“ASP-VIETEQ-AI” คัดเน้นๆ เฟ้น “หุ้นเวียดนาม” ตัวท็อป... “ติดปีกเงินลงทุน” เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนสูง !!!
โดย: บลจ.แอสเซท พลัส
ถ้าจะมองหาประเทศที่มีเศรษฐกิจเติบโตในระดับสูงของโลกในปัจจุบัน หนึ่งในนั้นต้องมี “เวียดนาม” อยู่ในลิสต์ด้วยแน่นอน ด้วยคาดการณ์ GDP ขยายตัวเฉลี่ยปีละราว 6.3% ในปี 2024-2026 (ที่มา: Bloombergก.ย. 67)
ตลาดหุ้นเวียดนามมีศักยภาพในการเติบโตระดับสูงในแง่ของการทำกำไร และมีมูลค่าพื้นฐานในระดับที่น่าสนใจ โดยปัจจุบันมี Blended 12M Forward P/E ที่ 10.61เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5ปีที่ 11.60 เท่า ในขณะที่คาดการณ์กำไร บจ.เติบโตระดับสูง 22.06% และ 19.74% ในปี2024 และ 2025 ตามลำดับ (ที่มา:Bloomberg, วันที่ 27ก.ย. 67)
แต่มีกี่คนที่รู้ว่า…ช่วง 5 ปี ที่ผ่านมาที่ “ตลาดหุ้นเวียดนาม” บวกขึ้นมา +32.34% นั้น เป็นผลจาก “หุ้น Top5” ถึง 66.98%โดย ราคาหุ้น Top5 ปรับตัวขึ้น +185.62%(VN30 Indexข้อมูล ณ ธ.ค. 66)
และจะมีกี่คนที่รู้ว่า…ผลตอบแทนดังกล่าวนั้นกระจุกตัวอยู่ในหุ้น 2 “อุตสาหกรรมแรก” ที่มีจำนวนเพียง 68 ตัว เท่านั้น ซึ่งมาจากกลุ่ม “Information Technology” 5 ตัว และ “Materials” อีก 63 ตัว จากทั้งหมด 394 ตัว หรือคิดเป็นเพียง 17% ของดัชนี “VN Index” เท่านั้น !!!(ที่มา: บลจ.แอสเซท พลัส, ข้อมูล ณ ธ.ค. 66 )
จะดีกว่ามั้ย?…ถ้าเราจะได้ไปลงทุนใน “ตลาดหุ้นเวียดนาม” ดาวเด่นแห่งเอเชีย สไตล์ “High Conviction” โดยคัดเน้นๆ เฟ้น “หุ้นตัวท้อป” ที่มีศักยภาพในการสร้างผลตอบแทนคาดหวังในระดับที่สูงกว่าตลาดชัดเจน เพื่อตอบโจทย์การลงทุนระยะยาว
วันนี้ โอกาสนั้นมาถึงแล้ว กับ “ASP-VIETEQ-AI: กองทุนเปิด แอสเซท พลัส เวียดนาม อิควิตี้ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย” ของ“บลจ.แอสเซท พลัส” ที่กำลังจะเสนอขายครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 30 ก.ย. – 7 ต.ค. 67นี้
“เวียดนาม” ดาวเด่นแห่งเอเชีย…พร้อมอัพเกรดเลื่อนชั้นสู่ “ตลาดเกิดใหม่” (Emerging Market)
สำหรับนักลงทุนที่มองหาโอกาสการเติบโตของเงินลงทุนระยะยาว “หุ้นเวียดนาม” เป็นหนึ่งในพิกัดเป้าหมายที่ไม่อาจละเลย เพราะเป็นตลาดที่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่รองรับ เป็นตลาดที่มากับธีมของ “การเติบโต” (Story of Growth) ที่มีพื้นฐานรองรับที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็น
เศรษฐกิจเวียดนามเติบโตแข็งแกร่งและคาดการณ์ขยายตัวเฉลี่ยปีละ 6.3% ในปี2024-2026
“ค่าแรงขั้นต่ำ” ถูกที่สุดในอาเซียน ที่ระดับ $165 ต่อเดือน ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ $226 ต่อเดือน (ต่ำกว่า 27%)
“FDI” แรงขับเคลื่อนหลักเติบโตก้าวกระโดด ที่ระดับเฉลี่ย 7-9% ต่อปี
จำนวน “สัญญา FTA” สูงสุดในอาเซียน ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนต่างชาติ
(ที่มา: Bloomberg, HSC, Statista,ก.ย. 67)
“นอกจากพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งแล้ว ‘หุ้นเวียดนาม’ ในปัจจุบันยังเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่ถูกสุดตลาดหนึ่งของโลก ปัจจุบันมี Forward 12M P/E ที่ 10.61 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 5ปีที่ 11.6 เท่า ในขณะที่คาดการณ์กำไรบจ.เติบโตระดับสูง ในปี 2024 และ 2025 ตามลำดับ สูงที่สุดในอาเซียน(ที่มา:Bloomberg, วันที่ 27 ก.ย. 67)”
ที่สำคัญ "ตลาดหุ้นเวียดนาม" ยังเตรียมยกระดับจาก "ตลาดชายขอบ" (Frontier Market) สู่ "ตลาดเกิดใหม่" (Emerging Market)หลังมีการพัฒนากฎหมายตลาดทุนให้มีความเป็นมาตรฐานสากล หลักๆ ได้แก่
การให้บริษัทจดทะเบียนที่มีส่วนผู้ถือหุ้นเกิน 5 ล้านดอลลาร์ ต้องเปิดเผยงบการเงินเป็นภาษาอังกฤษ โดยมีผลบังคับใช้ปี 2025
การยกเลิก Prefunding จากนักลงทุนต่างชาติ คาดเริ่มใช้ธ.ค.24 - ม.ค. 25
“โดยคาดว่า ‘หุ้นเวียดนาม’จะยกระดับเข้าสู่ ‘FTSE Emerging Market’ ในช่วงไตรมาสที่3/25 ซึ่งเมื่อนั้นจะดึงเม็ดเงินลงทุนจากนักลงทุนทั่วโลกเข้ามาอีกเป็นจำนวนมาก เป็นปัจจัยบวกที่สำคัญต่อการสนับสนุนโมเมนตัมการปรับตัวขึ้นในระยะยาวให้กับตลาดหุ้นเวียดนามได้เป็นอย่างดี”
“ASP-VIETEQ-AI” คัดเน้นๆ เฟ้น “หุ้นเวียดนาม” ตัวท็อป…“ทางเลือกที่ดีกว่า” สไตล์ “High Conviction”
แน่นอนว่า…“หุ้นเวียดนาม” เป็นตลาดที่น่าสนใจที่คงไม่มีใครปฏิเสธ แต่เราจะไปลงทุนยังไงเพื่อคว้าโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดีไปพร้อมๆ กับการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศเวียดนามได้
ปัจจุบัน “กองทุนหุ้นเวียดนาม” ส่วนใหญ่ จะมีการกระจายการลงทุนไปใน “หุ้น” หรือ “กองทุนรวม/ETF” เป็นสำคัญ ซึ่งเป็นทางเลือกปกติในการลงทุน แต่นั่นอาจ “ไม่ใช่คำตอบ” ที่ดีที่สุดก็ได้
เพราะจากข้อมูลช่วง 5 ปี ที่ผ่านมา พบว่า “หุ้นเวียดนาม” ที่บวกขึ้นมา
โดยที่ตลาดหุ้นเวียดนามกระจุกตัวอยู่ในหุ้น 2 “อุตสาหกรรมแรก” ที่มีจำนวนเพียง 68 ตัว ซึ่งมาจากกลุ่ม “Information Technology” 5 ตัว และ “Materials” อีก 63 ตัว จากทั้งหมด 394 ตัว หรือคิดเป็นเพียง 17% ของดัชนี “VN Index” เท่านั้น !!! % (ที่มา: บลจ. แอสเซท พลัส, ณ วันที่ 30 ส.ค. 24, ข้อมูลตั้งแต่ 5 ม.ค. 2018 – 30 ส.ค. 2024)
ดังนั้น การไป “กระจาย” อาจไม่ตอบโจทย์เท่ากับการไปแบบ “โฟกัส” คัดเน้นๆ เฟ้น “หุ้นเวียดนาม” ตัวท้อป สไตล์ “High Conviction” ก็ได้
และนี่คือ ที่มาของ “ASP-VIETEQ-AI: กองทุนเปิด แอสเซท พลัส เวียดนาม อิควิตี้ ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย” ของ“บลจ.แอสเซท พลัส” ที่เน้นลงทุน “หุ้นเวียดนาม” ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจ โดยอาจลงทุนในหุ้นตัวใดตัวหนึ่งมากกว่า 10% แต่ “ไม่เกิน 25%” ของ NAV ด้วยทีมงานคุณภาพ “ผู้จัดการกองทุนคนไทย” ของบลจ.แอสเซท พลัสนั่นเอง
เปิดกระบวนการลงทุนสุดเข้มข้น…เฟ้นหา “หุ้นตัว Top”
ด้วยการลงทุนสไตล์ “High Conviction” ที่เน้นลงทุนแบบโฟกัสในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตระยะยาวอย่างสม่ำเสมอและที่สำคัญต้องดีกว่าตลาดโดยรวมด้วยเช่นกัน ดังนั้น “ทีมงานผู้จัดการกองทุน” ของ “บลจ.แอสเซท พลัส” จะต้อง
1) เฟ้นหา “ผู้ชนะระยะยาว” ที่มีรูปแบบธุรกิจที่แข็งแกร่งและได้เปรียบคู่แข่ง
2) ระบุบริษัทที่ “มีคุณภาพและความยั่งยืนของกำไร” รวมถึงผู้บริหารที่มีประสบการณ์ และ
3) ลงทุนในบริษัทที่มีการเติบโต “สมเหตุสมผลกับราคาตลาด” ให้ได้
“เพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบเหล่านั้น ทีมงานจะต้องไปลงพื้นที่เพื่อเข้าพบกับทีมผู้บริหารบริษัท และเยี่ยมชมกิจการ (Company Visit) เช่นเดียวกับที่ลงทุนในหุ้นไทย ตลอดจนสำรวจธุรกิจและพบปะผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่ครบถ้วนมาประกอบการตัดสินใจลงทุนนั่นเอง”
โดยจะต้องไปสแกนหาหุ้นที่มีอยู่ในตลาดทั้ง HOSE, Hanoi และ UPCOM รวมกันกว่า 1,579 บริษัท เพื่อเลือกเข้ามาอยู่ใน “ตะกร้าหุ้น” (Universe)ประมาณ 45 ตัว ก่อนจะนำหุ้นใน “Universe” มาวิเคราะห์เชิงลึกด้วย “Investment Scorecard” ผ่านปัจจัยทั้ง “เชิงคุณภาพ” (Qualitative) และ “เชิงปริมาณ” (Quantitative) อย่างละ 50% เท่ากัน ประกอบด้วย
การประเมินภาพรวมและความน่าสนใจของอุตสาหกรรม
การวิเคราะห์ธุรกิจในเชิงลึก
การประเมินมูลค่าที่เหมาะสม
โมเมนตัมของราคาหุ้น
ความต่อเนื่องในการเติบโตของธุรกิจ คุณภาพและความยั่งยืนของกำไร
“แล้วให้คะแนนหุ้นแต่ละตัวจัดเรียงลำดับเพื่อเลือกหุ้นที่ได้รับคะแนน Scorecard สูงสุด 11 – 12 บริษัท ก่อนที่จะคัดเลือก ‘หุ้นที่ดีที่สุด’5 – 7 บริษัทเพื่อลงทุนเป็นขั้นตอนสุดท้ายในการจัดทำเป็น ‘Portfolio’ นั่นเอง”
“Portfolio Simulation” ชนะ Benchmark 7 ปี จาก 7 ปี…คิดเป็น “Win rate” 100%
ทั้งนี้ พบว่ากลุ่มอุตสาหกรรมที่น่าสนใจและมีโอกาสที่ดีในการลงทุน ได้แก่
“ธุรกิจการเงินและการธนาคาร” (Financial Services): แหล่งเงินทุนให้ผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และรายย่อย รวมถึงการปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มมากขึ้นตามกำลังการบริโภคในประเทศที่ขยายตัวต่อเนื่อง ตัวอย่างหุ้นที่น่าสนใจ เช่น “HD Bank”ที่ดำเนินธุรกิจธนาคารและให้บริการทางการเงินให้แก่ลูกค้าบุคคลและบริษัทมาตั้งแต่ปี1989
“ค้าปลีก” (Retail): แนวโน้มการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นทั้งสินค้าทั่วไปและสินค้าฟุ่มเฟือย โดยการเติบโตของ E-commerce เป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ธุรกิจค้าปลีก ตัวอย่างหุ้นที่น่าสนใจ เช่น “MOBILEWORLD”ผู้ค้าปลีกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้ารายแรกและใหญ่สุดในเวียดนามมีส่วนแบ่งการตลาดกว่า 50% โดยมีการขยายธุรกิจไปทำ Supermarket เพิ่มเติมจน Market Share ขึ้นเป็นอันดับ1 ในปี2023
“IT” และ “เทคโนโลยี” (Information Technology & Technology): “เวียดนาม” กลายเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีที่สำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีการเติบโตของอุตสาหกรรมที่รวดเร็ว แรงงานมีความสามารถและค่าแรงถูก ประกอบกับภาครัฐมุ่งสนับสนุนเป็นแต้มต่อที่สำคัญอีกด้วย ตัวอย่างหุ้นที่น่าสนใจ เช่น “FPT” บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ในเวียดนาม ด้วยมูลค่าตลาดสูงที่สุดกว่า 2.5 แสนล้านบาท
“โครงสร้างพื้นฐาน” (Infrastructure): “เวียดนาม” มุ่งหน้าพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการขยายความเจริญของเมืองและรองรับการลงทุนจากต่างชาติ เช่น การคมนาคม, โลจิสติกส์, ระบบสาธารณูปโภค เป็นต้น
“โดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะลงทุนในพอร์ตเบื้องต้นนั้น ประกอบด้วย 1) Financials 28.57%, 2) IT 28.57%, 3) Industrials 28.57% และ 4) Consumer Discretionary14.29% ซึ่งจากการทดสอบแบบจำลองพอร์ตพบว่า ‘Portfolio Simulation’ ชนะ Benchmark 7 ปี จาก 7 ปี คิดเป็น ‘Win rate’ 100% เลยทีเดียว(ที่มา: บลจ.แอสเซท พลัส, ณ วันที่ 30 ส.ค. 24, ข้อมูลตั้งแต่ 5 ม.ค. 2018 – 30 ส.ค. 2024)”
สำหรับใครที่กำลังมองหาโอกาสลงทุนใน “ธีมการเติบโต” (Story of Growth) คาดหวังผลตอบแทนที่สูงเพื่อให้เงินลงทุนเติบโตในระยะยาว “หุ้นเวียดนาม” ดาวเด่นแห่งเอเชียเป็นทางเลือกที่ไม่อาจละเลยได้ และเชื่อว่ากองทุน “ASP-VIETEQ-AI” น่าจะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี ด้วยกลยุทธ์การลงทุนสไตล์ “High Conviction” ที่คัดเน้นๆ เฟ้นหุ้นคุณภาพที่มีความแข็งแกร่งและเติบโตอย่างสม่ำเสมอมาเป็นคำตอบให้นั่นเอง
ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต
กองทุนนี้เสนอขายเฉพาะผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนรายใหญ่ (High Net Worth) และผู้ลงทุนรายใหญ่พิเศษ (Ultra High Net Worth) เท่านั้น
“ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน” กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลพินิจผู้จัดการกองทุน ผู้ลงทุนอาจขาดทุน หรือได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.assetfund.co.th/adv/fund/ASP-VIETEQ-AIสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่
บลจ. แอสเซท พลัส โทร. 0-2672-1111 www.assetfund.co.th