เช็กให้ชัวร์ เทียบให้ชัด โรคจาก “ไวรัส RSV” กับ “มือ เท้า ปาก” โรคฮิตติดอันดับ
ทันข่าว Today
อัพเดต 18 พ.ย. 2563 เวลา 00.00 น. • เผยแพร่ 18 พ.ย. 2563 เวลา 00.00 น. • ทันข่าว Channel“ไวรัส RSV” กับ “มือ เท้า ปาก”
เปรียบเทียบอาการ 2 โรคในเด็กเล็ก ที่กำลังเเพร่ระบาดอยู่ในขณะนี้
โรคติดเชื้อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัสอาร์เอสวี (RSV) และโรคมือ เท้า ปาก ที่มักพบบ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งทั้ง 2 โรคนี้ยังไม่มีวัคซีนป้องกัน เเละยังไม่มียารักษาโดยเฉพาะ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการเท่านั้น
“อาการของโรค คือมีไข้สูง ไอมากและมีเสมหะมาก ซึมลง หายใจลำบาก หอบเหนื่อย ตัวเขียว จากการขาดออกซิเจนสามารถติดต่อผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งต่างๆ เช่น น้ำมูก น้ำลายที่ปนเปื้อนในสิ่งแวดล้อม เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ลูกบิดประตู ของเล่นและผ่านการหายใจเอาละอองจากการไอ จาม ของผู้ป่วยเข้าไปในร่างกาย โดยเชื้อไวรัสอาร์เอสวีสามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานหลายชั่วโมงและสามารถอยู่ที่มือของเราได้นานประมาณ 30 นาที” บางส่วนจากการเตือนถึงการระบาดของโรค RSV ของ กทม. โดยศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร(ปลัด กทม.)
อาการของ RSV – ตามหลัก 3 S
ลักษณะอาการไข้ ไอ เสมหะ น้ำมูก บางรายอาการหนักมี หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด ตามการอธิบายจากเพจ Infectious ง่ายนิดเดียว ว่า อาการของ RSV นั่นมีหลักการมี 3 S ก็คือ
- Swelling หลอดลมบวม ตีบแคบ ทำให้หายใจหอบเหนื่อย ลมเข้าปอดได้ แต่ออกลำบาก เด็กจึงต้องหายใจเร็วและแรง ใช่กล้ามเนื้อกระบังลมช่วยหายใจ
- Spasm หลอดลมไวและตีบได้ ไวต่อสิ่งกระตุ้น
- Secretion สารคัดหลั่งในหลอดลมมาก และอุดหลุดลม หายใจลำบาก ต้องดูดเสมหะช่วย บางรายรุนแรง เขียว หายใจล้มเหลว ต้องให้ออกซิเจน หรือใส่ท่อช่วยหายใจใน icu กลุ่มเสี่ยง เด็กเล็กอายุน้อยกว่า 5 ปี ยิ่งอายุน้อยยิ่งรุนแรง คลอดก่อนกำหนด มีโรคประจำตัวเช่น ปอด หัวใจ
โรคอาร์เอสวี (RSV) ชื่อเต็มคือ Respiratory syncytial virus เป็นเชื้อไวรัส ที่เป็นสาเหตุของไข้หวัดหลอดลมอักเสบ ซึ่งพบมากในเด็กทุกกลุ่มอายุ ส่วนมากอาการไม่รุนแรงมักหายป่วยภายใน 1-2 สัปดาห์ แต่อาจจะพบว่ามีอาการรุนแรงได้ในเด็กเล็ก โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กอายุน้อยกว่า 1 ปี
อาการของ “มือ เท้า ปาก”
โรคมือ เท้า ปาก เกิดจากเชื้อไวรัสในกลุ่มเอ็นเทอโรไวรัส ซึ่งเป็นไวรัสที่แพร่เชื้อได้ง่ายในเขตร้อน และเขตอบอุ่น ระยะหลังๆมานี้ เริ่มพบโรคมือ เท้า ปาก กับเชื้อที่มีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นที่ชื่อว่า EV71 ทำให้เด็กเล็กสมองอักเสบได้ ส่วนใหญ่จะพบผู้ป่วยเป็นเด็กเล็ก เด็กทารกอายุต่ำกว่า 5 ปี แต่ปัจจุบันพบเด็กที่โตขึ้น และผู้ใหญ่บางคนเช่น พ่อแม่ ที่ดูแลลูกที่ป่วยเป็นโรคมือ เท้า ปาก ก็สามารถเป็นโรคนี้ได้เช่นกัน เนื่องจากเป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัสนั่นเอง
1. อาการคล้ายหวัด มีไข้ อ่อนเพลีย ไม่มีแรง เจ็บคอ ปวดศีรษะ แต่มีเม็ดตุ่มใสๆ ขึ้นตามมือ เท้า ปาก และตุ่มในช่องปาก ทำให้กลืนอาการลำบาก
2. เชื้อไวรัสเอ็นเทอโรไวรัสบางสายพันธุ์ อาจทำลายเนื้อเยื่ออวัยวะต่างๆ ทำให้เซลล์บางส่วน เช่น เซลล์กล้ามเนื้อ เซลล์ประสาม หรือเซลล์สมองทำงานผิดปกติ จนทำให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือเป็นอัมพาตได้ โดยอาการที่เกิดขึ้นเพิ่มขึ้นมา ขึ้นอยู่กับชนิด และสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่ได้รับ
กรมควบคุมโรคเปิดเผยว่าโรคมือ เท้า ปากมักพบในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี สถานการณ์ของโรคมือ เท้า ปาก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 24 กุมภาพันธ์ 2563 มีรายงานผู้ป่วยจำนวน 3,244 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต ผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเด็กเล็กและเด็กช่วงวัยเรียน โดยกลุ่มอายุที่พบมากที่สุดคือ แรกเกิด-4 ปี (83.63%) รองลงมา อายุ 5-6 ปี (5.24%) และ อายุ 7-9 ปี (4.50%) ซึ่งจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ น่าน เชียงราย ชุมพร ลำปาง และเชียงใหม่
(ข้อมูลจาก กรมควบคุมโรควันที่ 27 ก.พ. 2563)
การป้องกัน ที่พอจะช่วยได้
1. หลีกเลี่ยงไปชุมชนคนเยอะ หรือเลี่ยงการอยู่ใกล้ผู้ใหญ่ และเด็กที่ป่วย ถ้าป่วยต้องอยู่บ้าน หยุดเรียน พบแพทย์
2. วัคซีนโรคอื่น ๆ ที่ป้องกันพบร่วมได้ เช่น ไข้หวัดใหญ่ วัคซีนไอพีดี เป็นทางเลือกสามารถฉีดได้
3. รักษาความอบอุ่นของร่างกาย ช่วงนี้อาการเย็น หนาว ไวรัสชอบ
4. คนมีโรคประจำตัวเช่น หอบหืด โรคหัวใจ โอกาสติด RSV แล้วอาการรุนแรงกว่าเด็กทั่วไป ต้องระวัง อย่าขาดยาประจำ ป่วยรีบมาพบแพทย์
5. ล้างมือ สวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง ป้องกัน RSV ไข้หวัดใหญ่ ปอดอักเสบได้ มาตรการเดียวกับป้องกันโรคโควิด-19
ที่มา
https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=15306&deptcode=brc&news_views=457