สาวจีนตัดสินใจขายบริษัททิ้ง นำเงินไปซื้อรถบ้านขับพาพ่อบุญธรรมเที่ยว ตอบแทนที่เก็บเธอมาเลี้ยง อดทนทำงาน-เก็บขยะ เลี้ยงดูเธอมาอย่างลำบาก
เรื่องราวดังกล่าวเป็นของ "จางซวงฉี" พ่อชราวัย 75 ปี และ"จางไป่เกอ" ลูกสาววัย 24 ปี ทั้งคู่ไม่ใช่พ่อลูกกันแท้ ๆ จางซวงฉีเป็นเพียงชาวนาผู้ยากจน แต่เขาก็รับเลี้ยงจางไป่เกอโดยไม่มีข้อแม้ จนวันนี้ลูกสาวได้ประสบความสำเร็จ เธอจึงตอบแทนคุณของพ่อผู้นี้เป็นอย่างดี
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคมปี 2540 ขณะนั้นจางซวงฉีเป็นเพียงชาวนา อาศัยอยู่ที่ชนบทแห่งหนึ่งในมณฑลเหอหนาน แม้ว่าเขาจะมีอายุมากแล้ว แต่เขายังไม่ได้แต่งงานเพราะความยากจนเป็นเหตุ
วันหนึ่ง ขณะที่จางซวงฉีเดินทางไปทำนา เขาได้พบทารกถูกทิ้งไว้ที่ทุ่งนา เขาจึงนำทารกกลับบ้านมาด้วยชั่วคราว จากนั้นก็ไปสอบถามคนในหมู่บ้านว่ามีใครลืมทารกไว้หรือไม่ สุดท้ายเขาก็รับรู้ว่าทารกตัวน้อยได้ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง
จางซวงฉีตัดสินใจเลี้ยงดูทารกน้อย โดยตั้งชื่อให้เธอว่า"จางไป่เกอ" และเพื่อที่ให้ลูกสาวมีชีวิตที่ดี เขาไม่เพียงแต่ทำงานในทุ่งนาทุกวัน แต่เขายังใช้เวลาที่เหลือเก็บขยะตามหมู่บ้านและเมืองใกล้เคียงไปขายอีกด้วย
เมื่อจางไป่เกอเติบโตขึ้น เธอต้องไปโรงเรียนและเข้าสังคม จางซวงฉีรับรู้ดีว่าลูกสาวอาจจะรู้สึกไม่ดีต่อสายตาผู้คนที่มองมา เขาจึงทำงานให้หนักขึ้น ช่วงเวลากลางคืนที่ลูกสาวเข้านอน เขายังคงออกไปหาขยะมาขายเสมอ
ด้วยความเยาว์วัย จางไป่เกอก็มีช่วงเวลาที่ทำตัวไม่ดีต่อพ่อ แต่ไม่ว่าเธอจะทำตัวเลวร้ายแค่ไหน พ่อก็เข้าใจและไม่เคยต่อว่าเธอเลยสักครั้ง จึงทำให้เธอเริ่มรู้สึกผิดและเริ่มทำดีกับพ่อมากขึ้น
"ฉันจำได้วันนั้นฝนตกหนัก พ่อไปรับฉันที่โรงเรียน เพราะพ่อตัวเตี้ย ฉันเห็นพ่อเขย่งเท้ามองหาฉันท่ามกลางผู้ปกครองคนอื่น ๆ ตอนนั้นฉันจงใจหลบเลี่ยงพ่อ แต่เมื่อพ่อเห็นฉัน พ่อก็ยื่นร่มให้โดยไม่พูดอะไร แล้วพ่อก็เดินกลับบ้านท่ามกลางสายฝน
และก็มีอยู่วันหนึ่ง ฉันน้อยใจเรื่องอาหาร เพราะที่ผ่านมาเราทานแต่อาหารเดิม ๆ ฉันเลยพลิกโต๊ะจนคว่ำ ทำให้จานข้าวกระจัดกระจาย แต่พ่อก็ไม่ได้ดุด่าฉัน พ่อเพียงก้มเก็บเศษข้าวตรงพื้นอย่างเงียบ ๆ"
เมื่อจางไป่เกอเข้าเรียนมหาวิทยาลัย จางซวงฉีต้องทำงานหนักขึ้น เขาประหยัดและอดออมมาก ทานเพียงซาลาเปา หรือก๋วยเตี๋ยวที่มีแต่ผัก อาหารจะดูหรูหรามีเนื้อสัตว์ก็ต่อเมื่อลูกสาวกลับมาบ้านเท่านั้น
จนวันหนึ่ง จางไป่เกอได้กลับมาบ้านโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า เธอก็เห็นพ่อนั่งทานอาหารที่มีแต่เศษผัก เธอตระหนักทันทีว่าต้องหาเงินมาเลี้ยงดูพ่อให้ได้ เธอจึงเริ่มทำงานพาร์ทไทม์หลายงาน
งานแรกของจางไป่เกอคือเป็นเด็กเสิร์ฟ ได้เงินเดือน 800 หยวน (ราว ๆ 4,000 บาท) เธอรีบนำเงินที่ได้มาซื้อเตียงให้พ่อ เพราะพ่อไม่เคยนอนเตียงดี ๆ มาก่อนในชีวิต เมื่อเห็นสีหน้าที่พึงพอใจของพ่อ เธอก็ตั้งมั่นว่าจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อทำให้พ่อมีชีวิตที่ดีขึ้น
แต่ผลของการทำงานหนักทำให้จางไป่เกอก็เริ่มป่วย จางซวงฉีใช้เงินเก็บทั้งหมดมาดูแลลูกสาว เขาพาเธอปักกิ่งเพื่อไปพบแพทย์ที่มีชื่อเสียง ตลอดเวลาที่อยู่ที่ปักกิ่ง สองพ่อลูกต้องอาศัยอยู่ในห้องเช่าใต้ดิน เดินทางไปมาระหว่างโรงพยาบาลทุกวัน
หลังจากจางไป่เกอมีสุขภาพที่ดีขึ้น เธอเริ่มหันมาขายผลิตภัณฑ์ดูแลผิว โชคดีที่มีกระแสตอบรับดี เธอมีฐานลูกค้าจำนวนมาก เมื่อผลประกอบการดีขึ้นเรื่อย ๆ เธอก็ซื้อบ้านในเมืองและย้ายพ่อมาอยู่ด้วย พร้อมกับตั้งบริษัทของตัวเอง
จางไป่เกอประสบความสำเร็จมีเงินหลักร้อยล้าน มีบริษัทและผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเอง ทุกคนคิดว่าเธอจะดูแลและพัฒนาธุรกิจต่อไป แต่เธอก็ทำให้ทุกคนตกใจด้วยการขายบริษัทและนำเงินไปซื้อรถบ้าน พาพ่อเดินทางเที่ยวทั่วประเทศและทั่วโลก
มีหลายคนตั้งคำถามว่า ทำไมจางไป่เกอถึงทิ้งธุรกิจและเลือกเดินทางไปเที่ยวกับพ่อวัยชราที่ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้นานเพียงไหน เธอให้คำตอบว่า พ่ออายุ 70 กว่าแล้ว ร่างกายทรุดโทรมลงทุกวัน เธอไม่รู้ว่าเธอจะอยู่กับพ่อได้นานแค่ไหน และที่สำคัญหากไม่ได้พ่อเก็บมาเลี้ยง ก็คงไม่มีเธอในทุกวันนี้
จางไป่เกอหวังว่าพ่อจะมีความสุขกับชีวิตในวัยชรา เธอเป็นหนี้บุญคุญของพ่อ ในวัยเยาว์เธอทำให้พ่อต้องทนทุกข์มามากมาย ตอนนี้เธอต้องการตอบแทน เพียงแค่เห็นรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าของพ่อเธอก็มีความสุขแล้ว
ความเห็น 49
Tarn
BEST
ขอให้ลงข่าวที่มีเนื้อหาแบบนี้เยอะๆค่ะ ไม่ต้องเอาดาราใส่ชุดว่ายน้ำมาลง กราบ
26 เม.ย. 2565 เวลา 12.49 น.
Wanna S.
BEST
เป็นเรื่องที่ดีต่อใจมากเลยค่ะ
26 เม.ย. 2565 เวลา 12.24 น.
Natty168
BEST
ชื่นชมจริงๆ ทำดีต่อไปๆ ขอให้ท่านอายุยืนอยู่กับลูกไปนานๆ
26 เม.ย. 2565 เวลา 12.27 น.
-^^namwan^^-
ขอให้เจริญๆค่ะ🎉🎉
26 เม.ย. 2565 เวลา 12.31 น.
☆ TiV@ ☆leg
สาธุ...
26 เม.ย. 2565 เวลา 11.23 น.
ดูทั้งหมด