โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

ชีวิตมีเรื่องเล่า : อาชีพในฝัน โอกาส และ ทางเลือก (dream jobs, Oppotunity and Choice) - คนคอม

LINE TODAY SHOWCASE

เผยแพร่ 16 ส.ค. 2565 เวลา 10.24 น. • คนคอม

ตั้งแต่เริ่มจำความได้ เด็กน้อยเติบโตมาในห้องแถวไม้ ขายกาแฟอยุ่หลังสถานีรถไฟบ้านหมอ ทุกๆวัน ต้องตื่นแต่ตี 4 ครึ่ง เพื่อเดินไปเอาปาท่องโก๋จากกู๋ล้งมาขายคู่กับกาแฟ กู๋ล้งเป็นน้องชายของแม่ ขายกาแฟเหมือนกัน อยู่ในตลาด ฝั่งตรงข้ามหน้าสถานีรถไฟ ไกลออกไปประมาณ 500 เมตร

กู๋ล้งทำปาท่องโก๋ขายด้วย เลยไปรับมา 10 คู่ ราคา 8 บาท ขายหมดได้กำไร 2 บาท ซึ่งเด็กน้อยคิดว่าไม่คุ้ม แต่พ่อกับแม่ได้บอกว่า ความคุ้มไม่ได้อยู่ที่ปาท่องโก๋ แต่อยู่ที่เรามีลูกค้าขาประจำ ที่เขาชอบกินปาท่องโก๋ อย่างน้อย ทำให้เราได้ลูกค้าสม่ำเสมอในทุกวัน

เมื่อกลับมาบ้าน เด็กน้อยก็ช่วยขายของ นั่งฟังลูกค้าประจำคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ ดูรถไฟคันแล้วคันเล่ามาจอดแล้วก็ไป ในแต่ละวันมีเรื่องให้ได้ฟังและตื่นเต้นเป็นระยะๆ ข้อดีของร้านกาแฟคือ ได้ยินทุกเรื่อง ทั้งเรื่องของชาวบ้าน เศรษฐกิจ การเมือง ได้แง่มุมการคิดของท่านผู้มีอาวุโส ซึ่งเด็กน้อยก็ชอบฟังมาก

เพราะท่านๆ มีการใส่อารมณ์ลงไปในข่าวพวกนั้นด้วย โดยที่แต่ละคนมีอาชีพแตกต่างกัน วิธีคิดก็แตกต่างกัน ในมุมมองของแต่ละคน ความฝันของเด็กน้อยในสมัยนั้น คืออยากมีร้านกาแฟ ขนาดที่ใหญ่ขึ้น มีของที่ครบ ที่พร้อมจะขายให้ลูกค้า และมีการทำปาท่องโก๋ ด้วยวิธีการสมัยใหม่ ที่รวดเร็ว มีความสะดวก

ในการผลิต ไม่ใช่ระดมทำทุกเช้า แล้วขายไปทั้งวัน แต่ก็คือความฝัน

หลังจากจบ ม.ศ.3 ระหว่างนั้นยังลังเลที่จะเรียนต่อในสายวิทย์ หรือจะไปเรียนในสายศิลป์ จุดที่ทำให้คิดอยากไปสายศิลป์คือ ระหว่างที่สอบปลายภาคของ ม.ศ.3 เสร็จ ก่อนไปรับใบเกรด หนุ่มน้อยนั่งอยู่ที่ร้านกาแฟหลังสถานีรถไฟ แล้วเจอข้าราชการท่านหนึ่ง ซึ่งพี่สาวบอกว่า เป็นปลัดอำเภอ เดินมาเรียกหนุ่มน้อยให้ไปตามเสมียนที่

ที่ว่าการอำเภอให้ หนุ่มน้อยเอง ไม่ได้เรียนที่บ้านเกิด เลยไม่คุ้นกับอำเภอ เลยบอกไม่รู้จัก แล้วท่านนั้นก็โกรธ ชี้หน้าหนุ่มน้อย ก่อนหันไปสั่งคนอื่นต่อ ทำให้หนุ่มน้อยอยากกลับมาเป็นใหญ่เป็นโตที่บ้าน เลยสมัครสอบสายศิลป์ ส่วนสายวิทย์ได้อยู่แล้ว เนื่องจากเกรดสูง ตอนนั้นสอบได้ลำดับที่ 6 ของสายศิลป์

คุณครูแนะแนว บอกให้คิดดีๆ ก็เลยตัดสินใจเรียนสายวิทย์ต่อ ส่วนเพื่อนสนิท 3 คนทั้งมนูญ วิชัย พร้อมพงษ์ ลาออกไปเรียนสาธิตจุฬาภาคค่ำ ส่วนหนุ่มน้อยไม่ได้ไป เพราะไม่มีเงินไปอยู่กรุงเทพฯ หลังสอบเอนทรานซ์ มนุญติดแพทย์ชนบท วิชัยติดแพทย์ขอนแก่น พร้อมพงษ์ติดเภสัชจุฬา ส่วนหนุ่มน้อยติดคณะวิทย์ มช.

จริงๆ ตอนมศ.3 หนุ่มน้อยเรียนเก่งสุดในกลุ่ม แต่ทำไมติดคณะวิทย์ น่าจะเพราะขาดโอกาสในการไปเรียนในระดับ มศ.4-5 ที่กรุงเทพ มีการแข่งขันสูง ทุกคนมีตำราและความขยันแตกต่างจากสังคมการเรียนที่หนุ่มน้อยอยู่ แต่ถึงแม้จะได้เรียนคณะวิทย์ หนุ่มน้อยก็ไม่คิดอะไร คิดแต่ว่า เรียนให้จบแล้วมีงานทำ

ตอนนั้น คณะสายสุขภาพไมได้อยู่ในหัวเลย รู้แต่ชอบคณิตศาสตร์ คงเลือกเฉพาะคณะวิศวกรรม หรือคณะวิทยาศาสตร์เท่านั้น จริงๆเพื่อนทั้ง 3 ก็อยากให้สอบเอนทรานซ์ใหม่ แต่หนุ่มน้อยตัดสินใจแล้ว เดินหน้าอย่างเดียว ถ้าถามว่า ย้อนเวลาได้ อยากสอบใหม่มั้ย ก็ยืนยันเหมือนเดิมว่า ไม่ เพราะเราไม่จำเป็น

ต้องย้อนไปเลือก สิ่งที่ได้ เราก็เลือกไว้อยู่แล้ว แต่ทำอย่างไร ให้สามารถจบมา มีอาชีพ หาเงินเลี้ยงครอบครัวได้ ดีซะอีก เราได้พิสูจน์แล้วว่า ทุกสาขาอาชีพ เราสามารถทำให้ดีได้ถ้าเรามีเป้าหมายและตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด

-----------------------------------

ปล. เมื่อเราเลือกอะไรแล้ว เราต้องมั่นใจในสิ่งที่เลือก ไม่ใช่เพราะคนรอบข้าง เพื่อน คุณครูที่ปรึกษา ครอบครัว หรือโรงเรียน ทุกอย่างเราเลือกเองได้ กำหนดเองได้ อย่าไปโทษคนอื่น เราได้ดีหรือแย่ลง อยู่ที่ตัวเราเสมอครับ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0