โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

กลับบ้านเรา! พ่อแม่เศรษฐีไม่ย่อท้อ ตามหาลูก 25 ปี พบถูกขายให้เศรษฐีพันล้าน

Khaosod

อัพเดต 21 มิ.ย. 2565 เวลา 06.40 น. • เผยแพร่ 21 มิ.ย. 2565 เวลา 05.22 น.

กลับบ้านเรา! พ่อแม่เศรษฐีไม่ย่อท้อ ตามหาลูกชายมา 25 ปี พบถูกลักพาตัวไปขายให้มหาเศรษฐีพันล้าน ชาวเน็ตอึ้งดวงเกิดมารวยที่แท้จริง

ด้วยความก้าวหน้าของการต่อต้านการค้ามนุษย์ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เด็กที่ถูกลักพาตัวในจีนแผ่นดินใหญ่ได้กลับมาหาพ่อแม่มากขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดกระแสไวรัลในโลกออนไลน์กำลังฮือฮาถึงคดีค้นหาครอบครัวที่ไม่เหมือนใคร หนุ่มถูกลักพาไปตัวขายให้กับมหาเศรษฐีในฐานะลูกชายบุญธรรมนานนับ 25 ปี ก่อนจะตามหาครอบครัวที่แท้จริงจนเจอ ซึ่งทำชาวเน็ตตะลึง น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นคือ ครอบครัวทางสายเลือดคือ ตระกูลเก่าแก่ที่เป็นเศรษฐีเช่นกัน

ตามรายงานของสื่อท้องถิ่น เหมย จื้อเฉียง เมื่ออายุเพียง 2 ปี 4 เดือน หายตัวไปในเมืองคุนหมิง มณฑลยูนนานในวันที่ 23 กรกฎาคม 1997 พ่อแม่ต่างใจสลายจึงไม่ลังเลเลยที่จะทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อลงโฆษณาและค้นหาเบาะแสเกี่ยวกับลูกชายแต่ไม่มีข่าวคราวมา 25 ปี แต่พวกเขาไม่เคยละทิ้งความหวังริบหรี่

ภาพจาก Weibo

อย่างไรก็ตาม ในเดือนเมษายนปีนี้ มีพลเมืองดีแจ้งเบาะแสเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข่าวดีให้กับทางครอบครัว โดยเจ้าหน้าที่พบที่อยู่ของเหมย จื้อเฉียงที่มีลักษณะคล้ายกับคนที่ตามหา ซึ่งเจ้าหน้าที่ทำการทดสอบดีเอ็นเอสองครั้งในวันที่ 10 และ 15 พฤษภาคม พร้อมได้รับการยืนยันว่าชายคนนี้คือ เด็กที่หายตัวไป

ด้วยความช่วยเหลือของผู้คนมากมายและเจ้าหน้าที่ตำรวจ หนุ่มได้พบกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดอีกครั้งในเมืองผู่เถียน มณฑลฝูเจี้ยนเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน ซึ่งพ่อแม่ต่างร้องไห้ด้วยความดีใจ หลังข่าวถูกเปิดเผย แม้ว่าเขาจะสวมเสื้อผ้าเรียบง่ายในวันที่พวกเขาพบกัน แต่บางคนสังเกตเห็นว่านาฬิกาบนข้อมือของเหมย จื้อเฉียงนั้นคือนาฬิกาแบรนด์หรู Rolex รุ่นลิมิเต็ดมีมูลค่ามากกว่าหมื่นหยวน

ภาพจาก Weibo

พบว่าครอบครัวบุญธรรมมีทรัพย์สินทางการเงินที่มีข่าวลือว่ามูลค่าสุทธิเกิน 100 ล้านหยวนในการบริหารโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งพลเมืองดีที่เข้าช่วยเหลือกล่าวว่าไม่ว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจจะดีแค่ไหน มันก็ไม่สามารถปิดบังความจริงของอาชญากรรมที่รับซื้อเด็กมาเลี้ยงไม่ได้

แน่นอนว่าครอบครัวแท้ ๆ ของเขาก็ร่ำรวยไม่แพ้กัน บริษัทที่ดำเนินการโดยพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด เรียกว่า "Yunnan Jianwei Hotel Supplies Co., Ltd." บริษัทมีทุนจดทะเบียน 1 ล้านหยวน ซึ่งพ่อเป็นหัวหน้างานของบริษัท แม่เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้รับผลประโยชน์สูงสุดและทำหน้าที่เป็นผู้จัดการทั่วไป

ชาวเน็ตต่างพากันตาร้อน "พ่อแม่นับพัน พ่อแม่บุญธรรมนับร้อยล้าน ชีวิตนี้มันอะไรกัน" "เกิดมารวยและมีค่า" "มหาเศรษฐีพบผู้ค้ามนุษย์เพื่อซื้อลูกชายที่ถูกลักพาตัวไปของครอบครัวเศรษฐี" "การลักพาตัว และการขายลูก การซื้อ-ขาย ก็เป็นอาชญากรรมแบบเดียวกัน" เรียกได้ว่า วาสนานี้แข่งกันไม่ได้จริง ๆ พร้อมเรียกหนุ่มว่าคนรุ่นที่สองที่ร่ำรวยแต่กำเนิด

ภาพจาก Weibo

อย่างไรก็ตาม วิธีที่เหมยจื้อเฉียงเลือกระหว่างครอบครัวของอุปถัมภ์ที่อาศัยอยู่มานานกว่า 20 ปีกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดของเขากลายเป็นประเด็นร้อนในหมู่ชาวเน็ต พ่อของเด็กหนุ่มไม่เคยเต็มใจที่จะเรียกผู้ซื้อว่า "พ่อแม่อุปถัมภ์" พร้อมพูดคุยกับเหมยจื้อเฉียงเกี่ยวกับเรื่องนี้อย่างละเอียดและบอกเขาอย่างจริงจังว่า ต้องเข้าใจการสูญเสียพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด ความเจ็บปวด และความยากลำบากในการตามหา

พ่อทำการตอบกลับข่าวบนอินเทอร์เน็ตว่า“ไม่ว่าพวกเขาจะมีเงินเท่าไหร่ ผมไม่ต้องการสิ่งของของพวกเขา ผมแค่ต้องการเหม่ยจื้อเฉียงของผมคืน ครอบครัวของเรามีความสุขมากกว่าการกลับมาพบกันอีกครั้ง” ก่อนหน้านี้มีข่าวลือทางอินเทอร์เน็ตว่าครอบครัวอุปถัมภ์รับซื้อเด็กอีก 2 คนด้วย แต่ขณะนี้ยังไม่ทราบหลักฐาน ส่วนผู้ซื้อมีส่วนในการลักพาตัวเด็กหรือไม่ ทั้งนี้ผลการสอบสวนของหน่วยงานความมั่นคงสาธารณะยังอยู่ระหว่างการพิจารณา

ภาพจาก Weibo

เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา เหมยจื้อเฉียงเปิดเผยว่าเขาตัดสินใจกลับไปหาพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด โดยพ่อกล่าวในไลฟ์สดว่า "เขารู้ว่าพ่อแม่ของเขาตามหาเขาอย่างไม่ย่อท้ออย่างไร รู้ความพยายามของเราตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขาเป็นคนมีเหตุมีผลและมีมารยาทดี เขาจึงกลับมากับเราในตอนเย็น วันนี้เป็นวันพ่อ เขาส่งช่อดอกไม้มาให้ผมและเรียกผมว่าพ่อ ผมก็น้ำตาไหลทันที นี่คือของขวัญที่ดีที่สุดที่ผมได้รับในวันพ่อ"

เหม่ยจื้อเฉียง ยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนและสิ่งของในท้องถิ่น แต่เขาเข้ากันได้ดีกับครอบครัวโดยเฉพาะน้องชายที่ร่าเริง ต่อไป พวกเขาวางแผนที่จะพาเหม่ยจื้อเฉียง กลับไปที่บ้านเกิดในฝูโจว มณฑลเจียงซี ปู่ย่าตายายและครอบครัวเกือบแปดสิบคนด้วย คิดถึงหลานมาหลายปี ในอนาคตครอบครัวของพวกเขาจะยังคงอาศัยอยู่ในคุนหมิงต่อไป

ขอบคุณที่มาจาก Ettoday

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...