ตอนนี้จีนยกเลิกล็อกดาวน์
มีคนไปถ่ายทำกิจกรรมในหลายโรงงาน
เห็นกันจะจะว่าเครื่องจักรไม่เดิน
เนื่องจากไม่มีออร์เดอร์เข้ามา
ตอนนี้พูดกันในระดับรัฐบาลว่า
เศรษฐกิจโลกเข้าขั้นหายนะไปแล้ว
ไม่เคยมีวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใดในประวัติศาสตร์
ที่ทุกประเทศแชร์ความเสียหายพร้อมกันขนาดนี้มาก่อน
ขั้วอำนาจ หรือประเทศมหาอำนาจทั้งหลาย
อาจกลายเป็นอะไรที่ไม่มีอำนาจแบบเดิมๆ อีกต่อไป
นี่ยังไม่นับที่มีการค้นพบว่า
มีโควิดสายพันธุ์หนึ่งที่แฝงตัวอยู่ในระดับเซลล์
ผู้ติดเชื้ออาจแสดงอาการป่วยแล้วหาย
เทสต์แล้วได้ผลเป็นลบ
แต่กลับบ้านไป ต่อให้อยู่คนเดียว
ก็กลับกำเริบขึ้นมาใหม่ได้
สายพันธุ์นี้น่ากลัวมาก
พูดง่ายๆ ว่า ติดแล้วติดเลย ยังไม่มีทางรักษา
สรุปคือ พวกเรากำลังเจอโจทย์ที่หินที่สุดในโลก
ซึ่งถ้ามาคุยกันจริงจัง
ไม่เอาแค่คำปลอบประโลมไปวันๆ
เราต้องสำรวจ ‘สถานการณ์ทางใจ’
ของผู้คนส่วนใหญ่กันแล้ว
สำรวจว่า ถ้าสถานการณ์ภายนอกไม่ดีขึ้น
เราจะอยู่กันอย่างไร
ทั้งขณะที่โลกยังอยู่ในเงื้อมมือโควิด
และหลังจากโลกผ่านเมฆหมอกพิษโควิดไปได้
มีรายงานกันมากขึ้นว่า
เพื่อนในกลุ่มเฟสกลุ่มไลน์
เขียนขอลาตายกันเยอะมาก
มีรายงานเป็นทางการว่า
เฉพาะในจีน แค่ผัวเมียอุดอู้อยู่ที่บ้าน
ใกล้ชิดกันมากขึ้นเพียงเดือนเดียว
สถิติการขอหย่าร้างพุ่งพรวด ๒๕%
รายงานเหล่านี้
บอกว่าสถานการณ์ทางใจของผู้คนในโลก
กำลังอยู่ในภาวะพ่ายแพ้ ไม่ใช่แค่วิกฤต
แต่ขณะเดียวกัน
ก็มีรายงานอย่างไม่เป็นทางการ
เป็นข่าวดีที่คงไม่ค่อยมีคนเห็น
เมื่อถูกกักบริเวณแล้ว
รู้สึกว่าถึงเวลา
ต้องหันมารู้กายรู้ใจให้เป็นสุข
ตามอัตภาพแบบพุทธกัน
คนกลุ่มนี้รายงานว่า
อยู่บ้านก็รู้สึกสบายดี
หรือกระทั่งนึกขอบคุณโควิด
ที่ช่วยให้มาถึงจุดที่เอาจริง
กับการมีสติอยู่กับเนื้อกับตัวได้เสียที
อย่าไปทำนายโลกอนาคตในวันหน้า
ตอนนี้ไม่มีใครรู้แน่หรอกว่า
จะเน่าเปื่อยไปกว่านี้แค่ไหน
แต่จิตวิญญาณของเราเองนี่แหละ
น่าให้ตัวเองพยากรณ์ยิ่งว่า
จะมี ‘วันนี้’ ที่ดีขึ้นได้หรือเปล่า
คนที่หันมาเรียนเจริญสติ
รู้กายรู้ใจของตัวเองจริงจัง
คือคนที่มีสิทธิ์หลุดพ้น
จากกรงขังคับแคบน่าอึดอัดตั้งแต่วันนี้เลย!
(หมายเหตุ - สำหรับท่านที่ยังไม่เคยเห็นนะครับ
หากต้องการเทคโนโลยีภาพเสียง
ที่ช่วยคลายความเครียดได้ด่วนๆ
ขอให้ลองเข้าไปที่เว็บ www.เสียงสติ.com ดู
อาจไม่เหมาะกับทุกคน
แต่ถ้าคุณเป็นหนึ่งในคนที่เหมาะ
ก็จะเป็นจุดเริ่มต้นให้เข้าทางการเจริญสติได้ง่ายๆครับ)