อินไซด์สนามร้อน : ส่องศึก‘6 ส.ส.นครปฐม’ ‘บ้านใหญ่’แก้มือ สู้ผู้ท้าชิง
สนามเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้ โฟกัสที่จังหวัดนครปฐม ปัจจุบันมีประชากร 901,330 คน ได้รับการแบ่งเขตเลือกตั้งจาก กกต.เพิ่มจาก 5 เขต เป็น 6 เขต
การเลือกตั้งเมื่อปี 2562 จังหวัดนครปฐมเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เสียงแตก คือ บ้านใหญ่เอาไม่อยู่ ตระกูลสะสมทรัพย์ นำโดย “พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์” หรือ “เสี่ยโหน่ง” ลูกชาย “ไชยา สะสมทรัพย์” อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่สวมเสื้อพรรคชาติไทยพัฒนา (เขต 2) ผ่านเข้ามาเพียงหนึ่งเดียว นอกนั้นเป็น “พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร” ปชป. (เขต 1) “สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา” พรรคอนาคตใหม่ (เขต 3) “ปฐมพงศ์ สูญจันทร์” พรรคพลังประชารัฐ (เขต 4) และ “จุมพิตา จันทรขจร” พรรค อนค. (เขต 5) และก่อนจะลาออก โดยการเลือกตั้งซ่อม “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” พี่ชายคนโตตระกูลสะสมทรัพย์ แก้มือนำ พรรค ชทพ. ชนะเลือกตั้ง ส.ส.เขต 5
ศึกเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ถือเป็นบทเรียนราคาแพงของบ้านใหญ่นครปฐม ที่ต้องซ่อมแซมฐานกำลังกันครั้งใหญ่ แต่ด้วยบารมีและการลงพื้นที่สร้างประโยชน์ให้ชาวนครปฐม ทำให้คนบ้านใหญ่สามารถกอบกู้ภาพลักษณ์กลับมาอีกคำรบ ในสนาม อบจ. ที่บ้านใหญ่ในนาม “กลุ่มชาวบ้าน” ส่ง “จิรวัฒน์ สะสมทรัพย์” หรือเสี่ยหนึ่ง เจ้าพ่อบ่อขยะ ลูกชายคนโต อดีตรัฐมนตรีไชยา คว้าชัย นายก อบจ. พร้อม ส.จ. 27 เขต จาก 30 เขต ถือว่าขาดลอย และยังแผ่บารมีออกไปยังหัวเมืองน้อยใหญ่ อย่างเทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และ อบต.
สำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงในปี 2566 บ้านใหญ่นครปฐม “อนุชา สะสมทรัพย์” รองหัวหน้าพรรค ชทพ. ประกาศปักธงชมพูขาว (ชทพ.) ทั้ง 6 เขต วางตัวแล้ว มี “ศุภโชค ศรีสุขจร” ลูกชาย ส.ว.ยู้ “พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์” “ก่อเกียรติ สิริยเสถียร” “อนุชา สะสมทรัพย์” “เผดิมชัย สะสมทรัพย์” โดยตั้งเป้าคว้าเก้าอี้ ส.ส.อย่างน้อย 4 ที่นั่ง
ขณะที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เปิดตัวครบ 6 เขต ได้แก่ “ศศนันท์ รัตนบรรเทิง” “ภาชินี เหลืองเพิ่มสกุล” “จารุพรรณ เพชรดี” “กิตติภณ ปานพรหมมาศ” “สาโรจน์ จุ้ยเจริญ” และ “ชิษณุพงศ์ ตั้งเมธากุล” ที่หวังฐานเสียงจากคนรุ่นใหม่ คนไม่เอาประยุทธ์ และคนเบื่อรัฐบาล คาดว่าจะได้ที่นั่ง ส.ส.ให้พรรคและคะแนนพรรคได้หลายอยู่
ส่วนพรรคใหญ่ อย่างพรรคเพื่อไทย (พท.) วางตัวผู้สมัครครบ 6 เขต แล้วเช่นกัน มี “ธนกร เชาวนเมธา” “ธนัญญา พันธุ์การรุ่ง” “วินัย วิจิตรโสภณ” “มนตรี คำหวาน” “ทรงพล ชูศิลป์กุล” และ “ระวัง เนตรโพธิ์แก้ว”
สำหรับพรรค พปชร. ของ “บิ๊กป้อม” พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและหัวหน้าพรรค พปชร. ส่ง “มารุต บุญมี” “รัฐกร เจนกิจณรงค์” “ศิรวริศ สวนแก้ว” “ณัฐวัฒน์ ชั้นอินทร์งาม” “จักรพงษ์ ทิมมณี” และ “มนตรี บุญประคอง” เข้าชิงเก้าอี้ ส.ส.สนามองค์พระ
ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เดิมมี ส.ส.หนึ่งเดียว คือ “พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร” แต่ปัจจุบันย้ายไปซบพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จัดขุนพลรุ่นเก๋าลงสนามเพื่อรักษาคะแนนนิยมของพรรคไว้ มี “สุเทพ เข้มแข็งปรีชานนท์” “ฐานุพงศ์ รังสิไตรพงศ์” “สุธรรม เข้มแข็งปรีชานนท์” “บุญสม สมบุญเก่า” “ชวินชยาทิต ภาณุหสตังไทรแก้ว” “พ.ต.อ.วีระยศ ชื่นกลิ่นธูปศิริ”
สำหรับพรรค รทสช. ที่หวังกระแส พล.อ.ประยุทธ์ ปั้น ส.ส.เข้าสภา วางตัว “ณัทกร แก้วพิจิตร” “พ.ท.สินธพ แก้วพิจิตร” “สุรชัย อนุตธโต” ไว้สู้ศึกเบื้องต้น
นอกจากนั้นยังมีพรรคเสรีรวมไทย รวมทั้งพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ส่งผู้สมัครหวังชิง ส.ส.นครปฐม
สนามเลือกตั้ง ส.ส.นครปฐม ต้องจับตาว่า บ้านใหญ่สะสมทรัพย์ จะรับมือและถอดบทเรียนจากการเลือกตั้งในปี 2562 เพื่อกวาด ส.ส.ยกจังหวัดนครปฐมได้หรือไม่
ส่วนผู้ท้าชิงของพรรคต่างๆ ที่อ่านเกมความพ่ายแพ้ของ “ตระกูลสะสมทรัพย์” เมื่อปี 2562 คงต้องเหนื่อยหน่อย เพราะเมื่อโฟกัสชื่อ เทียบชั้น ผู้สมัครในแต่ละเขต ของแต่ละพรรค
เสียงอาจจะแตกซ้ำรอยเหมือนปี 2562 หรือไม่ จะพลิกเป็นสูตร 4-2 หรือ 4-1-1 หรือ 3-1-1-1 เพราะนครปฐมมีบ้านใหญ่ “สะสมทรัพย์” ก็จริง แต่ยังมีบ้านรองอย่าง “แก้วพิจิตร” ที่ยึดฐานที่มั่น เทศบาลนครนครปฐม มายาวนานจากรุ่นพ่อสู่ลูกชาย จึงยากที่ใครจะเจาะไข่แดง พื้นที่ยอดแหลมนี้ได้
โดยชาติไทยพัฒนา ไม่เปลี่ยนแปลง ประชาธิปัตย์ เปลี่ยนใหม่ยกชุด พลังประชารัฐ เปลี่ยนใหม่ยกชุด เพื่อไทย จัดทีมใหม่ยกชุด ก้าวไกล ส่งใหม่ยกชุด ภูมิใจไทย เปลี่ยนทีม เสรีรวมไทยคงเดิม ปรับเปลี่ยนแค่บางเขต
หากจะให้ฟันธงล่วงหน้าว่าผู้สมัครจากพรรคไหนจะเข้าวินบ้าง คงต้องฟันธงไปที่ กลุ่มบ้านใหญ่ สะสมทรัพย์ อาจจะได้เข้ามา 3-4 เขต พลังประชารัฐ อาจจะได้ 1-2 เขต รวมไทยสร้างชาติ อาจจะได้ 1-2 เขต ภูมิใจไทย อาจจะได้ 1 เขต
ขณะที่บ้านรอง อย่าง “แก้วพิจิตร” ฟันธง “เสธ.แก้ว” ในเสื้อใหม่ รวมไทยสร้างชาติ จะปักธง ส.ส. ให้ “บิ๊กตู่” ชื่นใจก็จริง แต่ปี’66 อาจจะไม่ง่าย เพราะมี “รัฐกร” หรือที่ชาวบ้านเรียก “ส.ส.เบ้” เด็ก “บิ๊กป้อม” มาท้าชิง ที่ว่าไม่ง่ายเพราะ “ส.ส.เบ้” ถือเป็นอดีต ส.ส. ในสังกัดของ บ้านใหญ่ “สะสมทรัพย์” แต่แยกวงมาอยู่กับ พปชร. คู่นี้เรียกว่าถูกคู่ ถูกเวลา