โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

เจ้าของร้านทอง ยิงโจรดับ ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่? งานนี้หลักฐานชัดเจน

ThaiNews - ไทยนิวส์ออนไลน์

อัพเดต 09 ธ.ค. 2565 เวลา 09.22 น. • เผยแพร่ 09 ธ.ค. 2565 เวลา 08.58 น.

เจ้าของร้านทองยิงโจรที่วิ่งหนี "ทนายเกิดผล" เจอหลักฐานแล้ว ให้ข้อมูลเรื่องกฎหมาย หลังโลกออนไลน์ถกสนั่น ผิดหรือไม่? กระทำเกินกว่าเหตุไหม

จากกรณีเกิดเหตุอุกอาจคนร้าย4คน บุกปล้นร้านทองเยาวราช รร.ตากพิทยาคม อ.เมือง จ.ตาก เหตุเกิดเมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2565 เวลา 12.55 น. โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงกระจกหน้าร้านและตู้กระจกทอง ก่อนถูกเจ้าของร้านทองดีกรีนักแม่นปืนใช้อาวุธปืนลูกซองยิงต่อสู้ ทำให้มีคนร้ายเสียชีวิต1ราย เเละบาดเจ็บ1ราย ถูกจับกุมตัวแล้ว ส่วนอีก2รายได้วิ่งหลบหนี ยังคงลอยนวล

ในขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองตาก ได้เร่งติดตามคนร้ายที่เหลืออีก2ราย คาดว่า อีก2คนร้ายแก๊งปล้นร้านทอง จ.ตากหลบหนี ลัดเลาะทะลุชายแดนอำเภอพบพระ แต่น่าจะใช้เวลาไม่นานในการตามตัวมาดำเนินคดี

ล่าสุดทนายเกิดผล แก้วเกิด ได้ออกมาโพสต์ถึงกรณีคนร้ายแก๊งปล้นร้านทอง หลังจากที่โซเชี่ยลได้ตั้งข้อสังเกตว่า เจ้าของร้านทองกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่?? เพราะในคลิปจะเห็นได้ว่า มีจังหวะที่คนร้ายปล้นทองวิ่งหนีออกจากร้านไปเเล้ว แต่เจ้าของร้านทอง ยังคงยิงปืนจากในร้านออกไปอีกหลายนัด หวั่นเจ้าของร้านทองจะทำผิดกฏหมาย

โดยทนายเกิดผล เจอหลักฐานอีกมุมพร้อมชี้แจงว่า เจ้าของร้านทอง ยิงโจรที่วิ่งหนี ทำเกินกว่าเหตุหรือไม่?? โดยในภาพถ้ามีภาพชัดว่า คนร้ายบางคนใช้อาวุธยิงต่อสู้เจ้าของร้านทอง ก็ถือว่า ภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายยังมีอยู่ เจ้าของร้านยิงป้องกันได้ ไม่ผิดกฎหมาย ไม่เป็นการป้องกันเกินกว่าเหตุครับ"คนร้ายตายฟรี"ครับ

ปล้นร้านทอง
ตามกฎหมาย เมื่อมีการยิงคนตาย ตำรวจจะต้องตั้งข้อหา ต่อเจ้าของร้านทอง
ในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา หรือพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
และเชื่อว่า พนักงานสอบสวน จะมีเห็นความเห็นทางคดี เสนอ สั่งไม่ฟ้อง เพราะเป็นการ ป้องกันโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามกระบวนการต่อไป

ปล้นร้านทอง
คนร้ายหนีไปแล้ว ถือว่า ภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายสิ้นไปแล้ว
เจ้าของร้านทอง ยิงคนร้ายตาย
ตามกฎหมาย จะต้องรับผิดหรือไม่ เพราะเหตุใด ⁉
การยิงคนร้ายที่กำลังหนี โดยคนร้ายไม่ได้ต่อสู้ อ้างป้องกันไม่ได้ เพราะเหตุ ภยันตรายอันละเมิดต่อกฎหมายได้ระงับสิ้นไปแล้ว
แม้แต่อ้างป้องกันเกินกว่าเหตุ ก็ไม่อาจอ้างได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5638/2533
..เมื่อพิเคราะห์ลักษณะบาดแผลที่ โจทก์ร่วมถูกยิงด้านหลัง แสดงว่าโจทก์ร่วมถูกยิงขณะกำลังวิ่งหนีออกจากบริเวณบ้านของนายมะพลับ การที่โจทก์ร่วมเข้าไปในบริเวณบ้านของนายมะพลับในเวลากลางคืนโดยไม่มีเหตุสมควรอันเป็นการละเมิดต่อกฎหมาย แต่เมื่อจำเลยมาพบโจทก์ร่วมก็ได้วิ่งหนีออกมา เหตุละเมิดดังกล่าวจึงหมดไปแล้ว

เพราะภยันตรายดังกล่าวพ้นไปแล้ว จำเลยน่าจะใช้วิธีอื่นเพื่อจับกุมตัวโจทก์ร่วมมาดำเนินคดีเท่านั้น การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมด้านหลังขณะที่โจทก์ร่วมกำลังวิ่งหนี จึงไม่ใช่เป็นการกระทำเพื่อป้องกันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 68 การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงโจทก์ร่วมจำเลยย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้นว่าหากกระสุนปืนไปถูกโจทก์ร่วมแล้ว โจทก์ร่วมย่อมได้รับอันตรายถึงแก่ชีวิตได้เพราะเป็นอาวุธที่ร้ายแรง

เมื่อการกระทำนั้นไม่บรรลุผลเพราะกระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญและแพทย์ทำการรักษาโจทก์ร่วมได้ทัน โจทก์ร่วมจึงไม่ถึงแก่ความตาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 80 และศาลอุทธรณ์ได้ใช้ดุลพินิจลดโทษให้จำเลยหนึ่งในสามนั้นเป็นผลดีแก่จำเลยอยู่แล้ว ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว ฎีกาจำเลยฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน

ติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมที่ tnews

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0