โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"มิลลิ" ขอโทษแล้ว หลังเจอกระแสดราม่าจนแฮชแท็ก แบนมิลลิ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 11 ต.ค. 2565 เวลา 01.51 น. • เผยแพร่ 11 ต.ค. 2565 เวลา 01.25 น.

"มิลลิ" (MILLI) ขอโทษแล้ว หลังเจอกระแสดราม่าปมโพสต์ "ไปก็ไปเป็นภาระ" จนแฮชแท็ก #แบนมิลลิ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ "มิลลิ" (MILLI) หรือ "มิลลิ ดนุภา" แร็ปเปอร์หญิงชาวไทย ได้ออกมาเคลื่อนไหวโพสต์ปมกราดยิงหนองบัวลำภู ข้อความระบุว่า "ไปก็ไปเป็นภาระ ไม่ได้ช่วยเยียวยาจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิตเลยสักนิด" ทำชาวเน็ตต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์สนั่นว่าเจ้าตัวนั้นหมายถึงใคร และความเหมาะสมในช่วงเวลาโศกเศร้า ส่งผลให้ #แบนมิลลิ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

มิลลิ ขอโทษแล้ว หลังเจอกระแสดราม่าจนแฮชแท็ก แบนมิลลิ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ล่าสุดทางด้าน "มิลลิ" ก็ได้ออกมาทวีตข้อความ ระบุว่า "จากกรณีทวีตข้อความ "ไปก็ไปเป็นภาระ ไม่ได้ช่วยเยียวยาจิตใจครอบครัวผู้เสียชีวิตเลยสักนิด" ซึ่งข้อความดังกล่าวทำให้หลายท่านรู้สึกเสียใจและไม่พอใจ หนูขอน้อมรับผิดในครั้งนี้ ซึ่งเกิดจากอารมณ์และความไม่รอบคอบในการใช้คำพูดจนทำให้เกิดผลกระทบต่อจิตใจและขอโทษทุกท่านที่มีส่วนเกี่ยวข้องมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ โดยเฉพาะผู้ที่สูญเสียจากเหตุการณ์นี้ หนูตระหนักแล้วว่าทุกคน ทุกฝ่าย ต่างมีความตั้งใจที่จะช่วยเหลือและเยียวยาผู้สูญเสียด้วยกันทั้งนั้น

มิลลิ ขอโทษแล้ว หลังเจอกระแสดราม่าจนแฮชแท็ก แบนมิลลิ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

และขออนุญาตชี้แจงเพิ่มเติมเพื่อเสริมในสิ่งที่หนูอยากจะสื่อสาร สิ่งที่ตั้งใจสื่อในครั้งนี้คือการวิพากษ์วิจารณ์ในส่วนของวิธีการจัดการบนพื้นที่ที่เกิดเหตุ หนูเห็นว่าควรมีการกั้นพื้นที่จุดเกิดเหตุให้ชัดเจนและไม่ควรไปรบกวนพื้นที่ดังกล่าว เพราะเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อหลักฐานของคดี และหนูเป็นห่วงจิตใจของผู้ที่เสียบุคคลอันเป็นที่รักจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น จากข้อความที่หนูทวีตไปทำให้เกิดความเข้าใจผิดและถูกนำไปตีความคลาดเคลื่อนจากสิ่งที่หนูต้องการจะสื่อ ซึ่งก็เกิดจากการที่หนูพิมพ์ไปอย่างไม่ชัดเจนและไม่รอบคอบ หนูต้องขอโทษและจะปรับปรุงตัวในการใช้คำพูดต่อไปค่ะ"

มิลลิ ขอโทษแล้ว หลังเจอกระแสดราม่าจนแฮชแท็ก แบนมิลลิ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์

ขอบคุณข้อมูลจาก Tnews

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...