NEVO E07 เปิดราคาจีนเริ่ม 945,000 บาท ไทยมาแน่ 28 พฤศจิกายน

ในที่สุด CHANGAN เปิดราคาจำหน่ายรถสารพัดประโยชน์เป็นทั้งเอสยูวีและกระบะในคันเดียวสำหรับ NEVO E07 หรือชื่อในไทย DEEPAL E07

ภายนอก Exterior

ภายนอกทรงสปอร์ตช่องระบายอากาศทรง 3 เหลี่ยมแบบเจาะช่องชุดไฟหน้า LED แนวยาวที่ประกอบด้วยไฟหน้า Dot Matrix LED ดวงเล็กสามดวง ครอบด้วยไฟ DRL แบบ LED รูปตัวซี ส่วนกลางติดตั้งแถบดิจิตอล บอกสถานะตัวรถแลความจุแบตเตอรี่รถที่คงเหลือ ด้านข้างเรียบเนียนทั้งคันด้วยมือเปิดประตูราบเรียบ

ด้านท้ายติดตั้งไฟท้าย LED แนววงรีในชุดฝาท้ายโดดเด่นด้วยหลังคารถท้ายลาดสไตล์คูเป้มีความโดดเด่นที่เป็นได้ทั้งรถเอสยูวีด้วยหลังคากระจกด้านหลัง สามารถเลื่อนสไลด์ เปิด-ปิด ได้ด้วยระบบไฟฟ้า ล้ออัลลอยเลือกได้ทั้งขนาด 20 นิ้วพร้อมยาง 255/55R20 และ 21 นิ้ว พร้อมยาง 265/45R21

ตัวรถสร้างจากแพลตฟอร์ม SDA โดยมีค่าสัมประสิทธิ์แรงเสียดทานเหลือ 0.237Cd ใหญ่โตตั้งแต่

• ความยาว 5,045 มิลลิเมตร
• ความกว้าง 1,996 มิลลิเมตร
• ความสูง 1,695 มิลลิเมตร
• ระยะฐานล้อ 3,120 มิลลิเมตร
• ระยะต่ำสุดจากพื้น 174-192 มิลลิเมตร
• น้ำหนักรถ 2,325-2,398 กิโลกรัม

ภายใน Interior

ภายในหรูสง่าแบบเดียวกับรถเก๋งพร้อมความโดดเด่นด้วยจอสัมผัสขนาดใหญ่ 15.4 นิ้ว แนวนอนที่เอนเข้าหาคนขับสะดวกสบายในการมองเห็นพร้อมลำโพง 18 จุด พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่บนแผงคอนโซลหน้า AR-HUD ขนาด 28.86 นิ้ว พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน 2 ก้าน และไฟสร้างบรรยากาศภายในมากถึง 256 สี สบายแบบ 5 ที่นั่ง ด้วยเบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้าดีไซน์เบาะแบบ Zero Gravity

ด้านท้ายขนของได้อย่างเต็มที่พร้อมห้องโดยสารด้านหลังรับน้ำหนักได้ถึง 300 กิโลกรัม เมื่อพับเบาะหลังและปิดฝาท้ายจะมีพื้นที่ยาวถึง 1,667 มิลลิเมตร กว้าง 1,028 มิลลิเมตรและถ้าเปิดฝาท้ายจะมีพื้นที่ยาว 2,880 มิลลิเมตร กว้าง 1,550 มิลลิเมตร

สมรรถนะ Performance

ขุมพลังมาทั้งแบบไฟฟ้าล้วนทั้งมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวและคู่พร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบไตรภาคหรือ Lithium-ion ternary battery จากสถาปัตยกรรมกระแสไฟฟ้าแรงดันสูงแบบ 800 โวลต์สามารถชาร์จเร็ว DC 30-80% ภายใน 15 นาทีวิ่งได้อีก 365 กิโลเมตร กับ ชาร์จช้า AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6 kW 30-80% ภายใน 8 ชั่วโมง

เริ่มที่รุ่น 70 Air Standard Range แบบมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง 224 แรงม้า แรงบิด 328 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.9 วินาที วิ่งไกลสุด 551 กิโลเมตร (CLTC) จากความจุแบตเตอรี่ 70.54 kWh หรือ 70 kWh

รุ่น 90 PRO Extended Range มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลัง 343 แรงม้า แรงบิด 365 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 201 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 6.7วินาที วิ่งไกลสุด 651 กิโลเมตร (CLTC) จากความจุแบตเตอรี่ 89.98 kWh หรือ 90 kWh

รุ่น 90 MAX Performance AWD และรุ่น 90 Ultra Performance AWD มาแบบมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อ โดยมอเตอร์ล้อหน้า 256 แรงม้า แรงบิด 280 นิวตันเมตร และมอเตอร์ล้อหลัง 343 แรงม้า แรงบิด 365 นิวตันเมตรให้กำลังรวม 599 แรงม้า แรงบิด 645 นิวตันเมตร ความเร็วสูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมงให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 3.96 วินาที วิ่งไกลสุด 651 กิโลเมตร (CLTC) จากความจุแบตเตอรี่ 89.98 kWh หรือ 90 kWh

ยังมีขุมพลัง EREV ใช้เครื่องยนต์ในการปั่นไฟคู่กับแบตเตอรี่และมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อนจากพื้นฐานเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร 150 แรงม้า จับคู่กับมอเตอร์ไฟฟ้าพร้อมแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบไตรภาคหรือ Lithium-ion ternary battery

ด้วยความจุแบตเตอรี่ 39.057 kWh หรือ 39 kWh ให้ความเร็วสูงสุด 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สามารถชาร์จเร็ว DC 30-80% ภายใน 15 นาทีกับชาร์จช้า AC รองรับการชาร์จสูงสุด 6 kW 30-80% ภายใน 3 ชั่วโมง วิ่งไกลต่อการชาร์จแบบ BEV 230 กิโลเมตร และน้ำมัน 1 ถังกับชาร์เต็ม 1 ครั้งรวมกันวิ่งไกลสุด 1,130 กิโลเมตร

แบ่งเป็นรุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยวขับเคลื่อนล้อหลังรุ่น ATDM02 314 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 7.1 วินาที ในรุ่น 39 PRO รุ่นมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ขับเคลื่อน 4 ล้อโดยมอเตอร์ล้อหน้ารุ่น AYDM01 178 แรงม้า แรงบิด 262 นิวตันเมตร และมอเตอร์ล้อหลังรุ่น ATDM02 314 แรงม้า แรงบิด 375 นิวตันเมตร ให้กำลังรวม 492 แรงม้า แรงบิด 637 นิวตันเมตร ให้อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำได้ 5.15 วินาที ในรุ่น 39 MAX, รุ่น 39 Ultra

ลุยน้ำได้สูงสุด 600 มิลลิเมตร พร้อมลุยทุกสถานการณ์ทั้ง ระยะมุมเงย Approach Angle 21 องศา และระยะมุมจาก Departure Angle 23 องศาจากช่วงล่างอิสระ 4 ล้อทั้งอิสระปีกนกคู่ด้านหน้าและอิสระ H-arm ด้านหลัง

ความปลอดภัย Safety

พร้อมระบบความปลอดภัยด้วยระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะที่พัฒนาขึ้นเองของ CHANGAN ประกอบด้วยกล้องความละเอียดสูง 11 ตัว เรดาร์คลื่น 5 มิลลิเมตร เรดาร์อัลตราโซนิก 12 ตัว ขับเคลื่อนระบบช่วยเหลือการขับขี่อัจฉริยะขั้นสูงและระบบอื่นๆ ดังนี้

• ช่วยตรวจจับสัญญาณไฟจราจร (TLR)
• จดจำป้ายจราจร (TSR)
• ช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน (LDW)
• ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน (LKA)
• ช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนขณะฉุกเฉิน (ELK)
• เตือนหากเสี่ยงต่อการชนด้านหน้า (FCW)
• เตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหน้า (FCTA)
• เตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาด้านหลัง (FCTB)
• เตือนหากเสี่ยงต่อการโดนชนด้านหลัง (RCW)
• เตือนเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA)
• ช่วยเบรกเมื่อมีรถที่มุมอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTB)
• แจ้งเตือนมุมอับสายตา (BSD)
• เตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน (LCA)
• ควบคุมความเร็วอัตโนมัติแปรผันแบบผสมผสาน (IACC)
• ปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าพร้อม Stop & Go
• เบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ (AEB)
• ช่วยเตือนระยะห่างจากรถคันหน้า (SDW)

ระบบความปลอดภัย (Safety Features) มาครบทั้งถุงลมนิรภัยรอบคัน กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา พร้อมระบบแสดงภาพตัวรถ (360o Around View Camera with Transparent Chassis) และระบบบันทึกวิดีโอการขับขี่ (Drive Video Recorder)

NEVO E07 Multifunction SUV เปิดราคาขายที่เมืองจีนเริ่มต้น 199,900-319,900 YUAN หรือราว 945,000-1,509,000 บาทในรุ่น BEV 4 รุ่นย่อย และ 209,900-299,900 YUAN ในรุ่น EREV 3 รุ่นย่อย 995,000-1,415,000 บาท ทางด้านเมืองไทยพบตัวจริงพวงมาลัยขวาที่แรกเปิดตัวและราคาในวันที่ 28 พฤศจิกายนในนาม DEEPAL E07

ที่มา CarNewsChina