โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

จับตาเทคโนโลยีกำเนิดใหม่ หนุนซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล

สยามรัฐ

อัพเดต 19 ม.ค. 2567 เวลา 03.25 น. • เผยแพร่ 19 ม.ค. 2567 เวลา 03.25 น.

บทความพิเศษโดย ดร.พัฒนพล เหรียญโมรา คณบดีคณะเทคโนโลยีสารสนเทศและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยกรุงเทพ

ซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) คือความสามารถในการขยายอิทธิพลทางความคิด เพื่อโน้มน้าวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหรือส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในเชิงบวกสู่สากล โดยไม่ใช้กำลังทางทหารหรือทางเศรษฐกิจไปบังคับ แต่นำเสนอปรัชญาการดำเนินชีวิต วัฒนธรรมความเป็นอยู่ ประวัติศาสตร์ ศิลปะและความบันเทิง ซึ่งประเทศไทยมีสิ่งดี ๆ เหล่านี้เต็มเปี่ยม แต่การสนับสนุนจากภาครัฐก็เป็นสิ่งสำคัญ ล่าสุดได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติมาดูแลเรื่องนี้ อีกปัจจัยสำคัญคือการหาเครื่องมือเพื่อมาสนับสนุนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ และหนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังและจะเป็นกุญแจสำคัญในการยกระดับซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศคือเทคโนโลยีดิจิทัล โดยจะขอนำเสนอเทคโนโลนีใหม่น่าจับตาที่มีศักยภาพในการส่งออกเรื่องราวและวัฒนธรรมไทยสู่สากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคโนโลยีเสมือนจริงและการประมวลผลเชิงพื้นที่ (Immersive Technology and Spatial Computing)ใช้สร้างสื่อดิจิทัลที่ละลายเส้นแบ่งระหว่างโลกทางกายภาพและโลกเสมือนหรือโลกจำลอง ทำให้เกิดประสบการณ์ที่ผู้ใช้มีความรู้สึกหรืออารมณ์ร่วม เรียกง่าย ๆ ว่า “อิน” ตัวอย่างที่พอรู้จักกันเช่น สื่อ Virtual Reality (VR) ที่นำผู้ใช้เข้าไปอยู่ในโลกจำลองเต็มรูปแบบ (Fully Immersive) ผ่านการใส่แว่นตา หรือสื่อ Augmented Reality (AR) ที่ประสานโลกจริงเข้ากับโลกเสมือนโดยแสดงวัตถุจำลองขึ้นมาอยู่ตรงหน้าผู้ใช้ในโลกจริง สามารถทำให้ผู้ใช้ดื่มด่ำกับประสบการณ์จนเกิดความทรงจำที่ดีกับเรื่องราวและสถานที่

เมื่อนำมารวมกับเทคโนโลยี Spatial Computing ที่ผนวกเซ็นเซอร์เช่นกล้องวัดความลึกและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เรียนรู้สภาพพื้นที่จริงของผู้ใช้งานเพื่อให้สามารถสัมผัสหรือโต้ตอบกับวัตถุจำลองที่ปรากฏในพื้นที่จริงได้อย่างเป็นธรรมชาติ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะใช้ส่งเนื้อหาแนวบันเทิงและศิลปะวัฒนธรรม ไปเคาะประตูบ้านผู้คนทั่วโลกได้ แม้จะไม่เคยมาเที่ยวเมืองไทย ตัวอย่างเช่น เราสามารถ พาผู้สนใจมาเที่ยวชมโบราณสถานสุโขทัยหรืออยุธยาได้อย่างสมจริงเพียงแค่ใส่แว่น VR หรือทำได้แม้กระทั่งพาย้อนอดีตไปชมสภาพก่อนสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ถูกทำลาย เพื่อเห็นสภาพเดิมและชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนสมัยก่อน หรือใช้อุปกรณ์ Spatial Computing จำลองอาจารย์สอนทำอาหารชาวไทยมาช่วยสอนทำอาหารไทยถึงในห้องครัวของผู้ใช้ สามารถหยิบวัตถุดิบเสมือนขึ้นมาศึกษา หรือลงมือทำอาหารตามได้ทันที หรือจำลองเครื่องดนตรีไทยที่สามารถหยิบจับมาเล่นร่วมกับเครื่องดนตรีสากลลอื่น ๆ ในห้องซ้อมดนตรี ก็สามารถทำได้

ปัญญาประดิษฐ์เชิงกำเนิดสำหรับงานศิลปะและงานสร้างสรรค์ (Generative AI for Art and Creative Work) ย้อนไปสัก 4-5 ปีก่อนหน้า หลายคนยังมีความเชื่อว่าปัญญาประดิษฐ์ไม่สามารถทำงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์หรืองานศิลปะได้ แต่ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นแล้วว่า Generative AI สามารถทำสิ่งเหล่านี้ และเก่งขึ้นเรื่อย ๆ ในเวลาอันรวดเร็ว ถึงแม้การใช้งานส่วนใหญ่จะเป็นการถามคำถาม เขียนรายงาน โต้ตอบผ่านตัวหนังสือ แต่ Generative AI ที่สามารถสร้างงานศิลปะภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหว หรือเสียงเพลง เช่น Midjourney, Stable Diffusion, DALL·E, AudioCraft ก็เริ่มได้รับการยอมรับมากขึ้น

โดยเฉพาะในหมู่ผู้สร้างสรรค์หรือศิลปินเองก็เริ่มที่จะนำ AI เหล่านี้มาช่วยเสริมงานของตัวเองให้แปลกใหม่ขึ้น ไวขึ้น แน่นอนว่า Generative AI สามารถนำไปใช้ส่งเสริมเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมไทยในรูปแบบและมุมมองที่ทันสมัยและสร้างสรรค์ได้ ตัวอย่างเช่น การสร้างผลงานเพลงในรูปแบบใหม่ที่ผสมผสานดนตรีพื้นบ้านและดนตรีสมัยใหม่ทั้งของไทยหรือสากลเข้าด้วยกัน เพื่อสามารถเข้าถึงผู้ฟังต่างวัยและต่างวัฒนธรรม หรือการใช้ AI สร้างภาพศิลป์เล่าเรื่องราวตำนานของไทย ผ่านแนวทางการวาดภาพแบบศิลปินสากล ก็อาจได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง และยังสามารถเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลไปทั่วโลก ผู้เกี่ยวข้องจึงควรให้ความสนใจและเริ่มวางแผนศึกษาใช้งาน Generative AI เพราะแม้ว่า AI อาจไม่ได้สามารถทดแทนมนุษย์ได้ทั้งหมด แต่คนที่ใช้งาน AI เป็นแน่นอนว่าจะเพิ่มโอกาสต่าง ๆ กว่าคนที่ยังไม่เริ่ม

ดิจิตัลเกมและเกมมิฟิเคชัน (Digital Games and Gamification) อุตสาหกรรมดิจิตัลเกมในประเทศไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยล่าสุดมูลค่าเกิน 30,000 ล้านบาทต่อปี แต่เม็ดเงินนี้ยังเทไปที่เกมต่างชาติเช่น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา ที่เข้ามาตีตลาดไทยเสียเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งหากพิจารณาดูจะพบว่าผู้เล่นไทยก็ได้ซึมซับวัฒนธรรมจากชาติเหล่านี้ผ่านการเล่นเกมอยู่ไม่น้อย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของเกมในการช่วยขยายซอฟต์พาวเวอร์ โดยที่ผ่านมามีเกมผีไทยที่วางขายและประสบความสำเร็จทั่วโลก ทำให้ผู้เล่นต่างชาติได้รู้จักความน่ากลัวของผีไทย วัฒนธรรมความเป็นอยู่เช่นชุดไทยและบ้านทรงไทย ซึ่งน่ายินดีว่ารัฐบาลเริ่มเล็งเห็นความสำคัญโดยได้รวมการสร้างเกมไทยอยู่ในยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ และให้สิทธิพิเศษผ่าน BOI เช่นยกเว้นภาษีนิติบุคคลกับบริษัทพัฒนาเกมเป็นต้น ในขณะเดียวกันเทคโนโลยี Gamification ที่ไม่ได้เป็นการสร้างเกมโดยตรง แต่เป็นการนำองค์ประกอบของการออกแบบเกมมาใช้ในบริบทที่ไม่ใช่เกม เช่นการสะสมคะแนน การแบ่งลำดับชั้น การแข่งขัน ก็เป็นอีกเทคโนโลยีที่สามารถช่วยส่งเสริมการขยายซอฟต์พาวเวอร์ หรือแอปสอนภาษาไทยออนไลน์ที่มีการแข่งขันออกเสียงภาษาไทยและให้คะแนนโดยคนไทย เป็นต้น

ประเทศไทยมีสิ่งดี ๆ มากมายที่เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมในการสร้างซอฟต์พาวเวอร์เพื่อการเป็นผู้นำทางวัฒนธรรมที่เชื่อมสัมพันธ์ไปทั่วโลกซึ่งจะนำมาซึ่งประโยชน์ต่อประเทศในอีกหลายด้าน การใช้เทคโนโลนีทันสมัยที่ที่ได้ยกตัวอย่างมา หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ในอนาคตมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ ก็จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ระดับชาติในเชิงบวกได้เป็นอย่างดี

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...