อัครนันท์ เผย 'ดนุพร' นั่งประธาน กมธ.สมรสเท่าเทียม 'มดดำ-วู๊ดดี้' นั่งที่ปรึกษา เชื่อปีนี้คลอด กม.
อัครนันท์ เผย 'ดนุพร' นั่งประธาน กมธ.สมรสเท่าเทียม 'มดดำ-วู๊ดดี้' นั่งที่ปรึกษา เชื่อคลอด กม.ได้ในปีนี้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานความรอบคอบ
เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 3 ม.ค.67 ที่รัฐสภา นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.พรรคเพื่อไทย กาญจนบุรี เขต 1 ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการสมรสเท่าเทียม แถลงภายหลังผลการประชุมครั้งแรกว่า บรรยากาศการประชุมครั้งนี้เป็นไปด้วยดี ที่ประชุมมีมติให้ นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นประธานคณะกรรมมาธิการฯ และมีตัวแทนจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคประชาชนเข้าร่วม
นายอัครนันท์ กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ถือเป็นกฎหมายประวัติศาสตร์ของประชาชนที่จะมีการเข้ามาร่วมกันแก้ไข กฎหมายสมรสเท่าเทียมถือว่าเป็นก้าวแรกที่ทุกคนจะได้ใช้กฎหมายที่ให้ความเสมอภาคกันทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่ม LGBTQ+ ซึ่งถือว่าครั้งนี้รัฐบาล ฝ่ายค้าน หรือแม้กระทั่งภาคประชาชนมีความร่วมมือกันเป็นอย่างมาก การประชุมในครั้งนี้และทุกคนไม่มีความขัดแย้ง ที่สำคัญคือทำให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านโดยเร็ว แต่ต้องอยู่บนความรอบครอบและอยากจะให้ออกมาใช้ได้จริงภายในปีนี้
นายอัครนันท์ กล่าวอีกว่า การประชุมครั้งต่อไปจะเป็นในวันที่ 10 ม.ค.67 โดยจะมีการแต่งตั้งคณะที่ปรึกษากรรมธิการ ซึ่งเชื่อว่าจะมีดารา ศิลปิน เข้ามาร่วม เช่น มดดำ คชาภา ตันเจริญ และ วู๊ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา ที่จะเข้ามาเป็นปรึกษา เพราะมองว่าเสียงของ สส.กับประชาชน อาจจะไม่ดังเท่ากับเสียงของบุคคลมีชื่อเสียง ที่เป็นตัวแทน LGBTQ+ ซึ่งการประชุมครั้งที่ 2 เชื่อว่าจะเป็นการประชุมที่จะได้ข้อสรุป และทุกคนพร้อมที่จะผลักดันให้กฎหมายฉบับนี้ผ่านไปได้
น.ส.ชุมาพร แต่งเกลี้ยง ตัวแทนภาคประชาชน กล่าวว่า มีกลุ่ม LGBTQ+ จากทุกภาคของประเทศมาเข้าร่วมประชุม โดยบรรยากาศเป็นไปได้ดี ถือว่าเป็นความร่วมมือร่วมใจ ซึ่งเชื่อว่าการสมรสเท่าเทียม จะมาถึงในเร็ววัน และรู้สึกดีใจที่มีการเร่งพิจารณาให้อยู่ในกรอบ 60 วัน ซึ่งถือว่าเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่จะทำให้กฎหมายจากประชาชนที่กำลังเฝ้ารอและต้องการให้เกิดความเท่าเทียมเกิดขึ้นได้จริง
อยากจะขอบคุณที่ประชุมที่เปิดรับความหลากหลายอย่างแท้จริงที่สามารถให้คนแสดงอัตลักษณ์ของตัวเองโดยไม่จำกัดเพศ ซึ่งถือปรากฎการณ์นี้จะเป็นประตูสำคัญของความหลากหลายทางเพศ ความเท่าเทียมทางเพศ และความเป็นธรรมทางเพศ ที่จะแสดงตัวตนของตัวเองในหน่วยงานต่างๆ และเชื่อว่ากฎหมายสมรสเท่าเทียมจะได้ใช้ในปีนี้อย่างแน่นอน