ปล่อยนก…เชื่อว่าจะทำให้ชีวิตรุ่งเรือง
ปล่อยปลาไหล…เชื่อว่าจะเสริมมงคลให้ชีวิตทั้งเรื่องเงิน งาน เรียน ความเจริญจะไหลมาเทมาแบบชื่อปลาไหล
ปล่อยเต่า…เชื่อว่าจะอายุยืนยาวเหมือนเต่า
สารพัดวิธีการปล่อยสัตว์เพื่อสะเดาะเคราะห์ เพราะเชื่อกันว่าจะช่วยเสริมดวงให้คนปลดปล่อยพวกมัน หลายสถานที่เองก็จัดให้มีพิธีกรรมเช่นนี้ ไม่เว้นแม้แต่วัดวาอาราม
ปล่อยปลา ปล่อยเต่า ปล่อยนก ได้บุญจริงหรือจ้อจี้?
ว่ากันว่าการทำบุญ หรือทำกรรมดีใด ๆ ก็แล้วแต่ 'เจตนา' เป็นเครื่องบ่งชี้สำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ต่อให้จะได้สัตว์เหล่านั้นมาด้วยวิธีใดก็ตาม แต่เมื่อใจเราหวังดีต่อมัน เท่านี้เราก็ได้บุญแล้วไม่ใช่หรือ
ก็จริงเป็นส่วนหนึ่ง
แต่อีกส่วนก็ต้องดูสิ่งแวดล้อมรอบข้างและความเป็นมาเป็นไปด้วย
หากปล่อยสัตว์น้ำเค็มลงไปในน้ำจืด มนุษย์มีความสุข แต่ลำบากสัตว์เอานะ แล้วแบบนี้ยังคิดว่าได้บุญอยู่อีกหรือไม่
จากบุญจะกลายเป็นบาปเอาได้ เพราะกลายเป็นส่งสัตว์ไปโลกหน้าก่อนวัยอันควรเสียอย่างนั้น
หรือหากว่าปล่อยไปแล้ว สัตว์เหล่านั้นยังมีชีวิตอยู่ได้ดี แต่สุดท้าย ชีวิตพวกมันก็จะเวียนว่ายยังไม่ทันตายก็ต้องถูกจับมาให้คนเอาไปปล่อยใหม่อีก วนไปอยู่อย่างนั้น เป็นบุญบาปหมุนเวียนไปไม่รู้จบ น่าสงสารเสียจริง ๆ
ยิ่งช่วงวันพระใหญ่ เหล่าชาวพุทธก็ขวนขวายหาที่ทางสร้างบุญกันอยู่เป็นประจำ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่ดีค่ะ แต่คงจะดีกว่านี้หากสิ่งที่จะสร้างบุญนั้น เป็นบุญแบบบริสุทธิ์ ไม่เบียดเบียนชีวิตใคร แม้กระทั่งสัตว์
เพราะฉะนั้นจงอย่าหยิบยื่นบุญแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ให้สัตว์ทั้งหลายเลยดีที่สุด…
หากอยากปล่อยเต่า ปลา นก หรือสัตว์อื่น ๆ จริง ๆ ก็ควรศึกษาบ้านและสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมของพวกมันก่อนจะดีกว่า
ปลาราหูหรือปลาเทศบาล ไม่ควรปล่อยลงแหล่งน้ำธรรมชาติ เพราะมันเป็นผู้ล่า พร้อมที่จะทำลายสัตว์อื่นที่ขวางหน้าทั้งหมด
ปลาดุกก็เช่นกัน มันทำลายสภาพแวดล้อมตามธรรมชาติ และระรานเพื่อนสัตว์น้ำอยู่ตลอดเวลา
กบ เขียด สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าควรปล่อยในสถานที่ที่มี ‘บก’ ให้พวกมันได้ขึ้นมาพักกายพักใจด้วย การปล่อยในน้ำลึก แม่น้ำ จะเป็นการฆ่าพวกมันทางอ้อมได้นะ
เต่า ตะพาบน้ำ สัตว์เลื้อยคลานก็ต้องมีตลิ่งหรือบนบกให้ได้มายึดเกาะด้วยเช่นกัน ไม่สามารถว่ายน้ำตลอดเวลาแบบปลาได้
นก เป็นสัตว์ที่ควรจะโลดแล่นเป็นอิสระอยู่บนฟ้าอยู่แล้ว การไปจับมาขังกรงเพื่อจะปล่อยไปอีกครั้ง มันเป็นการทารุณกรรมสัตว์ และรบกวนวงจรชีวิตสัตว์อย่างมาก
*นกบางชนิดถือเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง เช่น นกกระติ๊ดขี้หมู ซึ่งบางร้านค้าอาจนำมาเป็นเครื่องมือในการทำบุญได้ นอกจากจะหมิ่นเหม่ในการสร้างบุญแล้ว อาจจะผิดกฎหมายอีกด้วย
นอกจากปล่อยไปในบ้านดั้งเดิมของมันแล้ว ปัจจัยอื่น ๆ ที่ควรคำนึงถึงด้วย ได้แก่ ควรปล่อยในปริมาณที่ไม่มากล้นจนเกินไป, ไม่ปล่อยที่แหล่งน้ำที่เชี่ยวหรือมีกระแสน้ำไหลแรง, ควรปล่อยในน้ำที่ไม่ลึกจนเกินไป, ควรปล่อยในแหล่งน้ำสะอาด มีพืชน้ำเป็นแหล่งอาหาร
เพราะฉะนั้นต่อให้เรามี 'เจตนาดี' แต่ทุกอย่างมันผิดที่ผิดทางไปหมด เราจะยังรู้สึกอิ่มบุญกันอยู่ไหม ?
เห็นไหมล่ะว่าการจะไถ่ชีวิตสัตว์เพื่อสร้างบารมีให้ชีวิตเรา บางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อย่าให้ ‘บุญสำเร็จรูป’ มาเปลี่ยนความตั้งใจให้กลายเป็นบาปไปง่าย ๆ นะคะ
เราสามารถทำบุญได้ด้วยการไม่เอาชีวิตอื่นเป็นเดิมพันค่ะ
.
ขอบคุณข้อมูลจาก
ความเห็น 39
กฤติเดช สุขเนืองนอง
บุญ ยิ่งใหญ่สุด คืออุปฐาก พระในบ้าน ให้อยู่ดี กินดี นอนหลับ ตามอัตภาพ ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ทำได้ทุกวัน
16 ก.พ. 2565 เวลา 04.49 น.
‘0’
ไม่เคยซื้อปลาในวัดแล้วมาปล่อยในวัด ไม่มีประโยชน์ยิ่งซื้อพวกมันก็ยิ่งจับ มีแต่บาปกรรม ไปซื้อปลาที่กำลังจะโดนสับในตลาดมาปล่อย มีประโยชน์กว่าเยอะ 😂
16 ก.พ. 2565 เวลา 02.43 น.
P4279/42ศุภสันต์ นาค
ไม่ได้บุญครับโง่ คนขายได้เงินสะบายๆถ้าไม่อุดหนุนคนขายเขาจะเลิกจับปลาไปเอง...เป็นผมก็ไม่ซื้อมาปล่อยนะร้านตามวัดนะพวกหากินกับสัตว์
16 ก.พ. 2565 เวลา 05.56 น.
ก็อยู่ที่คุณซื้อจากที่ไหน ไปปล่อยที่ไหน อุตส่าห์ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ต้องรู้จักใช้ปัญญาพิจารณาซะบ้าง ไม่ใช่เห็นใครทำ ก็ทำตามกันโดยไม่คิดอะไรเลย อย่างเช่นนกที่ถูกขังกรงขายให้คนซื้อไปปล่อย ขายอยู่ในวัด ควรซื้อปล่อยมั้ย?? ไม่ใช่แค่สงสารก็ซื้อไปปล่อย
16 ก.พ. 2565 เวลา 05.33 น.
Por
บาป และทารุณกรรมสัตว์
เต่าบางพันธุ์ ไม่ได้อาศัยในน้ำ
เต่าที่อยู่ในน้ำ ต้องการแหล่งน้ำที่มีตลิ่ง เพื่อขึ้นบกมาพักเหนื่อย
ปลาบางพันธุ์ ต้องอยู่ในน้ำนิ่ง บางพันธุ์อยู่ในน้ำไหล
นก เอาไปปล่อยไม่ถูกที่ ไม่มีแหล่งอาหาร น้ำ ทำรัง
สัตว์ทั้งหมดนี้ ส่วนใหญ่ตัองทรมาน อดตาย เป็นส่วนใหญ่
15 ก.พ. 2565 เวลา 17.22 น.
ดูทั้งหมด