Samsung จัดงาน Samsung Galaxy Unpacked 2025 เปิดตัว Galaxy S25 Series เล่นใหญ่ยกระดับฟีเจอร์ AI มาอัพเดตเพิ่มเติมเพียบ พร้อมเป็นผู้ช่วยส่วนตัวในทุกสถานการณ์
วันที่ 23 มกราคม 2567 จบไปเป็นที่เรียบร้อยกับอีก 1 อีเวนท์ใหญ่ประจำปีอย่าง Samsung Galaxy Unpacked 2025 ขึ้น ณ เมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว Samsung Galaxy S25 Series ที่ไฮไลท์สำคัญในครั้งนี้ Samsung ยังเลือกสานต่อกับการเดินหน้าเป็นสมาร์ทโฟนแห่งยุค AI โดยได้มีการเพิ่มฟีเจอร์ใหม่จาก Galaxy AI ต่อยอดจากเดิมเพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานจากที่เคยเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วให้ดียิ่งขึ้น
ในครั้งนี้ การเงินธนาคาร ก็ไม่พลาดที่จะสรุปประเด็นสำคัญของ Samsung Galaxy S25 Series ว่ามีการอัพเดทอะไรที่น่าสนใจเพิ่มเติมบ้างมาฝากไว้เช่นเคย
เริ่มตัวการอัพเดตฟีเจอร์ใหม่จาก Galaxy AI ที่ถือเป็นไฮไลท์หลักของงาน Samsung Galaxy Unpacked 2025 ในครั้งนี้เลยก็ว่าได้ โดยภาพรวมของการอัพเดตในส่วนของการใช้งานฟีเจอร์ AI ในครั้งนี้ Samsung เลือกต่อยอดฟีเจอร์ที่เน้นไปที่การยกระดับประสบการณ์การใช้งาน AI เพื่อเพิ่มมีความสะดวกสบาย และเข้ามาช่วยจัดการไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวันมากขึ้นดังนี้
New Brief
ผู้ช่วยอัจฉริยะ ที่ในครั้งนี้ Galaxy AI จะเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของผู้ใช้ เพื่อช่วยเหลือและปรับแต่งการใช้งานให้เหมาะสมกับผู้ใช้แต่ละคน โดยจะแสดงกิจกรรมที่ผู้ใช้ต้องการจะให้แสดงผ่าน New Bar บนหน้าจอ Lock Screen ไม่ว่าจะเป็น การแจ้งเตือนเวลาตามตารางงานในแต่ละเวลา แจ้งเตือนเหตุการณ์สำคัญในแต่ละวัน ไปจนถึงติดตามผลการแข่งขันกีฬาให้ก็ทำได้หากผู้ใช้ไม่มีเวลารับชมด้วยตนเอง
สั่งงาน Galaxy AI ด้วยเสียง
ในการอัพเดตครั้งนี้ ผู้ใช้สามารถคุยกับ AI โดยตรงได้แล้ว ใครหาอะไรในเครื่องไม่เจอ หรืออยากสั่งเปิดปิดฟังก์ชั่นไหน ก็สามารถพูดกับสมาร์ทโฟนได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามานั่งพิมพ์ถามแล้ว
Circle to SEARCH Overviews
อัพเดตฟีเจอร์ Circle to SEARCH ให้สามารถหาข้อมูลได้ละเอียดและแม่นยำมากขึ้น ใครที่ถนัดใช้ฟีเจอร์นี้มาตั้งแต่รุ่นก่อนน่าจะชื่นชอบกัน เพราะคราวนี้ยังเพิ่มความเร็วในการประมวลผลรูปที่ผู้ใช้วงเพื่อคนหาได้เร็วมากยิ่งขึ้น
Gemini Live
เป็นฟีเจอร์ที่ Samsung จับมือพัฒนาร่วมกับ Google โดยได้มีการนำ Generative AI อย่าง Gemini เข้ามาเป็นพื้นฐานการทำงานด้าน AI ของเครื่อง อีกทั้งฟีเจอร์ Gemini Live ยังทำหน้าที่เสมือนที่ปรึกษาส่วนตัว สามารถพูดคุยกับ Gemini ได้ด้วยภาษาธรรมชาติ โดยในงานได้มีการสาธิตว่าหากต้องการจะถ่ายรูปด้วยเทคนิคแบบโปรต้องทำอย่างไร ซึ่ง Gemini ก็สามารถให้คำปรึกษาได้เป็นอย่างดี ดูเป็นธรรมชาติ รียกได้ว่าเหมือนคุยกับ AI ในภาพยนตร์ Sci-fi เลยทีเดียว
Scene Detection
ในส่วนของการถ่ายภาพได้มีการนำ AI มาวิเคราะห์ฉากและวัตถุ เพื่อปรับแต่งการตั้งค่ากล้องให้เหมาะสมโดยอัตโนมัติ ซึ่งในโหมดภาพถ่ายบุคคลนั้น AI สามารถแยกการจับวัตถุได้ละเอียดถึงขั้นแยก สีผิว เส้นผม เครื่องแต่งกาย ออกจากกันเป็นแต่ละ Object ได้ หรือแม้กระทั่งช่วยทำให้ภาพถ่ายบุคคลออกมาดูดีที่สุด ถ่ายติดตอนหลับตา AI ก็ปรับแค่เฉพาะส่วนใบหน้าให้ลืมตาได้ด้วยนะ
Generative Edit
ในส่วนของการตกแต่งภาพก็อัพเดตมาให้ทำได้ดีและเนียนตามากยิ่งขึ้นไม่ว่าจะเป็นการลบวัตถุที่ไม่จำเป็นออกจากภาพ ตัดต่อวัตถุ ย้ายตำแหน่ง เปลี่ยนพื้นหลัง ไปจนถึงการนำสีและแสงจากภาพอื่นมาตกแต่งในภาพที่ต้องการก็ทำได้ และยังสามารถเพิ่มความละเอียดของภาพได้อีกด้วย
Nightography Video
ในครั้งนี้ได้มีการนำฟีเจอร์ Nightography ที่เป็นจุดเด่นด้านการถ่ายภาพในที่มืดของสมาร์ทโฟนจาก Samsung มาหลายรุ่น เข้ามาใช้ในงานวิดีโอแล้ว ไม่เพียงแค่ช่วยปรับภาพวิดีโอในที่แสงน้อยให้สวยงามยิ่งขึ้น แต่ยังสามารถใช้ AI ปรับแสงเฉพาะ Object ที่ต้องการได้อีกด้วย
A sound studio at your fingertips
เป็นอีกฟีเจอร์ด้านงานวิดีโอที่น่าสนใจไม่แพ้ฟีเจอร์อื่น โดยผู้ใช้สามารถใช้ AI เลือกตัดเสียงรบกวนได้เองตามใจ เช่นหากถ่ายวิดีโอที่ริมทะเล มีเสียงคลื่นดังเกินไป อยากจะเบาแค่เฉพาะเสียงคลื่นโดยคงเสียงบรรยากาศอื่นไว้ก็ทำได้
ใช้ Galaxy AI กับอุปกรณ์อื่น
ในครั้งนี้ Galaxy AI ใช้ร่วมกับอุปกรณ์อื่นที่ Ecosystem ของ Samsung ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Galaxy Watch, Galaxy Ring, Galaxy Buds หรืออุปกรณ์สมาร์ทโฮมจาก Samsung ที่สามารถเชื่อต่อแอปพลิเคชั่น SmartThings ได้ โดย AI จะเข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมส่วนตัวของผู้ใช้ ช่วยดูแลสุขภาพ ประเมินพลังงานที่ต้องใช้ต่อวันโดยวัดจากกิจกรรมที่ทำ หรือจะให้ AI ช่วยออกแบบมื๊ออาหารที่ให้พลังงานเพียงพอ โปรแกรมออกกำลังกาย ไปจนถึงปรับอุณหภูมิแอร์ให้เหมาะสมกับการนอนหลับมากที่สุด
นอกจากฟีเจอร์ด้าน AI แล้ว ในด้านของสเปคของ Samsung Galaxy S25 Series ก็ได้มีการอัพเกรดจากเดิมขึ้นมาหลายส่วนเช่นกัน
- มาพร้อมกับชิพเซ็ต Snapdragon 8 Elite FOR GALAXY ที่ลดขนาดลงเหลือแค่ 3 นาโนเมตร เป็นครั้งแรกทุกรุ่น
- เพิ่มความเร็วของหน่วยประมวลผล NPU 40%
- เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานทั่วไป 15%
- เพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกม โดยสามารถเพิ่ม FPS ได้มากขึ้น 18% และเพิ่มประสิทธิภาพการแสดงผลของ Ray Tracing 40%
- มี Vapor Chamber แบบใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 40% ช่วยให้เครื่องไม่ร้อนง่าย
- แบตเตอร์รี่อึดขึ้น สามารถรับชมวิดีโอได้นานสุดถึง 31 ชั่วโมง
- หน้าจอมีอัตรา Refresh Rate 120 hz ทุกรุ่น
- กระจกกันรอยแบบใหม่ Corning Gorilla Armor2
- ในรุ่น Ultra ยังได้เฟรมเครื่องเป็น Pure Titanium เช่นเคย
- ราคาเปิดตัวในไทยของ Samsung Galaxy S25, S25+ และ Ultra เริ่มต้นที่ 29,900 บาท, 36,900 บาท และ 46,900 บาท ตามลำดับ และเปิดจำหน่ายจริงในวันที่ 7 ก.พ.