"สายไหมต้องรอด" พา "พิม" เน็ตไอดอลสาว ร้องไซเบอร์ ปมคลิปหลุด เผยคนแชร์ต่อเตรียมค่าปรับอ่วม
เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2567 เวลา 10.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจสืบสวนอาชญากรรทางเทคโนโลยี 1 (บก.สอท.1) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พาผู้เสียหายจากกรณีคลิปหลุดในสื่อโซเชียล ของพิมพ์ กรกนก นางแบบ เน็ตไอดอล ที่ร้องขอความเป็นธรรมกับทีมงานสายไหมต้องรอด จึงได้พาผู้เสียหายเข้าพบ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจ สืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 เพื่อให้ตามเรื่องดังกล่าว
โดยพล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ เผยว่าหลังจากนี้จะให้ทางพนักงานสอบสวนหญิงสอบปากคำน้องพิมพ์และจะใช้เครื่องมือชนิดพิเศษของตำรวจไซเบอร์ ในการตรวจวิเคราะห์ในสื่อออนไลน์ต่างๆที่มีการแชร์คลิปออกไปและออกหมายเรียกแฟนเก่า ของนางสาวกรกนกมาสอบปากคำว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับคลิปดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งจะดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ตามประมวลกฏหมายอาญาข้อหา หมิ่นประมาทการโฆษณา ม.328 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 2 ปี และเผยแพร่สื่อลามกอนาจารเพื่อวัตถุประสงค์ทางการค้า ม.287 ซึ่งมีโทษจำคุกสูงถึง 3 ปี อีกทั้งจะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ม.14(4) และ (5) ทั้งนำเข้าข้อมูลลามกสู่ระบบคอมพิวเตอร์และเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลลามกดังกล่าว ซึ่งต่างมีโทษจำคุกสูงถึง 5 ปี รวมไปถึงผู้เผยแพร่หรือแชร์ต่อกันในโลกออนไลน์โดยจะสามารถสืบทราบได้หมด ก่อนจะนำมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป
ต่อมานายเอกภพ เผยว่าแฟนเก่าไม่ใช่คนเกาหลี เป็นคนที่เลิกรากันหลังจากคบกับคนเกาหลีแล้ว โดยได้สอบถามไปยังฝ่ายชายว่าทำไปเพื่ออะไร ส่วนกรณีที่ฝ่ายชายออกมาบอกว่าไม่ได้เป็นคนเผยแพร่นั้น มองว่าคลิปหลุดไปได้อย่าไรในเมื่อคุณไม่ยอมลบคลิปดังกล่าวตามที่ตกลงกัน มองว่าต่อให้อ้างว่านำโทรศัพท์มือถือไปส่งซ่อมแล้วคลิปหลุดจากช่างซ่อมมือถือนั้น ยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ซึ่งหวังว่าทางตำรวจไซเบอร์จะสามารถนำคนผิด โดยเฉพาะผู้แชร์คลิปและผู้ลงคลิปกระจายสู่โซเชียลมีเดียมาดำเนินคดีให้ได้
“อย่าทำเลย มันน่ารังเกียจ พฤติกรรมคุณ และในปัจจุบันอัตราโทษสูงปรับหลักแสน ฝากคนที่แชร์ ให้เตรียมเงินไว้คนละแสน ใครที่แชร์แม้กระทั่งในกลุ่มไลน์ เครื่องมือพิเศษขอตำรวจไซเบอร์ไล่ได้หมด ถ้าเจอคลิปต้นแบบก็ไล่ได้หมด ส่งต่อร้อยคนพันคน“ นายเอกภพกล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามความรู้สึกของนางสาวกรกนกนั้นเผยว่า ตอนนี้เริ่มมีสภาพจิตใจที่โอเคขึ้น เพราะมีหลายคนที่ส่งกำลังใจให้ รวมทั้งหลายคนก็ให้เกียรติด้วยการไม่แชร์ต่อและช่วยกันกด Report คลิป อีกทั้งยังมีผู้หลักผู้ใหญ่หลายฝ่ายเข้ามาให้การช่วยเหลือ ไม่เข้าใจว่าคนที่ปล่อยคลิปมีวัตถุประสงค์อะไร ทำไมต้องใจร้ายด้วย ซึ่งขอความเห็นใจแก่โซเชียลมีเดียว่า โปรดให้เกียรติตน หากเห็นคลิปดังกล่าว ก็ขอไม่แชร์ต่อ อย่าดู หรือช่วยกันกด Report จะดีที่สุด ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่ได้มาแจ้งความกับตำรวจไซเบอร์