โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

ท่องเที่ยวชี้ ปี’66 ฟื้นตัวแรง แนะเตรียมซัพพลายรับดีมานด์พุ่ง

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 04 ธ.ค. 2565 เวลา 12.34 น. • เผยแพร่ 04 ธ.ค. 2565 เวลา 10.07 น.

อุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีสัญญาณฟื้นตัวต่อเนื่องในเกือบทุกประเทศ โดยเฉพาะไต้หวัน มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ที่กลับมามีอัตราการเติบโตอย่างชัดเจน หลังจากที่ได้ทยอยเปิดประเทศมาเป็นระยะตั้งแต่ต้นปี 2565

ทั้งนี้ คาดการณ์กันว่าภาคการท่องเที่ยวโดยรวมจะพลิกฟื้นกลับมาได้ใกล้เคียงกับปี 2562 ก่อนวิกฤตโควิดได้ในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 รวมถึงประเทศไทย

“วิลเฟรด ฟาน” ประธานเจ้าหน้าที่สายการพาณิชย์ “คลูก ทราเวล เทคโนโลยี” ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่น Klook ระบุว่า ข้อมูลจากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO) และหน่วยงานการท่องเที่ยวของแต่ละประเทศพบว่า การเดินทางระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีสัญญาณฟื้นตัวที่ชัดเจน

“เอเชีย-แปซิฟิก” ฟื้นตัวแรง

โดยในเดือนตุลาคม 2565 ประเทศในภูมิภาคอาเซียน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีปริมาณการเดินทางคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของเดือนตุลาคม 2562 ก่อนการระบาดของโควิด-19 เพิ่มขึ้นจากเดือนกรกฎาคม 2565 ซึ่งมีสัดส่วนที่ราว 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2562

สำหรับประเทศญี่ปุ่น ไต้หวัน และฮ่องกงนั้นประเมินว่า ในเดือนตุลาคม 2565 จะมีปริมาณการเดินทางคิดเป็นสัดส่วนเพียง 10% ของเดือนตุลาคม 2562 ส่วนหนึ่งเกิดจากประเทศดังกล่าวเพิ่งจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมการเดินทางเข้าออกพรมแดนของนักท่องเที่ยว

สวนทางกับประเทศในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกาที่พบว่า ในเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา มีปริมาณการท่องเที่ยวสูงเทียบเท่ากับปี 2562 ไปเรียบร้อยแล้ว

ไทยสวนกระแส Q3 ฟื้นตัวลด

ส่วนประเทศไทย พบว่าในเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ที่เดินทางเข้าประเทศไทยฟื้นตัวใกล้เคียงกับก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 ตามด้วยนักท่องเที่ยวจากสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศในทวีปยุโรป

ขณะที่อัตราการฟื้นตัวด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยนั้นพบว่า ไตรมาส 3 ที่ผ่านมายังลดลงถึง 61% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 สวนทางกับประเทศ/ดินแดนอื่นในภูมิภาค เช่น ไต้หวัน ที่มีอัตราการเติบโตถึง 397% มาเลเซียเติบโต 83% และฟิลิปปินส์ที่เติบโต 23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562

“ปัญหาหนึ่งที่ประเทศไทยเจอคือ ข้อจำกัดด้านเที่ยวบิน”

ตั้งรับ 5 พฤติกรรมนักท่องเที่ยว

สำหรับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวต้องเตรียมตัวรับมือแนวโน้มพฤติกรรมการท่องเที่ยว ดังต่อไปนี้

1.นักท่องเที่ยวสนใจเดินทางเป็นกลุ่ม โดยการท่องเที่ยวพร้อมครอบครัว-คนที่รักอยู่ในช่วงเติบโต 2.นักเดินทาง โดยเฉพาะกลุ่มเจน Z มองหาประสบการณ์จากท้องถิ่น

3.นักท่องเที่ยวกว่า 46% มองว่าราคาตั๋วเครื่องบิน ที่พักที่สูงขึ้น เป็นปัจจัยสำคัญในการวางแผนออกเดินทาง โดยเฉพาะกลุ่มเจน Z

4.นักท่องเที่ยวมีแนวโน้มจองการท่องเที่ยวล่วงหน้า พร้อมหาข้อมูลด้านมาตรการของแต่ละท้องที่ และค้นหาข้อมูลด้านประกันภัยมากขึ้น

และ 5.นักท่องเที่ยวกว่า 60% ใช้แอปพลิเคชั่นบนมือถือเพื่อหาข้อมูลการเดินทาง พร้อมกับสำรองผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวเจน Z ใช้วิธีดังกล่าวมากที่สุด

คาดปี’66 ไทยฟื้นตัว 80%

ด้าน “วรฉัตร ลักขณาโรจน์” กรรมการผู้จัดการใหญ่ “แกร็บ ประเทศไทย” บอกว่า ในมุมของแกร็บ ประเทศไทย ประเมินว่าไตรมาสที่ 4/2565 นี้ ภาคการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวกลับสู่ระดับ 55% เมื่อเทียบกับปี 2562 และประเมินว่า ในครึ่งปีแรกของปี 2566 ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยจะฟื้นตัวราว 80% ของปี 2562

และคาดด้วยว่า ในครึ่งหลังของปี 2566 ภาพรวมการท่องเที่ยวไทยจะมีสัดส่วน 110% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2562 หรือมากกว่าช่วงก่อนโควิด โดยปัจจัยสำคัญมาจากนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้าประเทศไทย

“เราเห็นอุปสงค์การท่องเที่ยวพุ่งสูงขึ้น ตอนนี้อยู่ที่ 55% แต่ไตรมาสแรกของปีหน้าเตรียมพุ่งขึ้นเป็น 80% คำถามคือ เราเตรียมอุปทานรองรับไว้แล้วหรือยัง และราคาผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวที่แพงเกินไป สุดท้ายนักท่องเที่ยวก็จะหายไปหมด”

“วรฉัตร” บอกด้วยว่า ฝ่ายวิจัยของแกร็บประเมินว่าแนวโน้มในปี 2566 นี้ การท่องเที่ยวในประเทศจะยังมีบทบาทสำคัญในการฟื้นตัวระยะแรก ตามด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ นักท่องเที่ยวให้ความสนใจแหล่งท่องเที่ยวระดับรองมากขึ้น

อยากเที่ยวที่ที่ไปยาก-ยังไม่นิยม

ขณะที่ “มิเชล เกา” ผู้จัดการประจำภูมิภาค ประเทศไทย เวียดนาม กัมพูชา พม่า และลาว booking.com บอกว่า จากการสำรวจของบริษัทใน 32 ประเทศทั่วโลกพบว่า นักท่องเที่ยวมากกว่าครึ่งต้องการเดินทางไปยังสถานที่เดินทางไปยาก ไร้สัญญาณโทรศัพท์ (off-grid) รวมถึงชาวไทยกว่า 70% ต้องการเดินทางไปยังสถานที่ที่ยังไม่เป็นที่นิยม

อีกทั้งนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นชิน ดังนั้น สถานที่ท่องเที่ยวที่สร้าง “culture shock” หรือสภาวะตื่นตระหนกทางวัฒนธรรมได้ อาจดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มได้

“ราคา” มีผลต่อการตัดสินใจ

นอกจากนี้ยังพบแนวโน้มนักท่องเที่ยวต้องการออกเดินทาง เพื่อหวนรำลึกถึงวันเก่า ๆ รวมถึงการให้ความสำคัญกับสุขภาวะ ความเป็นอยู่ที่ดี (well-being) ร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านราคายังส่งผลกับนักท่องเที่ยว โดยผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 50% มองว่าต้องการออกเดินทางพร้อมกับคำนึงถึงงบประมาณที่ใช้

เร่งเพิ่มที่นั่ง “สายการบิน”

ด้าน “ธเนศวร์ เพชรสุวรรณ” รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันภาคการท่องเที่ยวไทยประสบปัญหาเที่ยวบินพาณิชย์มีน้อย รวมถึงปัญหาการขาดแคลนแรงงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ส่วนหนึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของความต้องการของนักเดินทาง ตามแนวโน้มของการท่องเที่ยวเพื่อล้างแค้น (revenge tourism)

“เราต้องเตรียมอุปทานให้พร้อมรับกับอุปสงค์ที่มีมาอย่างมหาศาล พร้อมกับหยุดการหาประโยชน์อย่างไม่ถูกต้อง เช่น การโก่งราคานักท่องเที่ยว ไปพร้อมกัน”

โดยในปี 2566 จะพยายามเร่งเจรจาเพื่อเพิ่มที่นั่งสายการบินให้มีมากขึ้น ซึ่งจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติให้เข้าสู่ประเทศไทย

เช่นเดียวกับ “มาริสา สุโกศล หนุนภักดี” นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) บอกว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 พบว่านักท่องเที่ยวกลุ่มมิลเลนเนียลชาวไทยออกเดินทางมากขึ้นกว่าในอดีต ส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย เห็นสัญญาณนักท่องเที่ยวจากประเทศแถบตะวันออกกลางเพิ่มจำนวนมากขึ้น

ส่วนแนวโน้มภาคการท่องเที่ยวไทยในปี 2566 ประเมินว่า ภาคการท่องเที่ยวไทยยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก เนื่องจากปัจจุบันอัตราการฟื้นตัวของไทยยังอยู่ห่างจากระดับเดิมในปี 2562

วอนรัฐช่วยเหลือโรงแรมต่างจังหวัด

“มาริสา” บอกด้วยว่า อยากให้ภาครัฐพิจารณาช่วยเหลือโรงแรมในต่างจังหวัดผ่านการจัดประชุมสัมมนา ฯลฯ ธุรกิจไมซ์ (MICE) และเสนอให้ด้านฝั่งผู้ประกอบการเพิ่มความสำคัญกับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และปรับแนวคิดว่าการลงทุนด้านความยั่งยืนมีส่วนช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว

พร้อมทั้งอยากฝากถึงรัฐบาลใหม่ด้วยว่า อยากให้มองว่าท่องเที่ยวไม่ขึ้นอยู่กับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่ง เพราะภาคการท่องเที่ยวเกี่ยวข้องกับทุกกระทรวง เพราะการท่องเที่ยวขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ที่สำคัญ ภาครัฐจะออกนโยบายอะไรก็ตามควรศึกษาอย่างรอบคอบ เพราะตอนนี้ธุรกิจยังประสบปัญหาอยู่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...