โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"มข." ชู "เตียงอัจฉริยะ" เพื่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วยสูงวัย-เพิ่มรายได้ชุมชน

Thairath - ไทยรัฐออนไลน์

อัพเดต 03 เม.ย. 2567 เวลา 15.00 น. • เผยแพร่ 03 เม.ย. 2567 เวลา 15.01 น.
ภาพไฮไลต์

ม.ขอนแก่น (มข.) 3 คณะดัง ร่วมขับเคลื่อน นวัตกรรมเพื่อสังคม-เศรษฐกิจ ชูเทคโนโลยี "เตียงอัจฉริยะ" เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยสูงวัย-เพิ่มรายได้ให้ชุมชน รับเทรนด์สังคมสูงวัยในไทยพุ่ง 13 ล้านคน

วันที่ 3 เม.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่น นำโดย คณะ "เทคนิคการแพทย์-เศรษฐศาสตร์-สถาปัตยกรรมศาสตร์" ร่วมขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อสังคม สร้างงาน สร้างรายได้ รับเทรนด์สังคมสูงวัยในไทยพุ่ง 13 ล้านคน คาด ผู้ป่วยติดเตียงมี 1.3% หรือ 1.7 แสนคน ริเริ่ม "โครงการพัฒนาส่งเสริมการผลิตเตียงพลิกตัวต้นทุนต่ำสำหรับผู้ป่วยติดเตียงโดยชุมชน" นำร่องส่ง 5 เตียงต้นแบบสู่การใช้งานจริง 2 ชุมชน ตำบลบ้านโต้นและตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น พร้อมอัปเกรดเวอร์ชันใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้น เตรียมผลักดันสู่วิสาหกิจชุมชน ติวเข้มทักษะช่างพร้อมรับออเดอร์ผลิตเตียงที่เข้าใจผู้ป่วยและผู้ดูแลในราคาเอื้อมถึง

สถานการณ์ประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) โดยตัวเลขจากกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สะท้อนว่า ปี 2566 ประเทศไทยมีผู้สูงอายุ 13,064,929 คน คิดเป็น 20.8% ของประชากรทั้งประเทศ รวม 66,052,615 คน ในจำนวนนี้ เป็นผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียงมากถึง 174,409 คน คิดเป็น 1.3% ของผู้สูงอายุ (ที่เข้าระบบ) พร้อมคาดการณ์ว่า ในปี 2574 ประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุเพิ่มขึ้น 28.87% หรือ 18,000,000 คน และมีประชาชนป่วยติดเตียงเพิ่มขึ้น 234,000 คน (ไม่รวมผู้ป่วยนอกระบบ)

จากแนวโน้มดังกล่าวนำมาสู่การริเริ่ม "โครงการพัฒนาส่งเสริมการผลิตเตียงพลิกตัวต้นทุนต่ำสำหรับผู้ป่วยติดเตียงโดยชุมชน" โดย คณะเศรษฐศาสตร์ คณะเทคนิคการแพทย์ และคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งดำเนินการภายใต้โครงการ CIGUS (C-community, I-industry, G-government, U-university, S-society) ที่มีวัตถุประสงค์นำองค์ความรู้จากมหาวิทยาลัยเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในชุมชนในมิติสาธารณสุข สังคม และเศรษฐกิจ โดยมีพื้นที่นำร่องใน 2 ชุมชน ได้แก่ ตำบลบ้านโต้นและตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น

ศ.ดร.วิชัย อึงพินิจพงศ์ อาจารย์คณะเทคนิคการแพทย์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เปิดเผยความคืบหน้าของโครงการดังกล่าว ว่า โครงการนี้มีแนวคิดในการพัฒนาเตียงอัจฉริยะที่ช่วยลดแผลกดทับ โดยเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้ป่วยสูงวัยและผู้ดูแลคนป่วย พร้อมกับพัฒนาทักษะช่างให้สามารถนำมาพัฒนาต่อยอด สร้างงาน และสร้างรายได้เข้าสู่ชุมชน ทั้งนี้ได้ดำเนินการพัฒนาเตียงพลิกตัวและนำไปมอบให้กับเทศบาลตำบลบ้านโต้น จำนวน 3 เตียง และเทศบาลตำบลหนองแวง อีกจำนวน 2 เตียง พร้อมกับอบรมให้ความรู้และวิธีการใช้เตียงพลิกตัวอย่างถูกต้อง โดยภายหลังการติดตามการใช้งานพบว่า เตียงช่วยพลิกตัวและลดแผลกดทับนี้นำมาซึ่งประโยชน์ทั้งผู้ป่วย ผู้ดูแล และชุมชน โดยประโยชน์ของเตียงพลิกตัวจะช่วยป้องกันแผลกดทับในผู้ป่วยที่ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงวัยอายุ 60 ปีขึ้นไป รวมถึงคนป่วยที่มีภาวะอ่อนแรงไม่สามารถพลิกตัวเองไม่ได้ เพราะเตียงนี้แค่กดปุ่มก็ตะแคงได้ ผู้ดูแลจะทำงานง่ายขึ้น หรือถ้าไม่มีคนดูแล ผู้ป่วยก็กดปุ่มแล้วเตียงตะแคงเองได้

ส่วนผู้ดูแลที่อาจเป็นญาติ และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) รวมถึงผู้ดูแล Caregiver เตียงอัจฉริยะนี้จะช่วยลดระยะเวลาในการดูแลผู้ป่วยลง ทำให้ไม่เป็นภาระมากจนเกินไป และสามารถนำเวลาส่วนนี้ไปทำประโยชน์และสร้างรายได้จากงานส่วนอื่นๆ

"ในสองตำบลนี้ มีผู้ป่วยติดเตียง 22 คน แต่ในช่วงแรกนี้สามารถจัดหาเตียงให้กับผู้ป่วยติดเตียง 5 คนเท่านั้น ซึ่งอนาคตคาดว่าผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้น โดยแบ่งได้เป็นผู้สูงอายุที่แข็งแรง 80% อีก 10% เป็นภาวะอ่อนแรง แล้วก็อีก 10% ติดเตียงช่วยเหลือตัวเองไม่ได้" ศ.ดร.วิชัย กล่าว

ขณะที่ในมิติของชุมชน เตียงพลิกตัวนี้จะช่วยให้ชุมชนสามารถมีรายได้จากการผลิตเตียง โดยนำแบบที่พัฒนาโดยคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ไปดำเนินการพร้อมรับการอบรมฝึกทักษะฝีมือช่าง ซึ่งมีต้นทุนการผลิตต่อหนึ่งเตียงประมาณ 10,000-15,000 บาท โดยอยู่ระหว่างการปรับรายละเอียดของแบบเพื่อให้เตียงในเวอร์ชันใหม่นี้สอดรับกับการใช้งานได้เป็นอย่างดี เช่น ปรับความสูงของเตียงให้ต่ำลง รวมถึงปรับขนาดของเตียงเพื่อให้เคลื่อนย้ายเข้าบ้านของชุมชนได้ เป็นต้น

ด้าน ผศ.ดร.สุรกานต์ รวยสูงเนิน อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ประเด็นหลักของการออกแบบเตียงจะคำนึงถึงสภาพจิตใจผู้ป่วยและผู้ดูแลก่อนเป็นลำดับแรก โดยพยายามลดภาระผู้ดูแล และให้ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองให้มากที่สุด ซึ่งจะนำไปสู่การมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น เมื่อผู้ดูแลลดภาระลงจากที่เคยพลิกตัวทุก 2 ชั่วโมง ก็เปลี่ยนมาเป็นแค่ช่วงเวลาหลักๆ ได้แก่ ตอนทานอาหาร ทำความสะอาดร่างกาย

"ขนาดของเตียงที่ออกแบบ ในแรกเริ่มคิดที่จะพัฒนาเป็นขนาด S M L เพื่อให้สอดรับกับผู้ป่วยที่มีความแตกต่างกัน แต่เพราะเป็นช่วงแรกจึงพัฒนาเป็นขนาด L ทำให้พบข้อจำกัดการเคลื่อนย้ายเตียงเข้าสู่ภายในบ้าน ในระยะต่อมาจึงปรับขนาดลดลงเป็น 900x2 เมตร จากเดิมขนาด 1.2 x 2 เมตร มีต้นทุนการผลิตประมาณ 15,000-20,000 ไม้ โดยใช้วัสดุไม้แปรรูปที่หาซื้อได้จากร้านวัสดุก่อสร้างทั่วไป เช่น ไม้ยางพารา และไม้เนื้อแข็ง ซึ่งจะรับน้ำหนักผู้ป่วยได้มากถึง 200 กิโลกรัม" ผศ.ดร.สุรกานต์ กล่าว

สำหรับแนวคิดของการต่อยอดโครงการนั้น ผศ.ดร.สุรกานต์ กล่าวว่า โครงการพัฒนาเตียงเพื่อผู้สูงวัยที่ป่วยติดเตียงได้สร้างประโยชน์ทั้งในมิติในสังคม และเศรษฐกิจ ในอนาคตหากสามารถต่อยอดไปสู่วิสาหกิจชุมชนได้จะเป็นเรื่องที่ดีอย่างมาก เพราะวิธีการผลิตที่ง่าย ทักษะช่างไม้ที่มีอยู่ในชุมชนสามารถดำเนินการได้เลยตามแบบและคู่มือการประกอบที่เตรียมจัดทำขึ้น ขณะที่อุปกรณ์มอเตอร์ไฟฟ้าก็หาได้ง่ายในร้านค้าชุมชน ถ้าเป็นการผลิตในปริมาณที่มากขึ้นในอนาคตจะยิ่งเป็นการลดต้นทุนลงมาอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทต่อเตียง ซึ่งเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับชุมชน รวมถึงเพิ่มโอกาสการเข้าถึงเตียงในกลุ่มของผู้ป่วยที่มีรายได้น้อย

รศ.ดร.นรชิต จิรสัทธรรม หัวหน้าสาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า ในมุมของเศรษฐศาสตร์ได้ทำการประเมินแล้วว่าการผลิตเตียงในโครงการนี้จะช่วยลดค่าเสียโอกาสได้มาก เช่น ผู้ดูแลที่เป็นญาติ หรือ Caregiver จากที่ปกติใช้เวลา 2 ชั่วโมงในการดูแลผู้ป่วยสามารถลดชั่วโมงการทำงานลงเหลือเพียงชั่วโมงเศษเท่านั้น ซึ่งเวลาที่ลดลงนี้สามารถไปทำประโยชน์ได้อีกมาก

"คนอาจจะคิดว่าทำไมไม่บริจาคแล้วไปซื้อเตียงให้ผู้ป่วยเลยซึ่งเร็วกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ประโยชน์จะเกิดในส่วนเดียว เมื่อเทียบกับโครงการที่ดำเนินการอยู่นี้ พัฒนาเตียงขึ้นมาสามารถลดแผลกดทับได้ดี นอกจากนี้ยังสามารถทำให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมและช่างฝีมือมีรายได้ สร้างประโยชน์ได้หลายส่วนพร้อมกัน เป็นการกระจาย และหมุนเวียนผลประโยชน์ในชุมชน จากนี้ไปอยากเห็นการพัฒนาไปสู่เตียงที่ปรับแบบใหม่ช่างได้รับการอบรม และยกระดับเป็นกลุ่มอาชีพทางสังคมที่ช่วยทำเตียง รับออเดอร์งานได้ต่อไป โดยโอกาสและศักยภาพสามารถต่อยอดได้อีกมากจากแนวโน้มการขยายตัวของสังคมผู้สูงอายุในไทย" รศ.ดร.นรชิต กล่าว

นายชัยชาญ เพชรสีเขียว ตัวแทนกลุ่มผู้ผลิตเตียงในชุมชน กล่าวว่า ภายหลังจากได้รับเตียงอัจฉริยะที่ทาง มข. ส่งมาให้ผู้ป่วยในชุมชนก็ได้เริ่มเข้าไปให้ความรู้ถึงวิธีการใช้งานกับผู้ป่วยติดเตียงว่าเตียงนี้มีข้อดีคือ มีปุ่มให้กด สามารถนั่ง เอนซ้าย เอียงขวาได้ ซึ่งส่งผลดีทั้งต่อผู้ป่วยที่ช่วยให้อากาศถ่ายเท และไม่เกิดแผลกดทับ รวมถึงแบ่งเบาภาระของผู้ดูแลด้วย ขณะเดียวกันก็เริ่มบอกกล่าวถึงช่างในหมู่บ้านที่ส่วนหนึ่งทำงานประจำและบางส่วนที่ว่างงาน ให้ได้รับทราบถึงโครงการนี้ รวมถึงการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชนต่อไป

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : "มข." ชู "เตียงอัจฉริยะ" เพื่อคุณภาพชีวิตผู้ป่วยสูงวัย-เพิ่มรายได้ชุมชน

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...