เป็นอีกหนึ่งคนดังในวงการบันเทิง ที่กลายเป็นดราม่าจนติดเทรนด์ทวิตเตอร์หลายครั้ง สำหรับศิลปินหนุ่มอารมณ์ดี โอ๊ต ปราโมทย์ โดยล่าสุด #โอ๊ตปราโมทย์ พุ่งขึ้นมาติดเทรนด์ทวิตเตอร์อีกครั้ง หลังจากเผลอหลุดปากแซ็วเกมเมอร์สาวว่า “พี่ขอจับไข่หน่อยครับ” โดยมีชาวทวิตจำนวนหนึ่งมองว่าเป็นการกระทำที่เข้าข่ายคุกคามทางเพศ
โดยล่าสุด โอ๊ต ปราโมทย์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวแล้วว่า กับดราม่าครั้งนี้สบายมากๆ เพราะชินแล้ว เรื่องดังกล่าวถือเป็นความเข้าใจผิดกัน หลังกลายเป็นประเด็นดราม่า ก็มีการพูดคุย และขอโทษต่อเกมเมอร์ ร่วมทั้งคนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องไปแล้ว ซึ่งทุกฝ่ายก็ไม่มีใครติดใจอะไร ซึ่งจากเหตุการณ์นี้ทำให้มีความคิดอยากพัก และหยุดเล่นทวิตเตอร์ไปสักพัก
“ผมรู้สึกว่าเราโตขึ้น ในวัยที่เราอายุขนาดนี้แล้ว เรามีจุดมุ่งหมายในชีวิตชัดเจน มีเจตนาในการทำงานชัดเจน ไม่ว่าอะไรที่เกิดขึ้นรอบตัวเรา เป็นสิ่งที่เราคัดกรองแล้วว่าโอเค ผมเป็นคนมีเส้นของตัวเอง ฉะนั้นการที่คนอื่นเอาเส้นของคนอื่นมาตัดสินเรา แล้วมาด่าโดยที่เราไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร อาจจะเด็กกว่าเราก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าเราไม่ควรอยู่ในสถานที่ที่คนจะด่าโดยที่ไม่มีเหตุผล แล้วตอนนี้กลายเป็นว่าทุกคนใช้เรื่องของความรุนแรงทางเพศ ใช้การบูลลี่เป็นอาวุธในการโจมตีคนอื่น ชอบไม่ชอบไม่รู้ ขอด่าไว้ก่อน เรารู้สึกว่าเหตุการณ์ตอนนั้น เราไม่ได้เจตนาไม่ดี แล้วก็รู้สึกว่าไม่อยากให้คนมานั่งด่า เลยเลิกเล่นดีกว่า
หลังจากที่เลิกเล่นก็สบายครับ คือตอนมีมันก็สบาย เพราะหลังๆ ผมไม่ค่อยได้เล่นอยู่แล้ว จริงๆ เพื่อนศิลปินในวงการ หรือดาราหลายคนก็เลิกเล่นไปหลายคน เพราะบางทีมันก็กระทบกับจิตใจเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเราก็อยู่ในพื้นที่ที่เราสบายใจมากกว่า ไม่ใช่ทวิตเตอร์ไม่ดีนะ ทวิตเตอร์ก็ดี มีทั้งเรื่องราว อัปเดตมันเร็วมาก ทุกคนสามารถเข้าไปเสพข่าวต่างๆ ได้รวดเร็ว แต่บางทีมันก็ถูกใช้ผิดวิธีไปนิดนึง ผมเป็นแบบนี้ ผมระวังไม่ได้หรอกครับ ผมก็เป็น โอ๊ต ปราโมทย์ เหมือนเดิม อยู่ที่ว่าทุกคนจะชอบหรือไม่ชอบมันเท่านั้นเอง ผมไม่อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง ก็ยังมีคนที่ชอบเราที่เราเป็นลักษณะแบบนี้ ฉะนั้นผมก็ต้องเคารพคนที่เขารักเราด้วย”
ส่วนคอมเมนต์ที่หลายคนพูดว่า “ยิ่งโดนด่า จะยิ่งดัง” โอ๊ต บอกว่า ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เพราะแม้จะต้องแลกมาด้วยความดัง และกระแสต่างๆ แต่ก็คงไม่มีใครแฮปปี้กับการโดนด่าทุกวัน การถูกตำหนิยังเป็นเรื่องที่ยอมรับได้ แต่การโดนด่ามันมีอะไรที่มากกว่านั้นมาก และไม่อยากต้องเอาตัวเองไปอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นแน่นอน