โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

สังคม

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2567

สวพ.FM91

อัพเดต 12 ส.ค. เวลา 22.39 น. • เผยแพร่ 12 ส.ค. เวลา 22.39 น.

24 ชั่วโมงข่าว 91 ประจำวันที่ 12 สิงหาคม 2567

>> พบร่างผู้เสียชีวิต 2 ศพบนเตียงนอน พร้อมอาวุธปืนตกอยู่ข้างกาย ตร.คาดปมหึงหวง

08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนราธิวาส ได้รับแจ้งเหตุพบผู้เสียชีวิต 2 ราย ภายในห้องพัก บนโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.บางนาค อ.เมือง จ.นราธิวาส

ที่เกิดเหตุ พบห้องพักดังกล่าว เจ้าหน้าที่พบว่าห้องถูกล็อกจากด้านใน จึงประสานอาสาร่วมดำเนินการเปิดประตู จากการตรวจสอบภายในห้องพบร่างผู้เสียชีวิต 2 รายเป็น ชายไทย อายุ 32 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.เมือง.นราธิวาส และหญิงไทย อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาชาว อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง นอนอยู่บนเตียงดัวยกันทั้งคู่ ตรวจสอบเบื้องต้นพบอาวุธปืน 1กระบอกตกอยู่บนเตียงข้างผู้เสียชีวิต

จากการให้การของพนักงานตอนรับของโรงแรม ให้การว่า ผู้เสียชีวิตที่เป็นหญิง อายุ 48 ปี ได้มาเปิดห้องพักดังกล่าวในวันที่ 10 ส.ค. 2567 ช่วงเวลาค่ำๆ จำเวลาที่แน่นอนไม่ได้ และในวันที่ 11 ส.ค. 2567 เวลาประมาณ 12.00 น. ซึ่งตามปกติคือช่วงเวลาที่ต้องเช็คเอาท์ ได้มี รปภ.ขึ้นไปเคาะห้องเรียก แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับหรือมีผู้ใดออกมาเปิดห้องแต่อย่างใด ต่อมาถึงช่วงเช้าของวันที่ 12 ส.ค. 2567 พนง.ฯ ได้ขึ้นไปเคาะห้องอีกครั้งเพื่อจะคุยเรื่องค่าห้อง แต่ก็ไม่มีผู้ใดออก จึงโทรแจ้งกู้ภัย และ ตร. เพื่อจะพังประตูเข้าไป เมื่อเปิดเข้าจึงได้พบร่างของทั้ง 2 ราย ในสภาพที่ ผู้ชายนอนคว่ำและถอดเสื้ออยู่บนที่นอน ส่วน ผู้หญิงนอนหงายทับอยู่บนร่างของผู้ชาย และยังพบอาวุธปืน ลูกโม่ ขนาด .38 SPL ในมือขวาของผู้หญิง

จากการสอบถามเพิ่มเติมจากญาติของ ชายที่เสียชีวิต ทราบว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 เคยคบหากัน และฝั่งผู้ชายได้ไปแต่งงานใหม่เมื่อประมาณ 2-3 เดือนที่ผ่านมา เบื้องต้นจึงน่าจะเกิดจากการหึงหวง ทั้งนี้พนักงานสอบสวนได้นำศพผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย ส่งชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลนราธิวาสฯเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงต่อไป

>> นายกฯ ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

08.15 น. ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567 พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและภริยา และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี

นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ถวายแจกันดอกไม้เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้น นายกรัฐมนตรีลงนามถวายพระพร รองนายกรัฐมนตรีและภริยาถวายความเคารพพระฉายาลักษณ์ฯ เสร็จพิธี

>> พบตำรวจหญิงและลูกสาวเสียชีวิต 3 รายภายในบ้านพัก เจอโซดาไฟในห้องน้ำ ตร.เร่งสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง

13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ เมืองชลบุรี พร้อมอาสากู้ภัยธรรมรัศมีมณีรัตน์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนหมดสติไม่มีชีพจร ภายในบ้านพักตำรวจ สภ.เมืองชลบุรี ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ชลบุรี

ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบว่าภายในห้องน้ำชั้นล่างของบ้านหลังดังกล่าว พบร่างของผู้หมดสติ เป็นผู้หญิงจำนวน 3 ราย โดยตอนกู้ภัยไปถึงมีครอบครัวตำรวจที่อาศัยอยู่ใกล้เคียงช่วยกันปั๊มหัวใจก่อนหน้านี้แล้ว กู้ภัยปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการปั๊มหัวใจให้ออกซิเจน เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 1 ราย ไปเสียชีวิตโรงพยาบาล 2 ราย รวมเสียชีวิต 3 ราย ภายในบ้านพักมีกลิ่นเหม็นของสารโซดาไฟโชยออกมาข้างนอก แต่ด้านในบ้านตำรวจไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้าไปเด็ดขาด โดยผู้เสียชีวิตทราบต่อมาคือ ร.ต.อ.หญิง อนัญญา หรือผู้กองนก อายุ 60 ปี ตำแหน่ง รอง สว.สส.สภ.เมืองชลบุรี (แม่) น.ส.จิตรพิสุทธิ์ อายุ 34 ปี (ลูกสาว) และ น.ส.ปัณณิกา อายุ 25 ปี (ลูกสาว)

ต่อมา พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ อยู่ไพร ผกก.สภ.เมืองชลบุรี สอบถาม น.ส.ข้าวฟ่าง เพื่อนสนิทของ น.ส.จิตรพิสุทธิ์ ลูกสาวคนโต โดยเล่าว่า ตนเพิ่งมาหาเพื่อนเมื่อวานนี้บ่ายสาม และเมื่อเช้าแม่นก ให้ไปซื้อโซดาไฟ เพื่อมาเทใส่ท่อในห้องน้ำเพราะท่อตัน จากนั้นตนก็ขับรถเก๋งคันสีขาวออกไปทำธุระด้านนอก กลับมาไม่เห็นใครเรียกก็ไม่มีเสียงตอบรับ เดินไปดูชั้นบนก็ไม่มีใคร จึงเดินลงมาชั้นล่างไปเปิดประตูห้องน้ำก็พบทั้ง 3 คน นอนกองกันอยู่ จึงไปเรียกบ้านข้าง ๆ มาช่วย

เบื้องต้นตำรวจให้กู้ภัยฯนำศพไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ชลบุรี เพื่อหาหลักฐานว่ามีสารโซดาไฟอยู่ในกระเพาะหรือไม่ เพื่อสอบสวนว่าเป็นอุบัติเหตุ หรือมีการจงใจฆ่า และจะสอบสวนเพื่อนตำรวจที่ใกล้ชิดว่า ผู้กองนก ผู้ตายได้พูดคุยปรึกษาปัญหาอะไรหรือไม่

>> รถกระบะ ชนเสาไฟเกาะกลาง มีผู้เสียชีวิตร่างติดค้างในยานพาหนะ

13.30 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมใจคุณธรรมตระการพืชผล มีอุบัติเหตุรถยนต์ชนเสาไฟฟ้าในที่เกิดเหตุมีคนบาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนเส้นทาง ตระการพืชผล - เขมราฐ ช่วงบ้านคอนสาย ในพื้นที่ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ โตโยต้า รีโว่ สีขาว ลักษณะชนกับเสาไฟแล้วพลิกตะแคง ตรวจสอบพบว่ามีผู้บาดเจ็บสาหัส เป็นชาย 1 ราย ทางอาสาสมัครให้การช่วยเหลือและนำตัวส่งโรงพยาบาลตระการพืชผล และภายในรถพบว่ามีผู้เสียชีวิต 1 รายเป็นผู้ชาย อายุประมาณ 50 - 60 ปี ใช้เครื่องตัดทางช่วยเหลือผู้เสียชีวิตออกจากซากรถ ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ตระการพืชผล

>> ศาลสั่งจำคุกอดีต ผอ.โรงเรียน 250 ปี ปมทุจริตค่าอาหารกลางวัน

13.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 6 มีคำพิพากษา จากกรณีคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา โดย นายสุเทพ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในพื้นที่สำนักงานเขตการศึกษาประถมศึกษา (สพป.) นครสวรรค์ เขต 3 ทุจริตค่าอาหารกลางวันของเด็กนักเรียน โดยเบิกจ่ายเงินค่าอาหารนักเรียนคนละ 20 บาท แต่จ่ายค่าจ้างประกอบอาหารให้ผู้รับจ้างในอัตรานักเรียนคนละ 14 บาท

โดยมีคำสั่งให้ นายสุเทพ มีความผิดตามมาตรา 147 (เดิม) , 151 (เดิม) , 162 (4) (เดิม) พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 12 (3/1) ประกอบ พ.ร.ป. ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 มาตรา 172 เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษตามมาตรา 151 พิพากษาลงโทษ จำคุกกระทงละ 5 ปี รวม 50 กระทง รวมโทษจำคุก 250 ปี แต่รับสารภาพลดเหลือ 150 ปี 200 เดือน ส่วนพวกอีก 1 รายคือ นายวิสุทธิ์ พวงจำปี เสียชีวิต จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ

แต่อย่างไรก็ตาม โดยหลักกฎหมาย เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว คงจำคุก 50 ปี และให้จำเลยคืน หรือชดใช้เงินแก่เทศบาลเมืองตาคลี จำนวน 596,028 บาท

>> รองผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอน ติดตามความช่วยเหลือ หลังเกิดฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่อำเภอปางมะผ้า

14.52 น. นายชีวิน ศรัทธา ประชาสัมพันธ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า วันนี้ (12 สิงหาคม 2567) เกิดน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
โดย นายชูชีพ พงษ์ไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน มอบหมายให้ นายอุดมศักดิ์ ขาวหนูนา รองผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในพื้นที่หมู่ที่ 3 บ้านไร่ ตำบลสบป่อง อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน น้ำป่าเอ่อล้นตลิ่ง ท่วมเส้นทางเข้าหมู่บ้าน พื้นที่การเกษตร โรงแรม เกสเฮาส์ และศูนย์วิจัยข้าวแม่ฮ่องสอน แต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ตำบลถ้ำลอด หมู่ที่ 5 บ้านเมืองแพม น้ำป่ากัดเซาะคอสะพานได้รับความเสียหายทั้งสองด้าน ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรไปมาได้

สำหรับความช่วยเหลือในเบื้องต้นทางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองอำเภอปางมะผ้า องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และหน่วยกำลัง ทหาร ตำรวจ ป่าไม้ เข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตู โดยการขนอุปกรณ์เครื่องใช้ของราษฎร์ขึ้นบนที่สูง และกำจัดขนเศษกิ่งไม้ ต้นไม้ที่ขวางทางน้ำ โดนมีการนำแพยางอพยพชาวบ้าน ออกจากพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว

>> รถนั่งส่วนบุคคลเสียหลักชนต้นไม้ร่องกลางถนน มีผู้เสียชีวิต 2 รายและมีบาดเจ็บเป็นเด็ก 8 ขวบ

15.05 น. รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุ รถนั่งส่วนบุคคลชนกับต้นไม้ข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บยังติดค้างภายในยานพาหนะ บนถนนทางหลวงหมายเลข 41 ในพื้นที่ ม.1 ต.คลองฉนวน อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

ที่เกิดเหตุ พบรถนั่งส่วนบุคคล โตโยต้า วีออส สีดำ ป้ายทะเบียน ภูเก็ต ลักษณะชนอัดติดอยู่กับต้นไม้ในร่องกลางถนน ตรวจสอบพบว่ามีผู้บาดเจ็บยังติดค้างภายในยานพาหนะ จำนวน 3 ราย ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องมือตัดถ่างงัดรถเพื่อนำร่างออกมา

โดย เป็นเด็กผู้หญิง อายุ 8 ปี อาการขาขวาผิดรูป รู้สึกตัวดี และหญิงไทย 1 ราย มีอาการสาหัส อาสาสมัครต้องทำ CPR ก่อนมอบให้รถกู้ชีพนำส่งโรงพยาบาลพระยุพราชเวียงสระ ส่วนอีก 1 รายนั้นพบว่าเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เป็นชายไทย อายุ 20 ปี และต่อมา ผู้บาดเจ็บที่เป็นผู้หญิงได้เสียชีวิตที่โรงพยาบาล ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขานิพัทธ์

>> รวบอดีตทหาร ตระเวนขโมยหัวทองเหลืองสายดับเพลิงตามหน่วยงานรัฐเมืองชุมพร

16.10 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม นำกำลังจับกุม นายเอก (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ตามหมายจับ ศาลจังหวัดชุมพร ข้อหา “ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การพาทรัพย์นั้นไปฯ”

จากการจับกุมทราบว่า ผู้ต้องหา นั้นเคยเป็นทหารยศสิบเอก แผนกช่างทหารอยู่ที่ค่ายแห่งหนึ่งที่จังหวัดลพบุรี ภายหลังถูกไล่ออกจากราชการ เนื่องจากก่อเหตุขโมยของหลวงจากภายในค่ายฯ จากนั้นก็เดินทางกลับมาใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาที่บ้านในจังหวัดชุมพร โดยไม่ได้ประกอบอาชีพอะไรเป็นหลักแหล่ง และไม่ทิ้งนิสัยเดิมคือยังออกตระเวนลักทรัพย์ในเวลากลางคืนในอำเภอเมืองชุมพร

ส่วนพฤติกรรมของผู้ต้องหาคือใช้รถจักรยานยนต์ตระเวนลักทรัพย์ โดยลงมือเพียงคนเดียว ล่าสุด เพิ่งไปขโมยหัวทองเหลืองสายดับเพลิงภายในห้างแห่งหนึ่ง และขโมยหัวทองเหลืองสายดับเพลิง ที่รพ.ชุมพร ก่อนนำไปแกะขาย ร้านค้าของเก่ากิโลกรัมละ 150-160 บาท ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน ,สถานประกอบการ หรือสถานที่ราชการ หลายแห่งเป็นอย่างมาก

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้สืบทราบว่าผู้ต้องหามาพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ม.7 ต.วังไผ่ อ.เมืองชุมพร จึงเข้าตรวจสอบและจับกุมดังกล่าว สอบสวน ผู้ต้องหายอมรับสารภาพ ก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองชุมพร ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

>> ไฟไหม้คอมฯ แอร์ ตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นออฟฟิศ ในไซด์งานก่อสร้าง จนท.ใช้น้ำดับทันไม่ลุกลาม

16.45 น. รับแจ้งจาก สมาคมกูัภัยร่วมใจลำพูน มีเหตุเพลิงไหม้ตู้คอนเทนเนอร์ดัดแปลงเป็นออฟฟิศชั่วคราว บริเวณไซด์งานก่อสร้าง ใกล้กับแยกสันป่าฝ้ายนิคมลำพูน ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ลำพูน

ที่เกิดเหตุ พบว่าเพลิงกำลังลุกไหม้ในส่วนของคอมเพรสเซอร์แอร์ ทางเจ้าหน้าที่สนับสนุนร่วมกับดับเพลิงเทศบาลบ้านกลาง กู้ภัยสว่างลำพูน ดำเนินการใช้น้ำจนสามารถควบคุมและเพลิงสงบในเวลาต่อมา ขณะเกิดเหตุไม่มีคนงานอยู่เนื่องจากเป็นวันหยุดยาว จึงไม่มีใครได้รับบาดเจ็บมีเพียงทรัพย์สินที่รับความเสียหาย ส่วนสาเหตุคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรบริเวณแอร์จึงทำให้เกิดเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว พื้นที่ สภ.เมืองลำพูน

>> รถกระบะเสียหลักพลิกคว่ำลงคูน้ำข้างทาง บาดเจ็บ 2 และเสียชีวิต 2 ราย

17.40 น. รับแจ้งจากมูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์นครปฐม มีอุบัติเหตุรถกระบะ เสียหลักพลิกคว่ำลงคูน้ำข้างทาง และมีผู้บาดเจ็บหลายราย ริมถนนเส้นทางคลองชลบัวทิพย์ ในพื้นที่ ม.9 ต.มาบแค อ.เมือง จ.นครปฐม

ที่เกิดเหตุ พบรถกระบะ ลักษณะพลิกหงายท้องจมอยู่ในคูน้ำ ทางอาสาสมัครเข้าตรวจสอบพบว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้ชายทั้ง 4 ราย โดยให้การช่วยเหลือ 2 รายก่อนมอบให้รถกู้ชีพ รพ.นครปฐม ดำเนินการ ส่วนอีก 2 รายนั้นมีอาการสาหัส เจ้าหน้าที่ดำเนินการทำ CPR แต่ไม่เป็นผล เสียชีวิตในเวลาต่อมา ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามควายเผือก

>> ทารกแรกเกิด ถูกทิ้งวันแม่ วางข้างคอห่านห้องน้ำเทศบาล

19.20 น. สภ.ศรีนครินทร์ เข้าตรวจสอบบริเวณห้องน้ำสาธารณะ หลังได้รับแจ้งว่า มีประชาชนได้ยินเสียงเด็กทารกร้องดังออกมาจากห้องน้ำ ริมถนนสายเพชรเกษม ฝั่งเข้าเมืองพัทลุง ในพื้นที่ อ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง

จากการตรวจสอบพบว่า ห้องน้ำดังกล่าวอยู่ในการดูแลของเทศบาลตำบลบ้านนา ซึ่งขึ้นป้ายปิดปรับปรุงมานานกว่า 1 เดือน ภายในห้องน้ำข้างโถส้วมพบเด็กทารกเพศหญิงเพิ่งคลอด คาดอายุไม่ต่ำกว่า 3 วัน สภาพสายสะดือยังติดอยู่กับท้อง ถูกห่อด้วยถุงพลาสติกใส โผล่เพียงใบหน้า กำลังร้องไห้เสียงดัง

เจ้าหน้าที่จึงรีบช่วยเหลือ และรีบนำส่ง รพ.ศรีนครินทร์ เพื่อตรวจสภาพร่างกาย พบว่าทารกมีน้ำหนัก 3.7 กิโลกรัม ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบบาดแผล เบื้องต้นจากการสันนิษฐานคาดว่าเพิ่งคลอดมาได้ประมาณ 2-3 วัน ก่อนถูกนำมาทิ้งไว้

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ฝากทารกไว้ที่ รพ.อำเภอศรีนครินทร์ เพื่อให้อยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งจะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าว เพื่อติดตามตัวผู้เป็นแม่ หรือบุคคลที่นำทารกมาทิ้งไว้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และส่งมอบทารกให้ญาติต่อไป

>> นายกฯ เป็นประธานพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลฯ

20.25 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2567 โดยมีผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญ ประธานวุฒิสภา คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เมื่อนายกรัฐมนตรี เดินทางถึงพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที นายกรัฐมนตรี ผู้แทนประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ทำวันทยหัตถ์หน้าพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แล้ววางพุ่มทอง พุ่มเงิน จากนั้น นายกรัฐมนตรี ถวายธูปเทียนแพ ทำวันทยหัตถ์ จุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวกราบบังคมทูลถวายพระพรชัยมงคล และกล่าวนำถวายพระพรชัยมงคลหน้าพระฉายาลักษณ์ฯ
จบแล้ว ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี นายกรัฐมนตรีรับมอบโคมเทียนและร่วมร้องเพลงสดุดีพระแม่ไทย 2 จบ แล้วนายกรัฐมนตรี กล่าวนำ “ทรงพระเจริญ” 3 ครั้ง เสร็จพิธี

>> ไฟไหม้บนอาคารพาณิชย์ เสียหายทั้งห้อง

22.45 น. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน สถานที่เกิดเหตุ อพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่ง ซอยศรีนครินทร์ 40 ถนนศรีนครินทร์ แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร

ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ 7 ชั้น ให้เช่าพักอาศัย ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ห้องพัก บนชั้น 3 เพลิงลุกไหม้กองเสื้อผ้าและลุกลามฝาผนัง พื้นที่เพลิงไหม้เสียหายโดยประมาณ 6 ตารางเมตร
ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรที่ปลั๊กไฟติดผนัง ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นเพศชาย จำนวน 1 ราย ได้รับบาดเจ็บกระจกบาดที่เท้า

อาสาสมัครดำเนินการปฐมพยาบาลในที่เกิดเหตุ ไม่ประสงค์ไปโรงพยาบาล ประชาชนใช้ถังดับเพลิงทำการดับเพลิงสงบ ก่อนรถดับเพลิงถึงที่เกิดเหตุ พื้นที่รับผิดชอบของสถานีดับเพลิงและกู้ภัยสุขุมวิท

>> คนร้ายใช้มีดจี้ชิงรถจักรยานยนต์

04.26 น. รับแจ้งจาก ศูนย์วิทยุผ่านฟ้า ตำรวจ 191 แจ้งเหตุ คนร้าย 1 คน สวมเสื้อสีชมพู กางเกงขาสั้นสามส่วน รูปร่างผอม ผมสั้นเกรียน สะพายกระเป๋า ใช้อาวุธมีดชิงรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียนจำได้แค่ 3451 ของผู้เสียหาย บริเวณหน้าตลาดบ็อคซ์ สเปซ ถนนรัชดาภิเษก แล้วหลบหนีไปไม่ทราบเส้นทาง พื้นที่ สน.พหลโยธิน

>> รถบรรทุก 4 ล้อเล็กพลิกตะแคงและมีผู้เสียชีวิต ถนนกาญจนาภิเษก

04.45 น. รับแจ้งจากมูลนิธิร่วมกตัญญู มีอุบัติเหตุรถบรรทุก 4 ล้อเสียหลักเสียหลักพลิกตะแคง และมีผู้เสียชีวิต ถนนกาญจนาภิเษก ฝั่งตะวันตก ฝั่งขาออก ในช่องทางหลัก เลยใต้สถานีรถไฟฟ้าคลองบางไผ่ ประมาณ 1 กม. บริเวณใต้สะพานกลับรถ หน้าหมู่บ้านจันทิมาธานี พื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี

ที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุก 4 ล้อเล็ก อีซูซุ สีขาว ป้ายทะเบียน นครปฐม ลักษณะพลิกตะแคงชิดกับขอบทางด้านขวา และใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิตชาย 1 รายอายุประมาณ 30 - 35 ปี ในส่วนของสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบัวทอง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0

ความเห็น 0

ยังไม่มีความเห็น