อาร์ต พศุตม์ ภูมิใจ โชว์เงินกองโตจากค้าขาย เมินคนแซะอวดรวย คนพวกนี้อิจฉา
อาร์ต พศุตม์ ภูมิใจ โชว์เงินกองโตจากค้าขาย เมินคนแซะอวดรวย คนพวกนี้อิจฉา
อาร์ต พศุตม์ ภูมิใจ / ธุรกิจไปได้สวยมากๆ สำหรับนักแสดงหนุ่ม อาร์ต-พศุตม์ บานแย้ม เจ้าตัวเพิ่งโพสต์ภาพนอนยิ้มบนกองเงินก้อนโต หลังเพิ่งไปเปิดบูธขายหมูกรอบเสร็จเรียบร้อย พร้อมเขียนแคปชั่นสุดภูมิใจว่า “บางคนอายทำมาหากิน ติดชีวิตหรูหรา แคร์สายตาคนอื่นมองสำหรับผม งานหนัก ขยัน ไม่แคร์ว่าใครมองยังไง..” แต่ล่าสุดเจอหนุ่มอาร์ต เจ้าตัวเล่าว่า ยังมีคนแซะอวยรวยแต่นักแสดงหนุ่มก็ไม่แคร์
วันก่อนที่โพสต์เงินเป็นปึกๆ? “จริงๆ ก็ไม่ได้อยากจะอวดนะ แต่ก็อวดแหละ (ยิ้ม) คือตอนนี้บางคนกำลังหลงทางผิด คิดว่าอาชีพค้าขายเป็นอาชีพที่เหนื่อย อยากโพสต์ให้เห็นเงิน ว่ามันเป็นอาชีพที่เหนื่อย แต่เห็นเงิน แต่ถ้าเกิดเราโชว์แคชเชียร์เช็ค แคชเชียร์ปลอมหรือเปล่าวะ แต่ถ้าเป็นเงินสดนี่ไม่ปลอมแน่นอน เรามีจุดประสงค์แค่นี้ แต่ใครจะไปคิดลบว่าอาร์ตอวดขายของ เออ จะอวดก็อวดไม่ได้ว่าอะไร”
แต่ส่วนตัวภูมิใจกับเงินที่ได้มาใช่มั้ย? “ใช่ ภูมิใจมาก จะว่าอวดก็อวด รอบที่แล้วจะได้เงินค่ารถน้องขนเงินขนทองคืนแล้ว ออกแค่ 1 บูธ แถมให้โชคมา 2 งวดด้วย (ยิ้ม) ทะเบียนรถ 1662 จะไปเหลืออะไรล่ะ 2 งวด ก็ได้มา 6 หลัก (ยิ้ม)”
ยังมีคอมเมนต์แซะอยู่อีกมั้ย? “มี โอ๊ย ต่อให้ไหว้พระก็เถอะ ก็ลงแซะว่าสร้างภาพ ช่างแม่งเหอะ คนพวกนี้ปล่อยแม่งเหอะ ไม่สนใจ”
ไม่เดือดแล้วใช่มั้ย? “ผมไม่เคยเดือดเลยนะเอาจริงๆ แม้กระทั่งตอนฟ้องเขา ตอนที่มีข่าวว่าฟ้องร้องประชาชนน่ะ ผมพิมพ์ข้อความยิ้มๆ แบบนี้ ทุกคนไม่เชื่อ คิดว่าผมต้องหัวร้อน แต่ไม่เลย ผมยิ้ม เพราะผมอยู่กับที่ เขามาหาผม ไม่ใช่ผมไปหาเขา หรือผมโดนฟ้อง โดนเรื่องอะไรผมก็ไป ก็แค่นั้น เอาจริงๆ ผมไม่เคยหัวร้อนเลย ทุกคนจะคิดว่าผมเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก เคยเห็นผมตอนอารมณ์ดีมั้ย (ยิ้ม)
ผมอารมณ์ดีตลอดเวลาเลย น้อยมากที่จะอารมณ์ร้อน จริงๆ ไม่ได้สนใจ เพราะเราเข้าไปดูคนที่มีความคิดที่แซะคนทำมาหากินน่ะ ยังนั่งกินเหล้าอยู่เลย ยังไม่ทำมาหากินเลย ก็เลยอิจฉามั้ง อิจฉาคนที่ทำงานได้ เขาจะอิจฉาคนที่ทำได้ดีกว่าเขา เขาก็เลยมาเป็นพลังลบให้เรา แต่พอดีพลังบวกเราเยอะกว่า ทั้งพลังบวก ทั้งเงินเยอะกว่าเขา เราก็เลยไม่สนใจ”
มีคนเดินมาบอกเรามั้ยว่าเราเป็นพลังให้เขา? “เยอะมาก เรื่องก่อนหน้านี้สัก 2 ปี โซเชียลผมค่อนข้างลบ เพราะความเห็นต่างกับบางเรื่อง แต่ตอนนี้ผมกลับมาบวก 90% ได้มั้ง ว่าเป็นคนทำมาหากิน ไม่ได้เป็นอย่างที่พวกเขาคิด แต่คนที่เขายังอินกับสิ่งที่เราไม่ได้เป็นก็ยังอยู่ ไม่กินหรอกของแบบนี้ ก็เรื่องของเขา”
ได้อธิบายมั้ย? “ไม่อธิบายครับ ไม่คิดอธิบายกับคนพวกนี้ เพราะต่อให้เราบอกให้เขาเลี้ยวซ้าย เขาก็เลี้ยวขวา ต่อให้บอกไปทางไหนก็ได้ เขาก็จะตรง เขาจะไม่ไปทางเดียวกับเรา เราก็ไม่สนใจ เพราะทั้งจิตเรากับเงินเราเยอะกว่าเขา (ยิ้ม) แต่ก็มีตอบนะ แต่ตอบแบบกวนประสาท ไม่อยากกินไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้อยากขายคุณอะไรแบบนี้ แต่ไม่มีการด่าคำหยาบ ไม่มีการหัวร้อนกับเขา จิตเราแข็งอยู่แล้ว
เรารู้ว่าเขามาแซะเราเพื่ออะไร เพื่อให้เราโมโห แล้วก็แคปตรงที่เราโมโหไปลงโซเชียล แล้วเราจะโมโหเพื่ออะไร มันไม่มีประโยชน์ (ยิ้ม) 100% ผมกล้าพูดได้เลยว่าใครมาสัมผัสตัวผมจะคิดถึงผมเปลี่ยนไปเลย จากเลวเป็นเลวกว่า ไม่ใช่ๆ (หัวเราะ) จากที่กวนอยู่แล้ว จะกวนประสาทยิ่งขึ้น”
ต้องยิ้มบ่อยๆ ขึ้นหรือเปล่า? “ทุกวันนี้ก็ยิ้มบ่อยนะ คือด้วยหน้าผมถ้าไม่ยิ้มจะดูดุ แต่ถ้ายิ้มก็จะเป็นอีกคนนึง แต่ใครจะยิ้มทั้งวัน เป็นบ้าเหรอ (หัวเราะ)”
หรือเพราะคาแร็กเตอร์ในละครเลยทำให้คนมองผิดไป? “ก็ด้วยแหละ แต่คาแร็กเตอร์เดี๋ยวจะมีทางช่อง 8 อันนี้เป็นพระเอก เป็นแบบกงยูเลย รอดู อาจจะลบภาพโหดร้ายไปก็ได้ ละมุนสุด”
จากนี้ต้องรับบทที่ละมุนขึ้นด้วยมั้ย? “อาจจะไปซีรีส์วายเลยด้วยซ้ำ (ยิ้ม) มีครับ กำลังติดต่อมาน่าจะปลายปีหน้า จะเป็นอารมณ์พระเอกเป็นหนุ่มใหญ่ และพระเอกเป็นหนุ่มเล็ก แล้วก็ไปหลอกฟันเขาอะไรประมาณนี้ (หัวเราะ) ยังไม่รู้นะ เขาแค่วางมาประมาณนี้ เขาก็มาถามว่าอาร์ตสนใจมั้ย ก็บอกว่าถ้ามันดีหรือบทที่แหวกจากวายตอนนี้ก็น่าเล่น เหมือนวัวแก่กินหญ้าอ่อน มันก็โอเค ก็ได้”
ถ้ามีฉากเลิฟซีนล่ะ? “ไม่ใช่ปัญหา มันคือการแสดง กะไอ้ขุน (ขุน ชานนท์) ผมยังจูบมาแล้วเลย กลัวอะไร ช้างชนช้างมาแล้วจะกลัวอะไร (ยิ้ม) ไอ้ขุนยังหมอบเลย จะไปกลัวทำไมกับเด็ก ผมคิดว่ามันเป็นการแสดง ไม่ว่าจะจูบกับผู้หญิง จูบกับผู้ชาย หรือจูบกับอะไรก็แล้วแต่ กับอ๊อฟ ปองศักดิ์ก็จูบมาแล้วนะ ถ้ามากกว่าจูบก็ไม่ใช่ปัญหา เต็มที่ก็แต๊บให้ดีๆ แค่นั้นเอง (หัวเราะ)”
เห็นเพิ่งทำข้าวกล่องแจกด้วย? “จริงๆ ไปร่วมกับข้าวตราไก่แจ้ครับ เขามาร่วมโปรเจ็กต์กับเรา เขาบอกว่าเราทำแล้ว ครั้งที่แล้วเราทำไปพันกว่ากล่อง แต่รอบนี้เรามีพรรคพวก เขาก็เลยมาร่วมกับเรา ตอนแรกตั้งไว้ 2 พันกล่อง ก็คือ 200 โล แต่พอผัดไปผัดมารวมกระเพราข้าวอีก ก็ได้ประมาณ 2,500 กล่อง ก็โอเคเราคิดจะทำประมาณ 2 เดือนครั้งอยู่แล้ว
แต่พอมีคนมาร่วมกับเราก็เลยได้กำลังที่เยอะขึ้น เพราะทำรอบนี้ก็ 6 หลักเหมือนกันนะ ต้นทุนที่ใช้ไปก็แสนกว่าเหมือนกัน แต่เราแบ่งเป็น 3 เจ้า ก็คิดง่ายๆ ตีไปคนละ 4 หมื่นก็ยังได้อยู่ เพราะเรารู้สึกว่าตรงนี้มันเป็นบารมี คนมาทำข่าว คนมาแชร์ไปมันก็ได้พื้นที่ข่าวและได้อิ่มใจด้วย”
ตั้งใจอยากจะทำประจำเลยมั้ย? “คิดวางไว้ว่า 2 เดือนครั้ง แต่ก็อยู่ที่ปริมาณของว่าเราจะทำเยอะขนาดไหน อาจจะ 1-2 พัน หรือได้รวมได้หลายองค์กรอาจจะเป็น 5 พันเลยก็ได้ ทีเดียวยิงกันยาวๆ รอบที่แล้วเราทำ 2,500 กล่อง ทำตั้งแต่ 10 โมง ยังไม่เที่ยงก็หมดแล้ว คนพักกลางวันแถวนั้นยังไม่ได้กินเลย
แต่เป็นคนที่อยู่แถวนั้นแล้วอยากกิน เพราะเราตักให้เต็มที่เลย เต็มกล่องมากยังได้ 2,500 กล่อง ยังรู้สึกว่าถ้าครั้งหน้ายิงยาวตั้งแต่ 11 โมงให้คนได้พักเที่ยงมากิน แล้วกลับไปทำงานบ่าย 1-2 ได้แจกสัก 3-4 ชม. มันน่าจะดีกว่ามั้ย เพราะตอนนี้มันเร็วเกินคาดที่เราคิด”
โมเมนต์ในวันนั้นเป็นยังไงบ้าง? “ต้องเล่าย้อนว่าเมื่อตอนโควิดผมทำข้าวแจกอยู่แล้ว เลยมีประสบการณ์ว่าเวลาทำกับข้าวเยอะๆ ไม่ควรใช้แรงตัวเอง และพอดีที่บ้านผมคุณแม่ขายน้ำพริกอยู่แล้ว ก็เลยมีเครื่องกวนน้ำพริก ผมก็เลยเอาตรงนี้มาอะแดปกัน ปกติเรากินคนก็จะบอกว่าเป็นดารากระแดะเนอะใช้เครื่องผัด ใครที่ว่าอยู่ตอนนี้นะ ลองมาผัดหมู 15 โลในกระทะดู ขอ 5 กระทะพอ แล้วเอาให้สีเท่ากัน แล้วคลุกพร้อมกันนะ เก่ง ยกนิ้วให้
มันเหนื่อยมากครับ ผัดกระเพราตามร้านข้าวที่เป็นห่อๆ อันนั้นมันผัดง่าย เพราะด้วยมันแค่ 100 กรัมหรือ 10 กรัม แต่นี่มันผัดทีละ 15 โล มันไม่ไหว เราก็เลยมีประสบการณ์ว่าถ้าเราจะทำเยอะๆ เราควรจะเอาเครื่องผัดน้ำพริกออกมา แล้วก็ผัด และมันก็เบาแรงไปเยอะมาก ก็อิ่มใจครับ”
แต่มีคนติดต่อขอซื้อแฟรนด์ไชส์แล้ว? “แฟรนด์ไชส์ยังไม่ขายเลย เพราะตอนนี้หมูกรอบมันค่อนข้างละเอียด มันไม่เหมือนเบเกอรี่ ไม่เหมือนขนมที่ทำ ผมไม่ได้บอกว่าหมูกรอบร้านผมอร่อยที่สุดนะ ร้านอื่นก็อร่อย แต่ว่าหมูกรอบของผม กรอบได้ไม่นาน แต่เอาไปอุ่นได้5-6รอบ อันนี้คือข้อดีของผม ที่ผมยังไม่ขายแฟรนด์ไชส์ เพราะว่ารอบหนึ่งรอบสองที่ผมทอด ผมจะทอดใช้วิทยาศาสตร์ คือใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดจับเวลา เกือบทุกชิ้นสีจะเท่ากันหมด
แต่ที่เคยพูดว่าจะขยายในที่นี้หมายถึงจะขยายทางออนไลน์ เราจะให้เขามารับหมูจากเราไปเปิดแบรนด์ตัวเองแล้วเราจะเปิดสอนเป็นคอร์ส อาจจะคอร์สละสี่คนห้าคน หรืออาจจะเป็นคอร์สออนไลน์ที่ซื้อแบบ 1,000 กว่าบาท แล้วก็ได้สูตรไป แต่อันนี้อาจจะไม่ได้เจอตัวผม แต่ว่าคอร์สสี่คนที่เป็น private อ่ะ อาจจะได้เจอผมสอนเอง
คือช่วงนี้ก็จะเน้นออกบูธเน้น เดือนนี้คือออกบูธเกือบ 15 วัน ส่วนหน้าร้านที่มหาชัยอ่ะ มันขายได้วันนึงก็ 100 กว่าโลแต่ 100 กว่าโล ต้องบอกอย่างนี้ว่าสำหรับคนอื่นน่ะมันอาจจะเยอะมาก คือสำหรับผม ผมเคยขายได้มากสุดหน้าร้าน 400 โล ออกบูธมากสุดได้ 600 โลต่อวัน แล้วพอมันได้ 100 กว่าโล ทีมงานรู้สึกนอยด์ ทำไมวันนี้ได้พัก เพราะปกติจะยืนสับตลอด
เขาก็เลยนอยด์กลัวผมขาดทุน แต่ก็บอกเขาว่าค่าแรงพวกคุณน่ะได้เท่าเดิมมาหักต้นทุนที่เราให้เรากำไรน้อยหน่อยแต่ค่าแรงเท่าเดิม แต่พวกเขาไม่เอามันไม่คุ้ม คือต้องบอกว่าคนที่มาช่วยเราอ่ะเขาน่ารัก ถ้าพี่อาร์ตได้น้อยอ่ะเขาไม่ชอบ เขาก็เลยบอกว่างั้นไปออกบูธกันให้เหนื่อยไปเลย”
เห็นเจอกับพิ้งกี้ด้วย? “ผมเป็นหุ้นส่วนปลาหมึกกัน คือตอนนี้เราก็เป็นเหมือนพระเอกนางเอกเอื้อกัน เราสนับสนุนเขา เขาสนับสนุนเรา เวลาเขาไลฟ์เราก็จะวิดีโอไลฟ์กันตลอด”
พอได้เห็นเขาในบทบาทแม่ค้าแล้วเราเป็นยังไงบ้าง? “น่ารักคือมันเป็นความรู้สึกเดียวกับผมเลยคือเหมือนที่รู้กันว่าก่อนหน้านี้เขาก็เจอมรสุม เราก็จะไม่พูดถึง แต่ที่เราทำงานด้วยเขาน่ารัก สำหรับผมนะเขาเป็นเด็กที่ดูมีตังค์แต่ติดดิน ก็เหมือนฟีลเราเลยที่ไม่อยากใช้เงินเก่าอยากจะหาเงินใหม่ แล้วเขาก็ทำอะไรก็ได้ที่พลิกจากลุกส์
คือตอนนี้ก็จะมีดาราอยู่ไม่กี่คนที่ออกมาขายของ จริงๆ คือเปรียบเทียบการขายของมันได้เงินพอๆ กับการทำงานในวงการ คือก็ได้แชร์มุมนี้กับกี้เหมือนกัน กี้ก็บอกว่าเออ พี่อาร์ตมันดีนะ คือได้มีชีวิตส่วนตัว คือเมื่อก่อน เราไปถ่ายละครอย่างช่วงไหนละครสองเรื่อง จันทร์ถึงอาทิตย์ผมจะได้นอนวันละ 3-4 ชั่วโมง เพราะว่าผมบ้านอยู่มหาชัย ผมก็ต้องตื่นตีห้าไปถึงกอง 7 โมงเช้า แล้ว 7 โมงเช้าถ่ายๆ ทั้งวันถึงสี่ทุ่ม
บางวันเที่ยงคืน กว่าจะกลับถึงบ้านตีหนึ่ง ตีห้าต้องตื่นแล้ว เป็นแบบนี้อยู่ 10 กว่าปี พอมาช่วงนี้ขายของเราจะไปร้านหรือไม่ไปก็ได้แล้วแต่ แต่ส่วนมากถ้าผมว่างผมก็จะไป คือได้นอนเต็มอิ่มทุกวัน ชีวิตกลับมาปกติ ระบบข้างในร่างกายกลับมาปกติเหมือนเดิมแต่รับนะครับวงการบันเทิง”
นอกจากจะแชร์เรื่องการค้าขายแล้วได้แชร์เรื่องหัวใจไหม? “อุ๊ยผมแซวเค้าแต่แรกๆเลย เดี๋ยวนี้เลิฟนะ เขาก็กจะบอกว่าไม่คุยแล้วไม่คุยแล้ว ผมก็เคยเจอฝั่งพี่ตุ้ย(ธีรภัทร)ในรายการ ก็แอบแซวเขานิดนึง แต่ฝั่งผู้หญิงจะเขินเยอะกว่า เขินม้วนเลย”