากร

ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ เปิดเผยว่า ผลสำรวจยังระบุ 6 ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนความพร้อมในการปรับสร้างองค์กรในรูปแบบใหม่ ประกอบไปด้วย ความอยู่รอดของธุรกิจ ความรู้สึกของพนักงาน ทักษะกำลังแรงงาน เทคโนโลยีใหม่ สภาพแวดล้อมการทำงาน และการดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ ผลลัพธ์เหล่านี้ ถือเป็นเครื่องเตือนใจสำหรับบริษัทต่างๆ ทั่วทั้งภูมิภาค ซึ่งหลายแห่งกำลังต่อสู้กับปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะและความสามารถมานานหลายปี

ผลสำรวจยังพบว่า ประมาณ 30% ของผู้ตอบแบบสำรวจกล่าวว่า พวกเขามีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนงานในอีก 12 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้น 10% จากปี 2565 โดยจำนวนผู้ที่ต้องการลาออกนั้น สูงขึ้นในกลุ่มคนรุ่นใหม่ (เจนซี และมิลเลนเนียล) พนักงานระดับอาวุโส และพนักงานที่ทำงานในองค์กรขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ประมาณ 40% ยังมีแนวโน้มที่จะขอขึ้นเงินเดือน หรือเลื่อนตำแหน่งภายในระยะเวลาเดียวกัน

พนักงานที่ตอบแบบสำรวจมีเพียง 44% ที่เชื่อว่า ทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานจะมีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญภายในอีก 5 ปีข้างหน้า และมีเพียง 48% เท่านั้นที่เข้าใจอย่างชัดเจนว่าจะเปลี่ยนไปอย่างไร ซึ่งหากพนักงานไม่เตรียมตัวหรือเข้าใจว่าข้อกำหนดในการทำงานนั้นอาจเปลี่ยนไป พวกเขาก็จะไม่สามารถเตรียมตัวเพื่อรับมือกับอนาคตได้อย่างเพียงพอ

ทั้งนี้ พนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกได้จัดอันดับให้ทักษะด้านบุคลากร เช่น ความสามารถในการปรับตัว/ความยืดหยุ่น (69%) การทำงานร่วมกัน (67%) และการคิดวิเคราะห์ (66%) อยู่เหนือทักษะด้านเทคนิค หรือธุรกิจหลัก อย่างไรก็ตาม ยังมีทักษะอื่นๆ ที่ซ่อนเร้นอยู่ โดยน้อยกว่าครึ่ง (48%) รู้สึกว่า นายจ้างให้โอกาสตนในการใช้ทักษะอย่างมีประสิทธิภาพในอีก 5 ปีข้างหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่า กำลังแรงงานอาจมีทักษะที่ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้

จากผลสำรวจพบว่า แรงงานทั่วทั้งภูมิภาคเข้าใจถึงประโยชน์ของเอไอ โดย 41% กล่าวว่า เอไอจะช่วยเพิ่มความสามารถในการผลิตและประสิทธิภาพในการทำงาน และ 34% มองว่า เป็นโอกาสในการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ แต่ 22% ยังขาดความมั่นใจในการเสริมสร้างทักษะที่เกี่ยวกับเอไอ นอกจากนี้ 16% ของผู้ตอบแบบสำรวจเชื่อว่า เอไอจะเข้ามาทดแทนงานของพวกเขา ขณะที่แรงงานในอัตราร้อยละที่เท่ากันก็รู้สึกว่า เอไอจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ

กลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เทคโนโลยี สื่อและโทรคมนาคม ตลอดจนบริการทางการเงิน มองเห็นศักยภาพสูงสุดในการปรับปรุงความสามารถในการผลิตด้วยเอไอ ขณะที่พนักงานในกลุ่มสุขภาพและภาครัฐมีความมั่นใจสูงสุดว่า เอไอจะไม่เข้ามาทดแทนบทบาทหน้าที่ใดๆ ของตน

ในขณะที่กำลังแรงงานยังคงมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมีทัศนคติที่เปลี่ยนไป การเป็นผู้นำในรูปแบบใหม่จึงมีความจำเป็นต่อการนำพาองค์กรไปสู่เส้นทางแห่งการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ทั้งนี้ รายงานของเรา ได้นำเสนอข้อควรพิจารณาหลายประการสำหรับนายจ้างและผู้นำองค์กรในการทำความเข้าใจบุคลากรของตนให้ดีขึ้น ปลดล็อกความสามารถให้เพิ่มขึ้น และบรรลุเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น

ทั้งนี้ บริษัทไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ หรือ PwC เปิดเผยรายงานผลสำรวจ Asia Pacific Workforce Hopes and Fears Survey ประจำปี 2566 ทำการสำรวจดังกล่าวรวบรวมความคิดเห็นของพนักงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกว่า 19,500 คน

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...