หากย้อนกลับไปเมื่อต้นปี พ.ศ. 2550 จตุคามรามเทพได้รับความนิยมอย่างยิ่ง จนกลายเป็นกระแสในสังคมไทย จากข่าวการพระราชทานเพลิงศพของขุนพันธรักษ์ราชเดช อดีตนายตำรวจมือปราบ ผู้ร่วมการจัดสร้างวัตถุมงคลจตุคามรามเทพรุ่นแรกขึ้นโดยมี พล.ต.ท. สรรเพชร ธรรมาธิกุล เป็นประธานในการจัดสร้าง ได้มีการสร้าง วัตถุมงคลจตุคามรามเทพ ขึ้นในวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ มีหลายรุ่น พระเกจิหลายองค์ปลุกเสก หลายคนพากันแย่งชิง จนทำให้วัตถุมงคลจตุคามรามเทพรุ่นแรก ที่ผลิตออกมาในปี พ.ศ. 2530 มีราคาพุ่งไปถึงกว่า 40 ล้านบาท จากเดิมที่มีราคาเพียง 49 บาทเท่านั้น
โดย จตุคามรามเทพ หมายถึง เทพรักษาวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จังหวัดนครศรีธรรมราช สององค์ คือ ท้าวขัตตุคาม และ ท้าวรามเทพ ซึ่งเดิมในความเชื่อของศาสนาพราหมณ์เป็นเทพชั้นสูง และมีอยู่ทั่วไปทุกภาคของประเทศไทย แต่เมื่อภูมิภาคแถบอุษาคเนย์นี้รับอิทธิพลของพุทธศาสนาเข้ามา ท้าวขัตตุคาม และ ท้าวรามเทพ จึงถูกเปลี่ยนสถานะเป็นเทวดารักษาพระบรมธาตุ และเปลี่ยนชื่อให้เป็นมงคล เป็น ท้าวจตุคาม และสถิตอยู่บนที่บานประตูทางขึ้นพระบรมธาตุ ในปี พ.ศ. 2530 เมื่อครั้งมีการตั้งดวงเมืองนครศรีธรรมราชขึ้นใหม่ จึงมีการอัญเชิญ จตุคามรามเทพ ไปสถิต ณ ที่นั้นเป็นต้นมา
ชาวนครศรีธรรมราช มีคติความเชื่อที่ว่า องค์จตุคาม คือ พระเสื้อเมือง จตุ หมายถึง สี่ คาม (คาม-มะ) เขตคาม หมายถึง อาณาเขตหรือบ้าน เมื่อรวมกันนัยความหมายที่มากกว่าความเป็นทิศทั้ง 4 ของบ้าน หรืออาณาเขต คือทิศทั้งสี่ ซึ่งหมายถึงทิศที่มีท้าวจตุโลกบาลทั้งสี่ดูแลอยู่ ความหมายของจตุคามจึงเป็น ตำแหน่งของผู้เป็นใหญ่ทั้งสี่ทิศ มีท้าวจตุมหาราช ปกป้องคุ้มครองดูแล พระเสื้อเมืองจึงมีความหมายที่ควรเป็นตำแหน่ง ๆ หนึ่ง เพียงแต่ปราชญ์โบราณของเมืองสมมติขึ้นเป็นท้าวจตุคาม ผู้เป็นใหญ่ใน 4 ทิศ
องค์รามเทพ คำว่า ราม มีรากฐานมาจากพระราม ที่หมายถึงพระนารายณ์อวตารลงมาเป็นพระมหากษัตริย์ คำว่าเทพ ก็คือเทวดา นัยความหมายคือเป็นพระมหากษัตริย์ ที่เป็นสมมติเทพเมื่อองค์รามเทพเป็นพระทรงเมือง คำว่าทรงเมืองพ้องกับคำว่า ครองเมือง นั่งเมือง หรือผู้ปกครองบ้านเมือง ซึ่งก็คือเจ้าเมืองหรือพระมหากษัตริย์
เชื่อกันว่าเดิมนั้น องค์จตุคามรามเทพ เป็นกษัตริย์ในสมัยอาณาจักรนครศรีธรรมราช มีพระนามอย่างเป็นทางการว่า พระเจ้าจันทรภาณุ เป็นกษัตริย์พระองค์ที่ 2 ของราชวงศ์ศรีธรรมาโศกราช เชื่อว่ามีพระวรกายเป็นสีเข้ม เป็นกษัตริย์นักรบที่แกร่งกล้า เมื่อสถาปนาอาณาจักรศรีวิชัยได้อย่างมั่นคงแล้ว จึงได้สมัญญานามว่า "ราชันดำแห่งทะเลใต้" หรือมีอีกราชสมัญญานามนึงว่า "พญาพังพกาฬ" และต่อมาสำเร็จวิชาจตุคามศาสตร์ และทรงบำเพ็ญบุญเพื่อสร้างบารมีอธิษฐานจิต เป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อบรรเทาทุกข์แก่มนุษย์ทั้งปวง
ความเห็น 11
coffeekrap
เคยบูชาหมดไปเยอะเหมือนกัน เคล็ดลับความสำเร็จในการขอพรคือคุณต้องรักษาศีล5ให้ได้มากที่สุด หมายถึงว่าถ้าเมื่อก่อนผิดศีลทั้ง5ข้อ คุณต้องพยายามผิดศีลให้น้อยลงแล้วชีวิตจะดีขึ้นเอง
เดี๋ยวนี้เลิกบูชา เอาวัตถุมงคลไปไว้ที่วัดบ้างให้คนอื่นที่ต้องการไปบ้าง นับถือพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เป็นสำคัญ เชื่อว่าเทพมี นาคมี บาปมี บุญมี พยายามทำตามหลักไตรสิกขา พิจารณาสรรพสิ่งตามไตรลักษณ์ เดินตามมรรค8ไปเรื่อยๆ ทุกข์น้อยลง สุขตามอัตภาพครับ
07 ส.ค. 2562 เวลา 12.29 น.
Supermom
ยังไงก็ยังเคารพ นับถือ และศัธทรา ใน พระบารมี ของพระเสื้อเมือง พระทรงเมิอง พระหลักเมือง ที่ดูแลคุ้มครองบ้านเมือง และประชาชน ให้อยู่เย็นเป็นสุข มา ตลอด คะ
07 ส.ค. 2562 เวลา 12.25 น.
ที่บ้านมีหลายรุ่นเก็บไว้วันข้างหน้าอาจมีค่าขึ้นมาซื้อมาแล้วจะไม่ทิ้งเหมือนข่าวที่ลงบาปเวรกรรมท่านไม่เคยทำความเดือดร้อนให้ใครมีคนทำกันเองนะ
07 ส.ค. 2562 เวลา 12.27 น.
ไม่มีบารมีจริง คงไม่กล้านำทูลเกล้าถวาย ร.9 และพระองค์ทรงนำมาใช้ มหาดเล็กเห็น จึงได้เป็นข่าวเกรียวกราวขึ้นมา รุ่นถวายในหลวงยังมีผู้ต้องการอยู่ แต่ยากมากที่จะได้ และรุ่นต่อๆมาอีกหลายรุ่นที่เจ้าของเดิมยังหวงอยู่ ที่เสื่อมลงคือตอนหลังทำกันอย่างสุกเอาเผากินไม่รู้รุ่นไหนเยอะไปหมดความเสื่อมจึงมาเยือน
07 ส.ค. 2562 เวลา 12.47 น.
สรร
ทำกันมั่วไปหมดเลยไม่เห็นคุณค่า
07 ส.ค. 2562 เวลา 14.29 น.
ดูทั้งหมด